ท่ามกลางวิกฤติร้ายที่ถลาโถมเข้ามาเป็นแพ็คเก็จใหญ่ ทั้งไวรัสร้ายโควิด-19 การเมืองเดือด เศรษฐกิจพ่นพิษ อีกทั้งต้องต่อสู้กับโลกดิสรัปชัน ที่ดิจิทัลเข้ามีบทบาทในการดำรงชีวิตส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายด้านที่ทุกคนต้องปรับตัวอย่างรู้เท่าทัน แต่ขณะเดียวกันท่ามกลางความท้าทายนี้ก็เสมือนเป็นบททดสอบกึ๋น ความเป็นมืออาชีพของแม่ทัพว่าจะใช้หมัดเด็ดอะไรที่จะสามารถนำพาธุรกิจก้าวพ้นวิกฤตินี้ได้!!
ความท้าทายเกิดขึ้นกับ 2 แม่ทัพคนรุ่นใหม่แห่งซูเลียน “ณัฐชานนท์ จุลล์จักรวงศา” (คุณกิม) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการตลาด CMO และ “ภาณุสรรค์ จุลล์จักรวงศา” (คุณกวง) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (ดูแล บริษัท ซูเลียน เอ็นเตอร์ไพรส์ เมียนมาร์) แห่งค่ายขายตรงยักษ์ใหญ่ในนาม บริษัท ซูเลียน (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะทายาทรุ่นที่ 2 ซูเลียน แม่ทัพนายกองแถวหน้ากุมทัพบริหารตลาดทั้งในไทยและตลาดต่างประเทศ ทั้งสองจะมีแนวทางฝ่าวิกฤติเช่นไร บทสัมภาษณ์สื่อออนไลน์ “ข่าวอัพเดท” มีคำตอบ ??
ณัฐชานนท์ จุลล์จักรวงศา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการตลาด CMO กล่าวว่า จากเดิมซูเลียนเน้นการบริหารงานแบบระบบครอบครัว แต่เมื่อเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงโลกที่กำลังถูกดิสรัปชันได้ทัน ประกอบกับเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและต้องไปให้ถึง ทำให้ซูเลียนได้มีการปรับเปลี่ยนตัวเองใหม่โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างระบบหลังบ้าน ด้วยการเพิ่มสายงานขุนพลที่มีประสบการณ์ในแผนกต่างๆเพื่อสร้างระบบการทำงานแบบมืออาชีพ
“กว่า 2 ทศวรรษ ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่รู้จักแบรนด์ขายตรงซูเลียนเป็นอย่างดี เพียงแต่เวลานี้เราต้องขยับตัวเองรองรับการเติบโตอนาคต ก้าวสู่ธุรกิจระดับอินเตอร์ ด้วยการสร้างความชัดเจนในรูปแบบใหม่ เช่นการทำงานผ่านระบบออนไลน์เพื่อให้ดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น”
จากวิกฤติโควิด-19 หลายธุรกิจมีผลกระทบ แต่สำหรับซูเลียนโตทรงตัวเนื่องจากเรามีฐานผู้บริโภคตัวจริง ขณะเดียวกันการที่ซูเลียนได้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง เสมือนเป็นโจทย์หินการทำงานนำไปสู่การขยายฐานนักธุรกิจคนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น และจะทำอย่างไรให้คนกลุ่มนี้ยอมรับงานขายตรง ดังนั้น เราจึงลุกขึ้นมาปรับเปลี่ยนองค์กรหลายอย่างเพื่อให้เกิดการยอมรับ เพื่อให้ลูกค้ามีสิทธิ์เลือกซึ่งไม่ใช่เราเลือกลูกค้า พร้อมขับเคลื่อนสู่การพัฒนาเครื่องมือใหม่ๆอย่างดีที่สุด
