“บัตรแรบบิท” ย้ำความเป็นผู้นำสมาร์ทการ์ด “One for All” ช้อป กิน เที่ยว บัตรเดียวครบ
“บัตรแรบบิท” ตอกย้ำความเป็นผู้นำ “สมาร์ทการ์ด” สำหรับคนเมือง พร้อมก้าวสู่ปีที่ 9 ด้วยการเดินหน้าพัฒนาสู่เป้าหมายเพื่อการเป็น “One for All” หรือ บัตรหนึ่งเดียว ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนเมืองยุค New Normal ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มการเดินทาง การบริการ และอื่นๆ อีกมากมาย
ไอรินทร์ อริยพงศ์สถิต ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเทม จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางของบัตรแรบบิทในปีที่ผ่านมา ว่า “เราได้เปิดตัวบัตรแรบบิทในฐานะสมาร์ทการ์ด ที่ให้ความสะดวกสบายสำหรับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส และร้านค้าพันธมิตรต่างๆ ไปแล้ว และวันนี้บัตรแรบบิทได้กลายเป็นบัตรที่ใช้สำหรับการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งในระบบขนส่งมวลชน ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจบริการ ในหลายๆ รูปแบบ โดยมุ่งมั่นที่จะวางบทบาทของบัตรใบนี้ ให้ตอบสนองกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด”
“8 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ออกบัตรแรบบิทไปแล้วกว่า 14 ล้านใบ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด เราเองก็เตรียมพร้อมรับมืออย่างเต็มที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ถือบัตรให้ได้มากที่สุด ให้บัตรแรบบิทเป็นบัตรเดียวที่สามารถใช้ได้ทั้งช้อป กิน และเที่ยว ลดความเสี่ยงจากการสัมผัสเงินสด โดยเราได้ขยายการชำระเงินไปสู่ระบบขนส่งสาธารณะอื่น ๆ นอกเหนือจากรถไฟฟ้าบีทีเอส ดังนั้น เราจึงต้องการชี้จุดยืนให้ชัดเจนว่า บัตรแรบบิท เป็นบัตรใบเดียวที่ใช้จ่ายค่าโดยสารขนส่งสาธารณะได้หลากหลายที่สุด”
ในส่วนของร้านค้าและบริการ ผู้ถือบัตรสามารถใช้แทนเงินสดเพื่อซื้ออาหาร เครื่องดื่ม และความบันเทิง บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายพันธมิตรร้านค้า จนปัจจุบันมีร้านค้าพันธมิตรมากถึง 550 แบรนด์ พร้อมจุดให้บริการกว่า 15,000 จุด ครอบคลุมทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ ร้านชา กาแฟ ศูนย์อาหาร รวมถึงร้านอาหารประเภท Quick Service Restaurant (QSR) เกือบทุกแบรนด์ทั่วประเทศโดยผู้ถือบัตรแรบบิททุกใบ จะได้รับส่วนลดพิเศษ หรือสิทธิประโยชน์อื่น ๆ มากมาย ทำให้บัตรแรบบิทตอบโจทย์ความเป็น “One for All” โดยแท้จริง
นอกจากนี้ บัตรแรบบิทยังได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อสนองความต้องการของภาคธุรกิจอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น บริษัท ห้างร้าน หรือองค์กรต่างๆ โดยบัตรแรบบิทสามารถที่จะเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งาน เพื่อเป็นบัตรเข้า – ออกอาคาร (Access Control) ใช้ชำระค่าอาหารเครื่องดื่มภายในโรงเรียน หรือองค์กร (Canteen Solution) เป็นบัตรประจำตัวพนักงาน (Employee ID card) หรือเป็นบัตรประจำตัวนักเรียน (Student ID card) โดยมีบริษัทและองค์กรชั้นนำต่างๆ ที่ใช้บัตรแรบบิท โดยบัตรแรบบิทใบเดียวกันนี้ ยังสามารถจ่ายค่าโดยสารขนส่งสาธารณะ และจ่ายค่าสินค้า บริการต่าง ๆ ได้อีกด้วย เพียงเติมเงินเข้าบัตรแรบบิทก็สามารถใช้งานได้ทันที
ในด้านการเติมเงิน บริษัทฯ ได้เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ถือบัตรมากขึ้น ด้วยการขยายจุดเติมเงิน จากเดิมที่เติมเงินได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถโดยสารด่วนพิเศษบีอาร์ที วันนี้ ผู้ถือบัตรแรบบิทสามารถเติมเงินกับพนักงานเก็บค่าโดยสารบนรถโดยสารสมาร์ทบัส สาย 51, 52, 104, 147, 150, 167 และร้านค้าพันธมิตรอย่าง แมคโดนัลด์ 219 สาขาทั่วประเทศ เคอรี่ เอ็กซ์เพรส 423 สาขาในกรุงเทพฯ และร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ รวมไปถึงศูนย์อาหารในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ได้แก่ ศูนย์อาหารในเครือเดอะมอลล์ เครือซีพีเอ็น และอื่น ๆ อีกมากมาย และยังมีตู้เติมสบายพลัส ที่อำนวยความสะดวกในบริเวณเส้นทางเดินรถสมาร์ทบัสสาย 104 และ 150 อีกด้วย และเพื่อให้การเติมเงินนั้นเป็นเรื่องง่าย บริษัทฯ กำลังพัฒนา โมบายแอพลิเคชั่น ให้กับผู้ถือบัตรแรบบิทได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยจะสามารถใช้งานกันได้ภายในต้นปีหน้านี้
ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า บัตรแรบบิทเติบโตอย่างต่อเนื่อง และ บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นจะทำให้บัตรแรบบิทเป็นบัตรใบเดียว “One for All” ที่ครอบคลุมการชำระเงินในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นระบบขนส่งสาธารณะ สินค้า และบริการต่างๆ ที่มาพร้อมความสะดวก สบาย รวดเร็ว ง่าย ประหยัดทั้งเงินและเวลา ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนในยุคชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) และเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมไร้เงินสดอย่างเต็มรูปแบบ