ซัมซุงชูความสำเร็จ Samsung Innovation Campus
ซัมซุงถอดบทเรียนความสำเร็จ Samsung Innovations Campus สอนโค้ดดิ้งออนไลน์ให้สำเร็จ ต้องเน้นพัฒนาเนื้อหา แพลตฟอร์ม และพันธมิตร เสียงตอบรับ “เยาวชนดิจิทัล” ผู้เข้าร่วมโครงการกว่าร้อยละ 80 มีความพึงพอใจ ได้รับความรู้และทักษะที่นำไปใช้ได้จริงในอนาคต ครึ่งปีหลัง เตรียมขยายผลสร้างนวัตกรรุ่นเยาว์ ต่อยอดโมเดลผสานความรู้โค้ดดิ้งกับความเข้าใจและการพัฒนานวัตกรรม
นายวาริท จรัณยานนท์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด และผู้จัดการโครงการ Samsung Innovation Campus กล่าวว่า “หลังจากที่ดำเนินโครงการ Samsung Innovation Campus โครงการเพื่อสังคมที่พัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริมศักยภาพเด็กไทยในยุคดิจิทัลผ่านการอบรมโค้ดดิ้ง (Coding) ตามวิสัยทัศน์ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของซัมซุงทั่วโลก ในการมุ่งสร้างพลังคน มุ่งสร้างอนาคตที่ดีร่วมกัน (Together for Tomorrow! Enabling People) ในปีนี้ ได้พบว่าการยกระดับโครงการสู่รูปแบบออนไลน์ได้ผลตอบรับจากผู้เข้าร่วมโครงการเป็นอย่างดี
โดยผลจากการสำรวจพึงพอใจของนักเรียนผู้ร่วมโครงการ พบว่า กว่าร้อยละ 80 พึงพอใจในรุปแบบ เนื้อหาและพบว่า สามารถนำเอาความรู้และทักษะที่ได้ไปใช้กับงานในอนาคต แม้จะมีข้อจำกัดในเรื่องรูปแบบที่จำเป็นจะต้องอบรมผ่านทางออนไลน์เท่านั้น แต่ความสำเร็จของโครงการปีนี้ เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยด้วยกัน อันดับแรกคือการที่โครงการทำการปรับเนื้อหาทั้งในส่วนของโค้ดดิ้ง ที่เน้นภาษาที่สามารถเสริมความเข้าใจระหว่างกัน เป็นภาษาพื้นฐานที่เรียนได้ง่ายผ่านห้องเรียนในลักษณะออนไลน์ และเนื้อหายังต้องเหมาะกับเยาวชนที่ไม่มีพื้นฐานด้านโค้ดดิ้งมาก่อน
พร้อมกันนี้ โครงการยังเสริมเนื้อหาในส่วนของความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับนวัตกรรมและเครื่องมือสำหรับนวัตกร เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมทั้งด้านความรู้และทักษะแห่งอนาคตให้กับผู้เข้าร่วมโครงการอย่างรอบด้านและสามารถสร้างสรรค์ไอเดียออกแบบนวัตกรรมได้ นอกจากนี้ ระบบสนับสนุนการเรียนออนไลน์ ทั้งในส่วนที่เป็นโปรแกรมเรียนสด ติดตามและปรึกษาเนื้อหา รวมถึงความร่วมมือจากพันธมิตรที่เข้ามาร่วมพัฒนาเนื้อหายังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้โครงการสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยในปีนี้ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น เป็นพันธมิตรที่เข้ามาช่วยพัฒนาเนื้อหาโค้ดดิ้ง 3 ภาษา Scratch C และ Python และบริษัท สยามเมนทิส จำกัด ร่วมพัฒนาเนื้อหาและออกแบบกิจกรรมเสริมความเข้าใจความสำคัญและการออกแบบพัฒนานวัตกรรม”
อาจารย์อดิศักดิ์ เสือสมิง รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น กล่าวว่า “จากโครงการนี้เราได้เห็นศักยภาพของเด็กๆ ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ความสามารถในการเรียนรู้ของนักเรียน ที่สามารถทำความเข้าใจเนื้อหาที่มีความยากและท้าทายสูงในระดับมหาวิทยาลัยได้จากที่ไม่มีความรู้มาก่อน ประเด็นการตั้งคำถาม ซึ่งนักเรียนตั้งคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียนได้ดี แสดงให้เห็นว่านักเรียนมีความใฝ่รู้ อยากแก้ปัญหา และอยากพัฒนาผลงานของตนเองให้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังเห็นได้ชัดว่า