เจาะใจ “สาริณี เสฐียรภัคกุล” “ยูซานา เลือกค่อยๆ เติบโตอย่างมั่นคง เพราะยุคนี้หมดสมัยใช้แหเหวี่ยงเอาทุกคน”

“ยุคนี้ขายตรงอยู่รอดได้ต้องเป็นเนื้อแท้ วันนี้หมดเวลาโมติเวท หมดเวลาหลอกกัน หมดสมัยใช้แหเหวี่ยงเอาทุกคน เพราะข้อมูลทุกอย่างสามารถเช็คความจริงได้หมดผ่านระบบออนไลน์ วันนี้ยูซานาเลือกที่จะค่อยๆเติบโตอย่างมั่นคงบนพื้นฐานความเป็นจริงสบายใจที่สุด”

หนึ่งประโยคคำพูดที่สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจ ในความมั่นคงทางธุรกิจขายตรงอินเตอร์ “ยูซานา”ที่จะเติบโตอีกยาวไกล ภายใต้การนำทัพของสาริณี เสฐียรภัคกุล” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูซานา เฮลธ์ ไซเอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เธอผู้คล่ำหวอดในวงการขายตรงมานาน และนานพอที่ทำให้ “รู้จักและรู้จริง ในธุรกิจขายตรง และความต้องการคนขายตรงเป็นอย่างดี” มาพร้อมกับทิศทางการตลาดก้าวต่อไปที่สื่อออนไลน์ “ข่าวอัพเดท” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์อย่างเป็นกันเอง

โอกาส!!  ในวิกฤติโควิด-19

สาริณี เสฐียรภัคกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูซานา เฮลธ์ ไซเอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำตลาดด้านผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพ และความงาม กล่าวว่า ช่วงวิกฤติโควิด-19 ยอดขายยูซานาทั้งในไทยและตลาดทั่วโลกเติบโตดี จากกระแสความต้องการผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดูแลสุขภาพพุ่งสูง ส่งผลให้ช่วงเวลาที่ผ่านมาสินค้าขาดสต๊อกทั่วโลก เนื่องจากผลิตภัณฑ์ยูซานาตอบโจทย์ด้านสุขภาพได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายการคมนาคมเดินทางสะดวกมากขึ้น ขณะนี้ทำให้ยูซานาได้เริ่มทยอยลำเลียงสินค้าล๊อตใหม่เข้าราวต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป และพร้อมส่งต่อให้นักธุรกิจผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุม ขณะเดียวกันเป็นเรื่องที่น่ายินดี ในช่วงวิกฤติโควิดได้เกิดภาพความสำเร็จของนักธุรกิจระดับไดมอนด์ไดเร็กเตอร์เกิดขึ้นเช่นกัน

เพราะฉะนั้น สะท้อนให้เห็นว่าแม้จะเป็นช่วงเวลาวิกฤติ แต่ก็สามารถสร้างโอกาสดีๆเกิดขึ้นได้เสมอ นำความสำเร็จเสริมสร้างสิ่งดีๆเกิดขึ้นกับผู้คนทั่วโลกได้เป็นอย่างดี

อีกทั้ง ช่วงวิกฤติโควิดได้สะท้อนภาพพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด อย่างเช่น จากคนที่ลังเลในสินค้าก็จะหันมาตัดสินใจซื้อบริโภคเพื่อดูแลสุขภาพทันที จากคนที่บริโภคซื้อน้อยสินค้าบางรายการก็หันมาดูแลใส่ใจซื้อสินค้าเพิ่มเพื่อรักษาสุขภาพองค์รวมให้แข็งแรงยิ่งขึ้น หรือจากคนที่ซื้อหาทานคนเดียวก็แนะนำบอกต่อคนในครอบครัวหรือคนรอบข้างซื้อกิน ส่วนคนที่คิดว่ามีงานทำมั่นคง ก็เริ่มมองหาอาชีพที่สองหรือหันมาทำยูซานาอย่างจริงจัง เป็นต้น

จากปัจจัยบวกเหล่านี้ส่งผลให้ฐานผู้บริโภคยูซานา ได้มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงวิกฤติที่ผ่านมา  หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตกว่า20%

อีกทั้ง ปัจจัยเกื้อหนุนที่ทำให้ยูซานาเติบโตมาจาก Global promotion ที่ถูกนำไปใช้ทุกสาขาทั่วโลกเพราะไม่สามารถจัดงานได้ซึ่งได้รับกระแสตอบรับดีเช่นกันผลักดันให้ยอดขายเพิ่มขึ้น เช่น ยูซานาประเทศฟิลิปปินส์มียอดขายเติบโต 50% ยูซานาประเทศเกาหลีเติบโต 30 % เป็นต้น

8 ปีเส้นทางธุรกิจยูซานาไทย

ปัจจุบัน ยูซานาประเทศไทย เปิดดำเนินธุรกิจร่วม 8 ปี มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 15 % ต่อปีและสร้างยอดขายมากกว่า 10 ล้านบาทต่อเดือน และเมื่อโลกเข้าสู่การดิสรัปชัน หรือดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในสังคมมากขึ้นทำให้ยูซานามีการปรับตัวเองให้ความสำคัญช่องทางออนไลน์มากขึ้น และยังคงยึดมั่นดำเนินธุรกิจอย่างตรงไปตรงมาใส่ใจ จริงใจ ทุกอย่างโปร่งใส   

“ยุคนี้ขายตรงอยู่รอดได้ต้องเป็นเนื้อแท้ วันนี้หมดเวลาโมติเวท หมดเวลาหลอกกัน หมดสมัยใช้แหเหวี่ยงเอาทุกคน เพราะข้อมูลทุกอย่างสามารถตรวจเช็คความจริงได้หมดผ่านระบบออนไลน์ในเวลาอันรวดเร็ว นักขุดข้อมูลมีมาก ก่อนการซื้อสินค้าหรือ การลงทุนใดๆหากไม่มั่นใจสิ่งใดก็จะหาข้อมูลทุกช่องทางจนกว่าจะตัดสินใจได้ เป็นยุคที่ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น ณ จุดนี้สำหรับสังคมยูซานา คนไหนเป็นลูกค้าเราก็ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ทำธุรกิจสบายใจเพราะเราเป็นเนื้อแท้มีข้อมูลทุกอย่างที่เป็นของจริงตรวจสอบพิสูจน์ได้หมด ยูซานาจึงเลือกที่จะค่อยๆเติบโตอย่างมั่นคงบนพื้นฐานความเป็นจริง”

นอกจาก ภาพความสำเร็จที่เกิดขึ้นในไทยอย่างต่อเนื่องแล้ว ตลาดฟิลิปปินส์ก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยูซานาจนสามารถเติบโตติดอันดับ 1 ในตลาดวิตามินหรือตลาดแมสทั่วไปพร้อมๆกับภาพความสำเร็จนักธุรกิจก้าวประสบความสำเร็จสูงหลายคน เนื่องจากประเทศดังกล่าวมีค่าครองชีพสูง นักธุรกิจส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุน้อย พร้อมลุยทำงานและใช้เครื่องมือสมัยใหม่ทำงานเป็นจึงทำให้ประสบความสำเร็จเร็ว  ส่วนผู้บริโภคก็ยังคงเป็นกลุ่มคนวัยกลางคน และผู้สูงอายุ เป็นหลัก

เป้าหมายก้าวต่อไป

กลับมาที่ยูซานาประเทศไทย นักธุรกิจไทยส่วนใหญ่ก่อนหน้านี้เป็นวัยกลางคน หรือกลุ่ม Baby Boomer แต่หลังจากที่ยูซานาได้มีการขยับตัวทำงานผ่านช่องทางออนไลน์ ผลักดันให้เกิดฐานสมาชิกคนรุ่นใหม่กลุ่มGenX , Gen Y เรียกอีกอย่างว่า Millennials มากขึ้น คิดเป็นอัตราส่วนสมาชิกคนรุ่นใหม่-เก่า 50:50 ขณะที่ผู้บริโภคยูซานามีกำลังซื้อต่อบิลที่ 10,000 บาท ถือเป็นตัวเลขที่สูงแต่ผู้บริโภคยินดีจ่ายเพราะสินค้าเราดีตอบโจทย์สุขภาพได้จริง

“ไม่มียุคไหนที่การแข่งขันไม่ดุเดือด แต่ความสำเร็จอยู่ที่กลยุทธ์ที่เรานำมาใช้ว่าจะเหมาะสมกับองค์กรของเราหรือไม่ หรือคนที่เข้าร่วมธุรกิจมีจริตความคิดเห็นตรงกัน พร้อมที่จะโฟกัสเป้าหมายเดียวกันหรือเปล่า คนไม่ใช่ ยังงัยก็ไม่ใช่  แต่ถ้าคนที่ใช่ทำธุรกิจอย่างจริงจังก็สามารถสร้างรายได้หลักแสน หลักล้านได้ไม่ต้องไปลงทุนกับธุรกิจมืดมันนี่เกมให้เสียความรู้สึก เสียเวลา เสียเงินทอง”

กลยุทธ์ปีหน้า 2564

ส่วนกลยุทธ์ปีหน้าของยูซานาจะเดินหน้าเปิดตัวสินค้าใหม่ พร้อมกับการเปิดตลาดเชิงรุกกลุ่มสินค้าดูแลควบคุมน้ำหนัก กลุ่มสกินแคร์ พร้อมๆ กับขยายกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มGen x และGenY เพิ่งจบใหม่มีไฟในตัวอยากเป็นนายตัวเองเพราะคนกลุ่มนี้พร้อมลุยเต็มที่

“ต้องเข้าใจว่ากลุ่มคนวัยทำงานบางคนมีความมั่นคงในหน้าที่การงานระดับหนึ่งแล้วอาจทำธุรกิจไม่เต็มที่ ดังนั้นคนรุ่นใหม่จึงเป็นเป้าหมายที่จะขยายอย่างชัดเจนในปีหน้า ด้วยพฤติกรรมคนเปลี่ยนทำให้ยูซานาได้มีการพัฒนาเครื่องมือการทำงานผ่านช่องทางออนไลน์ทุกช่องทาง อย่างเช่น เพจเฟซบุ๊ก ยูซานา เราเปิดเป็นสาธารณะทุกคนสามารถเข้ามาดูได้ เน้นให้ข้อมูลความรู้ต่างๆที่เป็นประโยชน์ทั้งเรื่องสุขภาพ  การเพิ่มพลังบวกการใช้ชีวิต ความรู้เศรษฐกิจ นำเสนอเรื่องราวในกระแสเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคและนักธุรกิจอย่างแท้จริง” สาริณี กล่าวทิ้งท้าย