ไทยเบฟ ต่อยอด Vision 2020 สู่ PASSION 2025 ตอกย้ำการเป็น Stable and Sustainable Asean Leader

ไทยเบฟ ประกาศทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2563 พร้อมเปิดตัว PASSION 2025 โชว์ศักยภาพความแข็งแกร่ง และกลยุทธ์การปรับตัวในการดำเนินธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา ตอกย้ำความเป็นผู้นำเครื่องดื่มครบวงจรอันดับหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน ที่เติบโต มั่นคง ยั่งยืน

ฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ทุกคนต้องเผชิญกับความท้าทายเป็นอย่างยิ่ง กลุ่มไทยเบฟก็สามารถยังยืนหยัดพร้อมกับเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้มากกว่าเดิม แม้เราจะได้รับผลกระทบต่อยอดขายบ้าง

ในช่วงวิกฤติที่ผ่านมา เราให้ความสำคัญกับพนักงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนของเรา โดยได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติพิเศษในสถานการณ์ COVID-19 หรือ ThaiBev Situation Room (TSR) เพื่อเป็นศูนย์ติดตามข้อมูลข่าวสารและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงติดตามการดำเนินงานของกลุ่มไทยเบฟให้สามารถผลิตและจัดส่งสินค้าได้ตามจำนวนที่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ดำเนินการดูแลสุขภาพของพนักงาน ซึ่งเป็นบุคลากรกลุ่มสำคัญในการสนับสนุนให้ธุรกิจสามารถดำเนินได้อย่างต่อเนื่อง และยังได้นำเอารูปแบบการปฏิบัติงานในระบบดิจิทัลมาเสริมสร้างประสิทธิภาพในการทำงาน ทำให้มากกว่า 95% ของพนักงานบริษัทฯ สามารถเข้าสู่กระบวนการทำงานของระบบดิจิทัล ในวิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้ ไทยเบฟให้ความสำคัญกับสุขภาพของพนักงาน เครือข่ายคู่ค้า บุคลากรแนวหน้าทางการแพทย์ และบุคลากรภาครัฐ โดยได้ลงทุนในการผลิตและจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ จัดตั้งศูนย์ตรวจโควิด-19 แบบ PCR ดำเนินการแจกจ่ายแอลกอฮอล์ไปกว่า 1 ล้านลิตร ผลิตและแจกจ่ายหน้ากากอนามัย เพื่อให้ความปลอดภัยกับทุกภาคส่วนและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของเราทุกท่าน

ความก้าวหน้าที่สำคัญในช่วง 6 ปี ตั้งแต่ 2014-2020 ตามแผน Vision 2020 นั้น ยอดขายและกำไรของเราเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ไทยเบฟเป็นผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยเราได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น สุรา เบียร์ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และ อาหาร รวมถึงการดำเนินงานของหน่วยงานสนับสนุนธุรกิจ ไทยเบฟคงความเป็นผู้นำในธุรกิจสุรา ในธุรกิจเบียร์เมื่อรวมยอดขายของเบียร์ในประเทศไทย และในประเทศเวียดนาม ถือได้ว่าเรามีปริมาณยอดขายเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน

เราเป็นผู้นำในธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ อาทิ ชาเขียวโออิชิ น้ำดื่มคริสตัล และขับเคลื่อนธุรกิจอาหารจนทำให้เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีความใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศไทย นอกจากนั้นเราก็ยังให้ความสำคัญในเรื่องของ  ความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ไทยเบฟได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก Dow Jones Sustainability Indices -DJSI เป็นอันดับที่ 1 ของโลก ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม เป็น Word Industry leader ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และได้เป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนี DJSI World ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และกลุ่มดัชนี  DJSI Emerging Markets หรือกลุ่มตลาดเกิดใหม่ เป็นปีที่ 4 โดยไทยเบฟนับเป็นบริษัทแรกในประเภทอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของอาเซียนที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็น World Leader ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาความยั่งยืนขององค์กรอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการขับเคลื่อนองค์กรภายใต้ Vision 2020

วันนี้กลุ่มไทยเบฟพร้อมที่จะก้าวไปสู่ก้าวที่แข็งแกร่งกว่าเดิม ต่อยอดความสำเร็จจาก Vision 2020 ขับเคลื่อนสู่ PASSION 2025 ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เราจึงมีแผนในการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานของบริษัทฯ เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้า ภายใต้ 3 แนวทางหลักคือ BUILD สรรสร้างขีดความสามารถ STRENGTHEN เสริมแกร่งความเป็นหนึ่ง และ UNLOCK สุดพลังศักยภาพไทยเบฟ

BUILD (สรรสร้างวามสามารถ) คือ สรรสร้างความสามารถและโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ โดยต่อยอดจากพื้นฐานธุรกิจที่มีอยู่

STRENGTHEN (เสริมแกร่งความเป็นหนึ่ง) คือ เสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก เพื่อรักษาและก้าวไปสู่ความเป็นผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน

UNLOCK (สุดพลังศักยภาพไทยเบฟ) คือ นำศักยภาพของไทยเบฟที่มีอยู่มาก่อให้เกิดพลังสูงสุด

“ผมขอยืนยันในศักยภาพของเราที่มีความพร้อมอย่างรอบด้าน และความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนธุรกิจ ในกลุ่มไทยเบฟ ร่วมกับคณะผู้บริหาร และเครือข่ายพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อร่วมสร้างสรรค์ และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโตไปด้วยกัน กับก้าวที่แข็งแกร่ง มั่นคง และยั่งยืน เพื่อบรรลุเป้าหมายของการเป็น Stable and Sustainable ASEAN Leader ภายใต้ PASSION 2025  อันจะสะท้อนถึง ความมุ่งมั่น ตั้งใจและทุ่มเทของทุกคนในกลุ่มไทยเบฟ” ฐาปน สิริวัฒนภักดี กล่าว