ผู้เข้าร่วมโครงการนับเป็น “เยาวชนแห่งยุคดิจิทัล” ที่แท้จริง คือสามารถทำความเข้าใจเนื้อหาไอทีได้อย่างรวดเร็ว เพราะมีพื้นฐานความเข้าใจดีอยู่แล้ว สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี เพราะมีตัวอย่างให้เห็นอยู่รอบตัว อาทิเช่น แอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน และสามารถประยุกต์ต่อยอดได้อย่างสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ แบบที่คนรุ่นที่ผ่านมาไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งนี้ หากเราเริ่มปูความรู้และช่วยผลักดันนวัตกรรุ่นเยาว์ได้เร็วเท่าไหร่ ก็สามารถส่งเสริมให้มีความรู้และประสบความสำเร็จได้มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งความรู้ที่ได้รับจากโครงการฯ จะเป็นประโยชน์ต่อเส้นทางอาชีพนวัตกร นักออกแบบและพัฒนาโปรแกรม และนักวิจัยนวัตกรรม ที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดงานในปัจจุบันแน่นอน”
สำหรับเยาวชน ผู้เข้าร่วมโครงการ Samsung Innovation Campus อนาคตนวัตกรคนเก่งซึ่งมีความสนใจในเรื่องโค้ดดิ้งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ต่างได้รับความรู้และทักษะเตรียมพร้อมมากยิ่งขึ้นสำหรับงานในวันข้างหน้า
ด.ช.ชนุดม ทัศนวิฑูรกฤษ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เผยว่า “ผมสนใจเรื่องเทคโนโลยีอยู่แล้ว และเมื่อโตขึ้นก็อยากเป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์ เพราะคิดว่าในอนาคตจะต้องมีเรื่องเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อยๆ การเรียนในโครงการ SIC ทำให้ผมรู้สึกมั่นใจมากขึ้นที่จะไปต่อทางด้านนี้ เพราะเรียนแล้วสนุก ได้เข้าใจวิธีการเขียนโปรแกรมภาษาต่างๆ และรู้จักคำสั่งการต่างๆ มากขึ้นครับ”
ด.ช.ชิษนุพงศ์ เลิศพิทักษ์สิทธิ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เล่าถึงการอบรมในครั้งนี้ว่า “โครงการ SIC ทำให้ผมได้เรียนภาษาโปรแกรมมิ่งใหม่ๆ และจากการเรียนเกี่ยวกับพัฒนาการของเทคโนโลยี ทำให้รู้ว่าสิ่งของรอบตัวหลายอย่างที่ใช้ในปัจจุบันมีความเกี่ยวข้องกับโค้ดดิ้ง อย่างโซเชียลมีเดียที่เราใช้อยู่ประจำ หรือเกมที่ชอบเล่นก็ต้องผ่านการเขียนโปรแกรม ในอนาคตอยากเขียนโปรแกรมที่ช่วยในการตามหาของส่วนตัว เพราะเชื่อว่านอกจากตัวผมเองแล้ว ยังมีอีกหลายคนที่ชอบหาของไม่เจอ ตอนนี้เรากดปุ่มตามหาสมาร์ทโฟนหรือหูฟังได้ แต่ในอนาคตอยากทำให้หาของได้ทุกอย่างเลย คิดว่าความรู้ที่ได้มาสามารถนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ได้แน่นอนครับ”
ด.ญ.ณภัค วิทยาดี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน เล่าว่า “การมาร่วมโครงการทำให้ได้เรียนภาษาซีเป็นครั้งแรก ซึ่งไม่เคยมีโอกาสได้เรียนจากที่ไหนมาก่อน และไม่ต้องเสียเงินเพื่อเรียนพิเศษนอกเวลา ซึ่งความรู้ภาษาซีจะช่วยให้เข้าใจภาษาโปรแกรมมิ่งในระดับที่ยากขึ้นได้ นอกจากการเรียนโค้ดดิ้งแล้ว ตอนนี้รู้สึกสนใจเรื่องอาหาร ในอนาคตก็อยากใช้ความรู้โค้ดดิ้งเพื่อเขียนโปรแกรมที่ช่วยจัดการออเดอร์ในร้านอาหารค่ะ หนูคิดว่าความรู้โค้ดดิ้งสามารถประยุกต์ได้กับหลายๆ อย่าง”
“ซัมซุงมีแผนที่จะขยายผลความสำเร็จของโครงการ Samsung Innovation Campus ในครึ่งปีหลังของ 2563 โดยเตรียมจัดค่ายโค้ดดิ้งระยะสั้น พัฒนาต่อยอดจากโมเดลที่ผสานความรู้โค้ดดิ้งกับความเข้าใจและการพัฒนานวัตกรรม เพื่อสร้างนวัตกรรุ่นเยาว์ที่จะเป็นผู้ขับเคลื่อนโลกในอนาคตต่อไป” นายวาริทกล่าวสรุป