สุดเจ๋ง!! ขายตรงแบรนด์ไทยรายแรก SCM เทรดวันแรกราคาพุ่งเหนือจอง 50.53 %

SCM เข้าเทรดวันแรกใน SET (8 กันยายน 2563) พุ่งเหนือจอง 50.53% ตอกย้ำนักลงทุนมีความเชื่อมั่นธุรกิจ อนาคตเติบโตแข็งแกร่ง วางเป้าขยายเครือข่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมลุยออกโปรดักส์ใหม่ไตรมาสละ 1 – 2 ผลิตภัณฑ์ กระตุ้นยอดขายทั้งในและต่างประเทศ

นายประเสริฐ ตันตยาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายของ บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM เปิดเผยว่า จากการเปิดทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก
(8 กันยาน 2563) ปรากฏว่าหุ้น SCM เปิดตลาดที่ 2.86 บาท เพิ่มขึ้น 0.96 บาท จากราคาไอพีโอที่ 1.90 บาท คิดเป็น 50.53% สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน และสะท้อนเห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อบริษัทฯ

“การที่หุ้น SCM เปิดตัวได้สวยในวันทำการซื้อขายวันแรก นอกเหนือจากความมั่นใจในการบริหารและปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ แล้ว ยังสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนมองอนาคตของธุรกิจขายตรงมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ทั้งในส่วนของตลาดในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งภายหลังการเข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะยิ่งทำให้ SCM ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภค เพิ่มโอกาสในการขยายสมาชิกเครือข่าย ผลักดันยอดขายให้เติบโตในอนาคต”

นายแพทย์สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM ในฐานะผู้นำธุรกิจเครือข่ายชั้นนำแบรนด์ไทยที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นรายแรก  กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้การต้อนรับหุ้น SCM ที่เข้าเทรดวันแรกอย่างอบอุ่น ซึ่ง SCM พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผน เพื่อผลักดันรายได้และกำไรให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยบริษัทฯ มีแผนออกโปรดักส์ใหม่เพื่อกระตุ้นยอดขายไตรมาสละ 1-2 ผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มนวัตกรรมใหม่ ๆ และความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุค New normal

SCM ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคในรูปแบบ Network Marketing ผ่านนักธุรกิจในประเทศและตัวแทนจัดจำหน่ายต่างประเทศ โดยดำเนินธุรกิจ 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย 1) กลุ่มธุรกิจแบบเครือข่าย จำหน่ายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคและบริโภคทั้งในและต่างประเทศ เป็นธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทฯ 2) กลุ่มธุรกิจให้บริการคำปรึกษาในการดำเนินธุรกิจเครือข่ายและรับจัดงานสัมมนา เพื่อสนับสนุนธุรกิจเครือข่ายในประเทศและตัวแทนจำหน่ายสินค้าในต่างประเทศที่มีเครือข่ายสมาชิกและฐานลูกค้าเป็นของตนเอง และ 3) กลุ่มธุรกิจโรงงานผลิตสินค้า เพื่อดำเนินการเป็นโรงงานผลิตสินค้าให้แก่บริษัทภายในกลุ่ม SCM

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ สามารถจำแนกเป็น 7 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่  1.กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 2.กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง 3.กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว 4.กลุ่มผลิตภัณฑ์สินค้าใช้ในครัวเรือน 5.กลุ่มผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร 6.กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมและเทคโนโลยี 7. กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายโดยส่วนใหญ่ใช้ตราสินค้าของผู้จัดจำหน่ายภายนอก

CEO นพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM กล่าวว่า การที่ราคาหุ้นพุ่งเหนือจอง 50.53 % ถือเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อธุรกิจ network marketing ที่มีช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนนักธุรกิจ ที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก จากมูลค่าตลาดรวมภายในประเทศที่มีมูลค่ากว่า 80,000 ล้านบาท และโอกาสในการขยายฐานสมาชิกนักธุรกิจเครือข่ายที่เพิ่มมากขึ้น โดยวางเป้าเพิ่มขึ้น 15,000-20,000 ราย/ปี จากปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 180,000 คน

ทั้งนี้ หลัง SCM เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเป็นแรงหนุนสำคัญในการกระตุ้นการรับรู้ในแบรนด์ของผู้บริโภค และจะสะท้อนถึงยอดขายภายในประเทศ อีกทั้ง ยังมีแรงสนับสนุนยอดขายจากตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ ประกอบด้วย เมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่จะทำให้รายได้และกำไรในช่วง
3 – 5 ปีข้างหน้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามแผนงานที่วางไว้

SCMSETขายตรงซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์หุ้น
Comments (0)
Add Comment