นายวิญญา สิงห์อินทร์ รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ รับมอบเงินจำนวน 200,000 บาท จาก นายสันติ ปิยะทัต เพื่อนำไปจัดสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ด้อยโอกาสในตำบลงิ้วราย อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร โดยมี นายณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล ประธานกรรมการการเคหะแห่งชาติ นายสมเจต ประพันธ์บัณฑิต ผู้ช่วยผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ และนายเทพฤทธิ์ ฤทธิณรงค์ ผู้ช่วยผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุม ชั้น 15 สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ
นายณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล ประธานกรรมการการเคหะแห่งชาติได้มอบนโยบายให้การเคหะแห่งชาติจัดทำโครงการ CSR จัดสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัย โดยประสานงานกับภาคีเครือข่ายภาคเอกชนเพื่อให้การสนับสนุนงบประมาณในการจัดสร้างปรับปรุงที่อยู่อาศัยสำหรับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว ทั้งนี้ นายสันติ ปิยะทัต ต้องการให้ความช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสได้มีที่อยู่อาศัย จึงได้แจ้งความจำนงมายังประธานกรรมการการเคหะแห่งชาติ พร้อมทั้งมอบเงินบริจาคให้การเคหะแห่งชาติมาแล้ว 2 ครั้ง สำหรับการบริจาคเงินจำนวน 200,000 บาท ในครั้งนี้ เป็นการบริจาคครั้งที่ 3 โดยการเคหะแห่งชาติจะนำไปจัดสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับ ผู้มีรายได้น้อยที่มีสภาพบ้านทรุดโทรมและครอบครัวอยู่อาศัยกันอย่างแออัด ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการที่ดินแปลงโล่งของการเคหะแห่งชาติ (ผู้อยู่อาศัยจัดสร้างบ้านเอง) บริเวณริมทางถนนท่าเรือ – เขาทราย ตำบลหนองพะยอม อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร
ทั้งนี้ นางสมลักษณ์ จันทพงษ์สวัสดิ์ เคหะจังหวัดเพชรบูรณ์ การเคหะแห่งชาติ ได้บูรณาการความร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนตำบลงิ้วราย นายนิกร รอดจันทร์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.งิ้วราย นายวิรุทธิ์ ปั้นมี ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.หนองพะยอม และนางบุญชู สิงห์มี ผู้ประสานงานชุมชน เพื่อลงพื้นที่สำรวจข้อมูลและสภาพที่อยู่อาศัย ซึ่ง นายณรงค์ วงษ์พานิช อายุ 65 ปี เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เนื่องจากสภาพบ้านผุพังและหลังคารั่ว เมื่อฝนตกมีปัญหาในการอยู่อาศัยเป็นอย่างมาก รวมทั้งมีผู้อยู่อาศัยในบ้านจำนวน 5 คน มีทั้งผู้สูงอายุและเด็ก ซึ่งอาศัยอยู่รวมกันไม่เป็นสัดส่วน โดยเฉพาะห้องน้ำไม่มีความปลอดภัยเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายได้จากการสำรวจพบว่า นายณรงค์ วงษ์พานิช มีรายได้หลักของครอบครัวมาจากภรรยา ซึ่งมีอาชีพรับจ้างแบกข้าวสารวันละ 300 บาท ส่วนนายณรงค์ไม่สามารถประกอบอาชีพที่ต้องใช้แรงงานได้เนื่องจากประสบอุบัติเหตุต้องใส่เหล็กดามที่ขา ทำได้เพียงถักแหด้วยมือขายตามที่มีลูกค้าสั่ง โดยแห 1 ปาก ใช้เวลาถักประมาณ 3 เดือน รายได้ครั้งละ 600 – 1,000 บาท นอกจากนี้ยังมีปัญหาเกี่ยวกับค่าเล่าเรียนของหลานทั้ง 3 คน เนื่องจากมีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย
ทั้งนี้ บ้านที่จะดำเนินการจัดสร้างให้นายณรงค์ ตั้งชื่อว่า “บ้านสันติ 2” เพื่อเป็นเกียรติประวัติแด่ นายสันติ ปิยะทัต ซึ่งมีน้ำใจช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสได้มีที่อยู่อาศัยเป็นหลังที่ 2 ลักษณะเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ขนาดที่ดิน 16.20 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยประมาณ 25 ตารางเมตร ประกอบด้วย 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องเอนกประสงค์ ส่วนเตรียมอาหาร และส่วนซักล้าง คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน 2563 ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 1 เดือน
ขณะเดียวกัน บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สยามซานิทารีแวร์อินดัสทรี จำกัด ยังได้ให้การสนับสนุนอุปกรณ์วัสดุก่อสร้าง เช่น กระเบื้องปูพื้นและผนัง สุขภัณฑ์ ประตู หน้าต่าง และหลังคา อีกด้วย นับเป็นความร่วมมือของภาคีหลายภาคส่วนที่ช่วยเติมเต็มรอยยิ้มให้ผู้อยู่อาศัยใน “บ้านสันติ 2” มีความสุขและมีความมั่นคงในการอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น