ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในการจัดการพลังงาน และระบบออโตเมชัน ภาคภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เดินหน้าเต็มตัวปฏิรูประบบจ่ายพลังงานสู่ระบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ ด้วย EcoStruxure ADMSTM (Advanced Distribution Management System) ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนสู่สมาร์ทกริดของประเทศภายในปี 65 รองรับความท้าทายด้านการใช้พลังงานในอนาคต
“การเข้ามาของเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมไฟฟ้า โดย กฟภ. ได้กําหนดยุทธศาสตร์ให้มุ่งสู่การเป็นดิจิทัลยูทิลิตี้ภายใน ปี พ.ศ.2565 ซึ่งการปรับเปลี่ยน กฟภ. ไปสู่ “ดิจิทัลยูทิลิตี้ (Digital Utility)” เป็นการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ ทั้งในด้านเครือข่ายระบบไฟฟ้า การให้บริการลูกค้า กระบวนการภายใน ทรัพยากรบุคคล และเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม
นายวัลลภ กิตติวิวัฒน์ รองผู้ว่าการปฏิบัติการและบำรุงรักษา การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ดังนั้น ความสำเร็จของดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน (Digital Transformation) จำเป็นต้องมีการบูรณาการระบบงานและกระบวนการต่างๆ ให้มีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล รวมทั้งโครงสร้างองค์กร และรูปแบบในการดำเนินงานจะปรับให้มีความคล่องตัว (Agile) โดยมีหน่วยงานด้านธุรกิจ และหน่วยสนับสนุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัล จำเป็นต้องมีการประสานการทำงานร่วมกัน (Collaboration) ในการพัฒนาองค์กรให้เป็น Digital Utility รวมทั้งบุคลากรของ กฟภ. จำเป็นต้องมีความรู้ ความสามารถ เพียงพอและเหมาะสมในการรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงรองรับรูปแบบของการดำเนินธุรกิจเพื่อรองรับโครงสร้างอุตสาหกรรมไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลงไป
การขับเคลื่อนสู่ดิจิทัลของ กฟภ. มีการดำเนินการไปพร้อมๆ กันหลายภาคส่วน โดยเฉพาะการเดินทางไปสู่ “สมาร์ทกริด” จะเป็นส่วนสำคัญและเป็นมิติใหม่ของการให้บริการด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศไทย ซึ่งจะช่วยลดเวลาในการดำเนินการด้านการแก้ไขกระแสไฟฟ้าขัดข้อง พร้อมความสามารถในการควบคุม สั่งการ การพยากรณ์และวิเคราะห์การใช้พลังงานของผู้ใช้ไฟฟ้าได้ด้วย เพื่อเสถียรภาพพลังงานของประเทศ
สำหรับเทคโนโลยีดิจิทัลเกี่ยวกับงานควบคุมสั่งการจ่ายไฟฟ้า กฟภ. จะนำมาใช้ คือ EcoStruxure™ ADMS (Advanced Distribution Management System) จากชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นแพลตฟอร์มที่จะช่วยให้ระบบควบคุมการจ่ายไฟฟ้าของ กฟภ. ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในเรื่องสมาร์ทกริดที่สามารถตรวจพบข้อผิดพลาดเพื่อแก้ไขได้อย่างทันท่วงที และบริหารจัดการพลังงานให้มีความต่อเนื่องในทุกพื้นที่อย่างเพียงพอแก่การใช้งานอย่างแท้จริง แม้ในช่วงที่เกิดปัญหาวิกฤต พร้อมทั้งมีโซลูชันสำหรับการบริหารจัดการแหล่งพลังงานแบบกระจายตัว (Distributed Energy Resource Management System: DERMS) โดยสามารถมองเห็นการเชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าของ กฟภ. ได้ทั้งระบบ สามารถทำงานร่วมกับระบบเดิม หรืออุปกรณ์หลากหลายแบรนด์ได้อย่างราบรื่น สร้างความเสถียรของเครือข่ายที่มากขึ้น ปรับปรุงประสิทธิภาพและลดต้นทุนการดำเนินงาน เพิ่มความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน และที่สำคัญที่สุดคือสามารถคาดการณ์แนวโน้มการใช้ไฟในอนาคต ช่วยให้ กฟภ. สามารถบริหารจัดการแหล่งพลังงานรูปแบบต่างๆ ที่เข้ามาเชื่อมต่อกับระบบโครงข่ายของ กฟภ.ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ
“EcoStruxure ADMS จากชไนเดอร์ อิเล็คทริค นับเป็นการอัพเกรด และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบศูนย์สั่งการจ่ายไฟฟ้าเพื่อให้สามารถ ควบคุม สั่งการและวิเคราะห์จ่ายไฟฟ้าให้เหมาะสมกับอุตสาหกรรมไฟฟ้ารูปแบบใหม่ ให้ดียิ่งขึ้นภายใต้ ‘โครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบศูนย์สั่งการจ่ายไฟ (คปศ.) ซึ่งทาง กฟภ. มีความคาดหวังว่าทั้งภาคประชาชน และภาคธุรกิจพลังงาน จะได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าวของ กฟภ. เมื่อระบบงานต่างๆ ทุกอย่างแล้วเสร็จสมบูรณ์ตามแผนยุทธศาสตร์ที่เราได้วางเอาไว้ เพื่อเดินหน้าประเทศไทยสู่ดิจิทัลด้านพลังงานอย่างแท้จริง”