อีกทั้ง เพื่อเป็นการลดปมความรู้สึกที่ไม่ดีต่องานขายตรงสำหรับคนที่เคยตั้งการ์ด ก่อกำแพงมองขายตรงสีดำ เป็นธุรกิจไม่ดี ตลอดรวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นในงานขายตรงสำหรับคนที่อกหักไม่ประสบความสำเร็จในธุรกิจ ให้เปลี่ยนมุมมองเสียใหม่ให้เห็นว่าธุรกิจขายตรงเป็นอีกหนึ่งแขนงอาชีพที่น่าสนใจ สร้างคุณค่าต่อผู้คนและยกระดับสังคมได้จริง
ขณะเดียวกันแม้เราจะนำระบบออนไลน์มาทำงานมากขึ้น แต่เราก็ไม่ทิ้งวิธีการทำงานแบบเดิมๆเช่นการลงพื้นตามศูนย์เอเยนซี่ต่างๆเพื่อพบปะสมาชิก การจัดประชุม ที่ยังคงมีกลิ่นอายความรัก ความสามัคคี ความอบอุ่นเป็นวัฒนธรรมที่ดีงามของขายตรงเสมอมาที่ยังคงยึดมั่นปฏิบัติ เพื่อคุณค่านำธุรกิจ
“ด้วยจุดแข็งของศูนย์เอเยนซี่ซูเลียน ทำให้ตลาดออฟไลน์แข็งแกร่ง สร้างฐานลูกค้าได้อย่างมั่นคง เกิดขึ้นในพื้นที่ของตัวเอง เกิดความไว้วางใจ เพียงแต่เราต้องหาเครื่องมือใหม่ที่มีประสิทธิภาพเพื่อผลักดันให้นักธุรกิจสามารถประสบความสำเร็จเร็วขึ้น เป็นสิ่งที่จะทำให้พวกเขามีความสุขและสนุกในการทำงานยิ่งขึ้น”
ขณะที่ ภาณุสรรค์ จุลล์จักรวงศา” (คุณกวง) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ซูเลียน เอ็นเตอร์ไพรส์ เมียนมาร์ ในฐานะแม่ทัพซูเลียน ประจำประเทศเมียนมา ให้แนวคิดว่า ก่อนอื่นเราต้องยอมรับถึงวิกฤติที่เกิดขึ้นทั่วโลก สำหรับซูเลียนประเทศเมียนมา เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้สะดุดกับปมปัญหาใหญ่เมื่อรัฐบาลเมียนมาประกาศสั่งห้ามไม่ให้บริษัทขายตรงดำเนินธุรกิจแบบหลายชั้น ทำให้ซูเลียนได้มีการปรับวิธีการทำงานใหม่ระบบชั้นเดียวแบบซื้อมาขายไป และทำให้ยอดขายลดลงพอสมควร แต่วันนี้ถือเป็นข่าวดีปนร้าย เนื่องจาก 2 เดือนก่อนทางรัฐบาลเมียนมาเตรียมเปิดไฟเขียวให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง ส่วนอยู่ในกรอบการทำงานแบบไหนก็ต้องดูกันอีกที ด้วยพิษโควิด-19 จึงทำให้ทุกอย่างต้องหยุดชะงักเพื่อรอดูสถานการณ์โดยรวม
อย่างไรก็ตาม จากวิกฤติซ้ำเติมนี้ทำให้ขายตรงซูเลียนได้หันมาทบทวนตัวเองพร้อมให้ความสำคัญบุกตลาดออนไลน์มากขึ้นเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ รวมถึงการปรับโครงสร้างการบริหารภายในให้เกิดการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และยังคงเดินตามเจตนารมณ์เดิมของท่านประธาน “ดร.ปิยะวัฒน์ จุลล์จักวงศา” ในการขับเคลื่อนนำพาธุรกิจซูเลียนให้ก้าวเติบโตอย่างมั่นคงยั่งยืน และสามารถส่งต่อเป็นมรดกธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่นได้อีกยาวนาน ทำให้พวกเราซึ่งเป็นผู้บริหารรุ่นต่อไป เป็นคนรุ่นใหม่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อนำพาธุรกิจก้าวเติบโตอย่างมั่นคงตามเจตนารมณ์ของท่าน
“เวลานี้สมาชิกซูเลียนยังคงเป็นคนรุ่นเก่าเกิน 50% แบ่งสัดส่วนระดับรากหญ้า 70-80% อีก 20% คนในเมือง และรายได้ยอดขายส่วนใหญ่มาจากคนกลุ่มนี้หรือช่องทางออฟไลน์ 70-80% เพราะคนเหล่านี้เป็นฐานผู้บริโภคตัวจริงมีการ ซื้อซ้ำความสำเร็จที่เกิดจากการสร้างสายสัมพันธ์อันเหนี่ยวแน่น จากการได้พบปะพูดคุยผ่านศูนย์เอเยนซี่ ซูเลียนที่มีทั่วประเทศ”