เฟดเอ็กซ์ สร้างโอกาสทางสังคมและเศรษฐกิจแก่คนทั่วโลก
เฟดเอ็กซ์ เผยรายงานความรับผิดชอบต่อสังคมประจำปี พ.ศ. 2562 หรือ Global Citizenship Report (GCR) นำเสนอความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบและคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า รายงานประจำปีฉบับนี้ครอบคลุมกลยุทธ์ เป้าหมาย โครงการ และความก้าวหน้าของเฟดเอ็กซ์ใน 3 ด้านหลักๆ ประกอบด้วย ด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และบุคลากร ในปีงบประมาณ 2561 ซึ่งสิ้นสุดลงในวันที่ 31 พฤษภาคม 2561
“เครือข่ายทั่วโลกที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งของเฟดเอ็กซ์ทำให้เราสามารถสร้างโอกาสสำหรับบุคลากร ธุรกิจ และสิ่งแวดล้อมได้อย่างมหาศาล” คาเรน เรดดิงตัน ประธานบริษัท เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าว “รายงานความรับผิดชอบต่อสังคมฉบับล่าสุดแสดงถึงการทำงานที่ดีร่วมกันของทีมพนักงานเฟดเอ็กซ์ทั่วโลก รวมทั้งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่สนับสนุนวิสัยทัศน์ระดับโลกของเรา การได้เห็นความก้าวหน้าทำให้เรามีกำลังใจในการดำเนินงานต่อไป แต่การทำงานยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เราจะต้องเดินหน้าสร้างสรรค์ และสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้แก่ธุรกิจต่างๆ และชุมชนหลายแห่งทั่วโลก”
ด้านเศรษฐกิจ
ในปีงบประมาณ 2561 เฟดเอ็กซ์มีรายได้เกินกว่า 6.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 9 เปอร์เซ็นต์จากปีงบประมาณ 2560 และไต่ขึ้นไปถึงอันดับ 50 ในการจัดอันดับของบริษัทยักษ์ใหญ่ฟอร์จูน 500 ของสหรัฐอเมริกา ความสำเร็จครั้งนี้ทำให้บริษัทฯ เดินหน้าขับเคลื่อนการเติบโตและส่งเสริมเศรษฐกิจในตลาดที่เฟดเอ็กซ์ดำเนินธุรกิจอยู่
จิตวิญญาณของผู้ประกอบการหยั่งรากลึกในเฟดเอ็กซ์ บริษัทฯ ผลักดันโครงการต่างๆ ที่ส่งเสริมทักษะการเป็นผู้ประกอบการ อาทิ การแข่งขันการประกวดแผนธุรกิจเฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส/จูเนียร์ อะชีฟเม้นท์ อินเตอร์เนชั่นแนล เทรด ชาเล้นจ์ (FedEx/Junior Achievement International Trade Challenge) เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนนักศึกษารุ่นใหม่ก้าวเป็นผู้ประกอบการในอนาคต รวมถึงการสนับสนุนผู้ประกอบการผ่านโครงการประกวดธุรกิจขนาดย่อมของเฟดเอ็กซ์ (FedEx Small Business Grant Contest)
โครงการเหล่านี้มอบประสบการณ์ทำงานจริงและข้อมูลเชิงลึกจากที่ปรึกษาของเฟดเอ็กซ์ ที่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) มักไม่สามารถเข้าถึงได้ โดยมอบเงินสนับสนุนและทรัพยากรที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้พวกเขาสามารถขยายธุรกิจในระดับโลกได้
ด้านสิ่งแวดล้อม
เฟดเอ็กซ์พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหน่วยการผลิตไฟฟ้า (Carbon Intensity) โดยใช้กลยุทธ์ ลด (Reduce) ทดแทน (Replace) และพลิกโฉม (Revolutionize) เพื่อลดผลกระทบและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต พร้อมกับสร้างสรรค์โซลูชั่นส์นวัตกรรมใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
ความมุ่งมั่นทุ่มเทเหล่านี้ช่วยลด carbon intensity ถึง 37 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่รายได้ขององค์กรนับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2552 เติบโตขึ้น 84 เปอร์เซ็นต์ โดยเฟดเอ็กซ์หลีกเลี่ยงการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่า 2.7 ล้านตันจากโครงการประหยัดเชื้อเพลิงและพลังงานภายในปีงบประมาณปีที่แล้วเพียงปีเดียว
การพัฒนาศักยภาพบุคคลากร
พนักงานเฟดเอ็กซ์มากกว่า 425,000 คนทั่วโลกรวมตัวกันเพื่อส่งมอบบริการที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า เฟดเอ็กซ์จึงมีผลตอบแทนให้กับพนักงานโดยมอบความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่ดีเพื่อความก้าวหน้าในการทำงานของพนักงาน
พนักงานเฟดเอ็กซ์กว่าพันคนได้อุทิศตนเพื่อบำเพ็ญประโยชน์ให้กับสังคมในชุมชนที่ตนเองอาศัยและทำงานอยู่ โดยในปีงบประมาณ 2560 พนักงานร่วมงานในงานอาสาสมัครมากกว่า 111,200 ชั่วโมง หรือ 14,000 วันทำงาน (8 ชั่วโมง ต่อวัน)
ความรับผิดชอบต่อสังคมคือหัวใจสำคัญที่เชื่อมเฟดเอ็กซ์กับโลก องค์ประกอบหลักของกิจกรรมเพื่อสังคมที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องครอบคลุมทั้งนวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม ซัพพลายเชนที่มีความยั่งยืน สถานที่ทำงานที่มีความหลากหลายและเปิดรับสำหรับคนทุกกลุ่ม และโครงการอาสาสมัครอย่างเฟดเอ็กซ์ แคร์ส (FedEx Cares) ที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้ให้สิ่งดีๆ กลับคืนสู่สังคม
บริษัทฯ ได้บรรลุเป้าหมายการดำเนินโครงการ เฟดเอ็กซ์ แคร์ส ที่ตั้งเป้าลงทุนมูลค่ากว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐในชุมชนกว่า 200 แห่งทั่วโลกภายในปี 2563 โดยเฟดเอ็กซ์ได้ให้การสนับสนุนชุมชนต่างๆ แล้วกว่า 200 ชุมชน และคาดว่าจำนวนเงินลงทุนที่ตั้งเป้าไว้จะเป็นไปตามเป้าหมายภายในเวลาอันใกล้ ทั้งนี้ ภายในปีงบประมาณ 2561 เพียงปีเดียว บริษัทฯ ได้ลงทุนมากกว่า 55 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อช่วยเหลือด้านการกุศล
ในปีงบประมาณ 2561 อาสาสมัครของเฟดเอ็กซ์ในเอเชียแปซิฟิกใช้เวลากว่า 3,000 ชั่วโมงในโครงการเฟดเอ็กซ์ แคร์ส ในฐานะผู้ใช้ถนนที่มีความรับผิดชอบ หนึ่งในองค์กรที่อาสาสมัครเฟดเอ็กซ์ให้การสนับสนุนเป็นประจำคือเซฟคิดส์ (Safe Kids) ซึ่งช่วยรณรงค์เสริมสร้างความปลอดภัยของเด็กและเยาวชนที่ใช้ทางเท้าทั่วประเทศไทย จีน เกาหลี ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม พร้อมกับสร้างความปลอดภัยในเขตโรงเรียน (Safe School Zone) เพื่อให้เด็กนักเรียนสามารถเดินไปและกลับจากโรงเรียนได้อย่างปลอดภัย