ในยุคแห่งศตวรรษที่ 21 องค์ความรู้และทักษะด้านสะเต็มมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับแรงงานในอนาคต ความก้าวหน้าของวิทยาการสมัยใหม่หมายถึงโอกาสสำหรับแรงงานทักษะขั้นสูงตลาดแรงงานไทยในอนาคตข้างหน้าจึงต้องการบุคลากรในสาขาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีวิศวกรรมศาสตร์ และเทคโนโลยี หรือ สะเต็ม (STEM) เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก การพัฒนาศักยภาพเด็กไทยผ่านสะเต็มศึกษา จึงเป็นวาระสำคัญที่จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน
ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาโครงการ Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต” โดยบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ร่วมกับองค์กรพันธมิตรภาครัฐและเอกชน ได้หว่านเมล็ดพันธุ์สะเต็ม เพื่อยกระดับการศึกษาไทยทั้งสายสามัญและอาชีพทั่วประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการพัฒนาให้ครูมีทักษะจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning ตามแนวทางการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
ซึ่งทำให้กระตุ้นให้เด็กเกิดกระบวนการคิด วิเคราะห์ สามารถหาความรู้แบบสืบเสาะ ตลอดจนปรับหลักสูตรให้สอดคล้อง และจัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอน เพื่อช่วยให้ครูสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ให้นักเรียน นักศึกษาเข้าใจกระบวนการ ผ่านการลงมือปฎิบัติจริง ไม่ใช่เรียนโดยการท่องจำ เพื่อปลูกฝังหัวใจรักในการเรียนรู้ด้านสะเต็ม และเตรียมความพร้อมการประกอบอาชีพในอนาคต ทั้งยังขับเคลื่อนคุณภาพการศึกษาสายอาชีพให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม เสริมทักษะปิดจุดอ่อนของแรงงานไทยในอนาคต เพื่อสร้างพลังคนรุ่นใหม่ซึ่งจะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน โดยมีผู้ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการฯ นี้แล้วกว่า 3 ล้านคนทั่วประเทศ
จุดเริ่มต้นโครงการฯ “รัฐร่วมเอกชน”
โครงการ Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต เริ่มขึ้นในปีพ.ศ. 2558 ที่สอดคล้องกับนโยบาย “รัฐร่วมเอกชน” ของรัฐบาล โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาการศึกษาในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ หรือ สะเต็ม ทั้งในระบบการศึกษาสายสามัญและสายอาชีพ ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อสร้างรากฐานสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมและศักยภาพการแข่งขันของประเทศ รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิต ช่วยให้ไทยก้าวข้ามกับดักประเทศรายได้ปานกลาง และกระจายความเจริญสู่ทุกภูมิภาคได้อย่างยั่งยืน
โดยเชฟรอนได้ร่วมมือกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชน 8 องค์กร ประกอบด้วย สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) คุรุสภา และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยมีมูลนิธิคีนันแห่งเอเซียเป็นผู้ดูแลโครงการ
โครงการเพื่อตอบโจทย์สะเต็มในทุกมิติ
ด้วยงบประมาณในการดำเนินโครงการร่วม 1,000 ล้านบาท โครงการ Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต ได้ร่วมกับพันธมิตรดำเนินงานเพื่อพัฒนาศักยภาพ การจัดการเรียนรู้ด้านสะเต็มศึกษา
และยกระดับโมเดลการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ของสถานศึกษาแบบองค์รวม ตลอดจนการรับรู้และแรงบันดาลใจในการเรียนรู้สะเต็มศึกษา พร้อมทั้งส่งต่อความสำเร็จแก่หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ผสานเครือข่ายภาครัฐและเอกชน ทั้งในระดับองค์กร ระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ เพื่อขับเคลื่อนโครงการด้านสะเต็มศึกษาอย่างยั่งยืน
