สมาคมประกันวินาศภัยไทย พัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อเกษตรกร ในโครงการประกันภัยข้าวนาปี และโครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ผ่านแอปพลิเคชัน “มะลิซ้อน” และ “รีคัลท์” รายงานความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ลดขั้นตอน สะดวก รวดเร็ว พร้อมเดินสายจัดอบรมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ
สำหรับโครงการประกันภัยข้าวนาปี และโครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2563 นี้ สมาคมฯ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศึกษาวิจัยและนำเทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมมาใช้ในการสำรวจความเสียหายจากภัยธรรมชาติของแปลงนา ซึ่งเกษตรกรสามารถถ่ายรูปรายงานความเสียหายได้เองทางโทรศัพท์มือถือผ่านแอปพลิเคชัน “มะลิซ้อน” สำหรับโครงการประกันภัยข้าวนาปี และแอปพลิเคชัน “รีคัลท์” สำหรับโครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ควบคู่ไปกับการประเมินความเสียหายโดยคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติของภาครัฐ หากเกษตรกรในโครงการได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ทั้งในกรณีที่อยู่ในเขต และนอกเขตพื้นที่ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉินก็สามารถรายงานความเสียหายได้ทันทีเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบข้อมูลและดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว
“แอปพลิเคชันทั้งสองนี้ เราพัฒนาขึ้นเพื่อเกษตรกร ใช้เป็นเครื่องมือในการแจ้งความเสียหายที่เกิดจากภัยธรรมชาติ ช่วยให้สามารถรายงานความเสียหายได้ทันทีจากโทรศัพท์มือถือ โดยการถ่ายรูปพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าวได้เอง จากจุดแปลงนาหรือแปลงข้าวโพดที่เกิดความเสียหายส่งไปยังระบบฐานข้อมูลได้สะดวก รวดเร็วขึ้น โดย ธ.ก.ส. และสมาคมประกันวินาศภัยไทย สามารถติดตามความเสียหายได้แบบ real-time
การดำเนินการดังกล่าวนี้ จะเป็นการวางรากฐานที่สำคัญเพื่อปรับปรุงรูปแบบการประกันภัยข้าวนาปีและการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และพัฒนาการจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็วยิ่งขึ้น จะช่วยลดปัญหาในการบริหารจัดการค่าสินไหมทดแทนและสร้างวิถีใหม่ในการทำเกษตรกรรมให้กับเกษตรกรไทย ทั้งยังช่วยต่อยอดการเป็น Smart Farmers แบบครบวงจร ซึ่งจะช่วยให้การประกอบอาชีพการเกษตรในประเทศไทยนั้นมีความยั่งยืน”
ทั้งนี้ สมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้กำหนดจัดการอบรมความรู้เรื่องการใช้งานแอปพลิเคชันการรายงานความเสียหาย และเว็บแอปพลิเคชัน โครงการประกันภัยข้าวนาปี และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2563 ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กรมส่งเสริมการเกษตร และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อนำไปถ่ายทอดต่อให้กับเกษตรกรและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ และใช้งานได้อย่างถูกต้องต่อไป
โดยจัดอบรมขึ้นทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมทั้งหมด 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่น พิษณุโลก กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และสงขลา ตามลำดับ และจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ความรู้และคลิปวิดีโอ แนะนำการใช้งานแอปพลิเคชันการรายงานความเสียหายดังกล่าว เผยแพร่ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องและเกษตรกรได้รับทราบ และสามารถใช้ประโยชน์จากแอปพลิเคชันได้อย่างเต็มที่ โดยสามารถดาวน์โหลดทั้ง 2 แอปพลิเคชันได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป