เอสซีจี ติดปีกธุรกิจดาวรุ่งแพคเกจจิ้ง ยื่น Filing ต่อ ก.ล.ต. เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) เสริมความเป็นผู้นำโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน เอสซีจี จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน SCGP เช่นเดิม ชี้เป็นธุรกิจดาวรุ่งของเอสซีจี ที่เป็นผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรที่พร้อมนำเสนอบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และการให้บริการที่หลากหลาย ควบคู่กับการพัฒนานวัตกรรมเพื่อส่งมอบโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์ที่ตรงใจลูกค้าทุกกลุ่ม และตอบรับการเติบโตของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคอื่น ๆ
ทั้งนี้ จำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จะมีสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 30 ของทุนชำระแล้วของ SCGP ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแล้วเสร็จ โดยเอสซีจีจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน SCGP ในสัดส่วนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของทุนชำระแล้วของ SCGP ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้เอสซีจีได้รับประโยชน์จากผลการดำเนินงานของ SCGP ที่มีโอกาสสร้างมูลค่าการเติบโตในอนาคต
สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุนในครั้งนี้ SCGP คาดว่าจะนำเงินที่ได้รับไปใช้เป็นเงินลงทุนในการขยายธุรกิจด้วยการขยายกำลังการผลิตของ SCGP การควบรวมกิจการ การชำระคืนเงินกู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ ทั้งนี้ SCGP มีแผนที่จะลงทุนขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศให้รองรับการเติบโตของตลาดบรรจุภัณฑ์ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีอัตราการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรจุภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจการบริการด้านอาหาร และสินค้าที่ซื้อขายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