นายไพโรจน์ กวียานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 5 ปีของการดำเนินงาน โครงการ Chevron Enjoy Science ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงโดยในส่วนของการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษาและเยาวชนกลุ่มเป้าหมาย โครงการฯ สามารถจัดตั้งศูนย์สะเต็ม (STEM Hub) เพื่อเป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการสื่อการเรียนการสอน การอมรมครู และการพัฒนาหลักสูตรเพื่อยกระดับการเรียนการสอนสะเต็มศึกษาในโรงเรียนสายสามัญได้แล้ว 12 แห่งทั่วทุกภูมิภาค และมีโรงเรียนเข้าร่วมทั้งหมด 724 แห่งทั่วประเทศ
ขณะเดียวกันได้มีสถาบันอาชีวศึกษาเข้าร่วม 61 แห่ง มีครูผู้สอนและผู้บริหารสถานศึกษาที่ได้รับการอบรมพัฒนาศักยภาพผ่านโครงการฯ แล้วกว่า 13,000 คน และมีนักเรียนทั้งในสายสามัญและนักศึกษาในสายอาชีวศึกษาได้รับการฝึกทักษะโดยโครงการฯแล้วประมาณ 2,300,000 คน นอกจากนี้ โครงการฯ ยังสามารถสร้างการรับรู้และแรงบันดาลใจในการศึกษาและประกอบอาชีพในสาขาสะเต็มแก่เยาวชนและสาธารณชนทั่วไปแล้วกว่าสามล้านคน”
โครงการ “Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต” ได้ร่วมมือทางวิชาการกับองค์กร Management Systems International ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการติดตามและประเมินผลจากประเทศสหรัฐอเมริกา และคณะนักวิจัยไทยจาก 16 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ทำการติดตามและประเมินผลกระทบของการพัฒนาระบบการศึกษาของประเทศไทยจากโครงการในหลากหลายแง่มุม
จากการติดตามและประเมินผลตลอดระยะเวลา 5 ปี ผลจากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกบ่งชี้ว่า การมีส่วนร่วมและความมั่นใจในการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ของนักเรียนและนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการฯ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดย 97% ของนักศึกษาอาชีวะสนุกกับการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ และมีความตั้งใจนำแนวคิดทางวิชาวิทยาศาสตร์ไปใช้ในชีวิตประจำวัน การทำงาน และการศึกษาต่อไป รวมทั้งมีความมั่นใจในการปฏิบัติงานในภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น 94% ของครูสายสามัญที่เข้าร่วมโครงการฯ สามารถจัดการเรียนรู้ในชั้นเรียนที่นักเรียนสนุกและมีส่วนร่วมผ่านกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะโดยใช้โครงงานเป็นฐานที่เน้นให้ผู้เรียนเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง รวมถึงการกระตุ้นนักเรียนให้สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง โดยทางโครงการฯ มั่นใจว่าผู้กำหนดนโยบายภาครัฐ รวมถึงหน่วยงานในภาคเอกชนจะสามารถนำผลการประเมินมาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาการศึกษาและเตรียมพร้อมให้นักเรียนและนักศึกษาก้าวสู่เส้นทางอาชีพอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต
“ในนามของบริษัท เชฟรอน ประเทศไทย สำรวจและผลิต จำกัด ผมขอขอบคุณทุกองค์กรพันธมิตรที่มุ่งมั่น ทุ่มเท และร่วมกันทำงานหนักตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ผ่านมา จนผลการดำเนินโครงการฯ ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เมื่อเริ่มดำเนินโครงการฯ และที่สำคัญโครงการได้ปรับปรุงและพัฒนาโมเดลการเรียนการสอนในสาขาสะเต็ม ร่วมสร้างเสริมสังคมแห่งการแลกเปลี่ยนความรู้ของครูผู้สอน เพื่อช่วยขยายผลสัมฤทธิ์ของโครงการออกไปในวงกว้างและอย่างยั่งยืน นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่ขณะนี้มีหน่วยงานหลายแห่งได้นำโมเดลนี้ไปดำเนินงานต่อในหลายมิติ ซึ่งเป็นการแผ่กิ่งก้านของการผลักดันองค์ความรู้สะเต็มให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป” นายไพโรจน์กล่าว
ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับครู นักเรียน และห้องเรียน ตลอดระยะเวลา 5 ปี ของโครงการ Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต คือจุดเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ในการส่งเสริมสะเต็มศึกษาในประเทศไทย เพื่อก้าวไปสู่การเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยการเรียนรู้ และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของคนไทย