นู สกิน เดินหน้าดิจิทัลเต็มสูบ

นู สกิน ประเทศไทย ประกาศแผนรุกดิจิทัลเต็มสูบ หวังดึงคนรุ่นใหม่เข้าสู่ธุรกิจ ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าเติบโต 10% พร้อมตอกย้ำความสำเร็จการผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ชะลอวัย เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วยการต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มบิวตี้แกดเจ็ต จูงใจสมาชิกใหม่เข้าสู่ธุรกิจเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% ทั้งนี้บริษัทฯ คาดการณ์ว่าจะสามารถผลักดันยอดขายออนไลน์เติบโตและมีสัดส่วน 70% ของยอดขายรวมในปี 2562  

นางวิภาดา ตั้งปกรณ์  ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยภาพรวมธุรกิจว่า ในปีที่ผ่านมาตลาดขายตรงยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดย บริษัท นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส อิงค์ อเมริกา มีรายได้ทั้งปีเติบโตอยู่ที่ 2.68 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็น 18% ของอัตราการเติบโต ขณะที่ นู สกิน ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบด้วย 7 ประเทศ ได้แก่ ไทย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย บรูไน อินโดนีเซีย และ เวียดนาม สามารถสร้างยอดขายรวมเติบโตอยู่ที่ 317 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็น ประมาณ 12%

ทั้งนี้ปัจจัยความสำเร็จมาจากการเติบโตของไลน์ผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มของบริษัทฯ และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ เอจล็อค ลูมิสปา ในปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค ส่งผลให้ฐานลูกค้าเติบโต 16% และยอดผู้แทนจำหน่ายเติบโตขึ้น 16% โดยรวมจำนวนจากทุกตลาดทั่วโลก

“ในปี 2562 นู สกิน ทั่วโลก มีการปรับกลยุทธ์ด้านดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital platform) เพื่อรับมือกับผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็เป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้แทนจำหน่ายได้ใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มดิจิทัลได้อย่างเต็มที่ ควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพระดับนวัตกรรม โดย นู สกิน เรามีแผนที่จะสร้างความสำเร็จจากผลิตภัณฑ์เอจล็อค ลูมิสปา ด้วยการต่อยอดนวัตกรรมและเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มบิวตี้แกดเจ็ต

นอกจากนี้เป้าหมายที่สำคัญของ นู สกิน คือการสร้างรายได้ให้ผู้คนทั่วโลก ด้วยแผนการตลาดที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ อย่างโปรแกรมเวโลซิตี้ (Velocity) แผนปันผลที่ให้ผลตอบแทนจริง รวดเร็ว และยืดหยุ่น ทำให้กลุ่มเป้าหมายเข้าสู่ธุรกิจมากยิ่งขึ้น ซึ่งนับเป็นกลยุทธ์ที่เป็นจุดแข็งของเราในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตในอนาคต” นางวิภาดา กล่าว

สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจของ นู สกิน ประเทศไทย ในปี 2562 นี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าธุรกิจตามนโยบาย นู สกิน ทั่วโลก ในการปรับกลยุทธ์และพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ครอบคลุมทุกรูปแบบการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น การทำ Web refreshment โดยการปรับปรุงพัฒนาเว็บไซต์ให้ทันสมัย โปรแกรมสนับสนุนกลยุทธ์การทำออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง เพื่อช่วยเพิ่มการค้นหาและเข้าถึงข้อมูลของ นู สกิน ได้เร็วขึ้น

การจัดกิจกรรม Innovation Expo ผ่านช่องทางออนไลน์ของบริษัทฯ การสร้างโอกาสทางธุรกิจด้วย Me Commerce แพลตฟอร์มออนไลน์ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกทั้งในเรื่องของการขายและรับส่งสินค้า และการใช้ Social communication เป็นเครื่องมือในการสื่อสารเพื่อเข้าถึงผู้บริโภค รวมทั้งพัฒนาช่องทางโซเชียลมีเดียให้ผู้แทนจำหน่ายนำไปปรับใช้ในการทำธุรกิจ

นางวิภาดา กล่าวเสริมว่า “จากภาพรวมความสำเร็จที่ผ่านมา นู สกิน ยังคงเดินหน้าพัฒนาศักยภาพอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมเดินเครื่องด้านดิจิทัลเต็มที่ โดยปีนี้ตั้งเป้ายอดขายออนไลน์เติบโตเพื่อให้มีสัดส่วนยอดขาย 70% ของยอดขายรวมในปี 2562 โดยมุ่งเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่อายุเฉลี่ย 18 – 35 ปี เพื่อขยายฐานผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 10%

พร้อมกันนี้  บริษัทฯ ได้เตรียมแผนการตลาดเพื่อเสริมสร้างจุดแข็งและตอกย้ำความสำเร็จการผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ชะลอวัยด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “เอจล็อค ลูมิสปา แอคเซนต์” (ageLOC LumiSpa Accent) นวัตกรรมเครื่องบำรุงและฟื้นฟูผิวรอบดวงตา ซึ่งได้ต่อยอดนวัตกรรมมาจากผลิตภัณฑ์กลุ่ม ลูมิสปา (LumiSpa) โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคมนี้  ทั้งนี้ นู สกิน ประเทศไทยเตรียมชูผลิตภัณฑ์ ในกลุ่มดังกล่าวเป็นสินค้าเรือธงที่จะสร้างยอดขายให้กับบริษัทฯ ในปีนี้ อีกด้วย”

นอกจากนี้ นู สกิน ยังให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยกิจกรรม นู สกิน เอ็กซ์โป ที่จัดต่อเนื่องมามากกว่า 10 ปี เนื่องจากเป็นหนึ่งในกลยุทธ์กระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภค โดยจะจัดขึ้นทุกๆ 3 เดือน ตลอดทั้งปี ตลอดจนกิจกรรมสัมมนาสร้างโอกาสทางธุรกิจโดยผู้นำระดับแนวหน้าของ นู สกิน และการจัดโปรแกรมทริปท่องเที่ยว (Incentive trip) เพื่อจูงใจการทำงานและเป็นรางวัลให้กับนักธุรกิจ ทั้งนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น 20% ปีนี้ นางวิภาดา กล่าวสรุป