ศูนย์ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งมหานครโตเกียว สำนักงานประเทศไทย (Tokyo SME Support Center) เตรียมจัดงาน “Tokyo-Thailand Food Business Matching 2020 To resolve concerning issues of 10 Thai Companies by Japanese Innovation” โดยทำหน้าที่เป็นตัวกลางคัดสรรและดึงผู้ประกอบการ “เอสเอ็มอีญี่ปุ่น” ด้านอาหาร มาจับคู่ธุรกิจกับ “เอสเอ็มอีไทย” ระดับชั้นนำ 10 แห่ง มั่นใจเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจรอบด้าน ภายใต้แนวคิด “Thailand 4.0” คาดว่าเกิดการเจรจามากกว่า 70 คู่ค้าธุรกิจ
นางโทโมโกะ อุจิดะ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายงานด้านกลยุทธ์ ศูนย์ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งมหานครโตเกียว กล่าวว่า “Tokyo SME Support Center เป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาลกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และมีบทบาทในการมีส่วนร่วมส่งเสริมอุตสาหกรรมในโตเกียวมายาวนานกว่า 50 ปี โดยในปัจจุบัน ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจัดตั้งบริษัทไปจนถึงการสนับสนุนในเชิงพาณิชย์ การพัฒนาตลาด การสืบทอดและการฟื้นฟู ซึ่งตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการญี่ปุ่นในกรุงโตเกียว มีแนวโน้มในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียน ทั้งนี้ มีประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง ดังนั้น Tokyo SME Support Center จึงจัดตั้งสำนักงานประจำประเทศไทย เมื่อเดือนธันวาคม 2558 เพื่อดำเนินการสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในประเทศไทย ให้พัฒนาและเติบโตไปด้วยกัน เพื่อสร้างเสริมเศรษฐกิจของกันและกันให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ล่าสุดเตรียมจัดงาน “Tokyo-Thailand Food Business Matching 2020 To resolve concerning issues of 10 Thai Companies by Japanese Innovation” จับคู่ธุรกิจระหว่าง “เอสเอ็มอีของไทย” กับ “เอสเอ็มอีจากญี่ปุ่น” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละแห่ง โดยมี Tokyo SME Support Center ทำหน้าที่เป็นตัวกลางคัดสรรผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจากญี่ปุ่น มาเจรจาธุรกิจกับเอสเอ็มอีของไทยจำนวน 10 แห่ง ในวันอังคารที่ 17 – วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน 2563 ณ โรงแรมแลนด์มาร์ค กรุงเทพฯ ชั้น 3 ห้องสุขุมวิท 7-11 ทั้งนี้ คาดว่าจะเกิดการเจรจาทางธุรกิจมากกว่า 70 คู่ค้าธุรกิจอย่างแน่นอน
ในการจัดงาน “Tokyo-Thailand Food Business Matching 2020 To resolve concerning issues of 10 Thai Companies by Japanese Innovation” มีผู้ประกอบธุรกิจด้านธุรกิจอาหารของไทยผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมงานจำนวน 10 บริษัท ได้แก่ บริษัท อินโนว่า ฟู้ด แอนด์ เบค จำกัด, บริษัท ขนมไทยเก้าพี่น้อง จำกัด, บริษัท มาลี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, บริษัท พี.แสงอุดมเทรดดิ้ง จำกัด, บริษัท ยูไนเต็ด ฟูดส์ อินดัสตรี้ จำกัด, บริษัท เอเอ็มทีฟู้ด จำกัด, บริษัท บุญทรี ฟู้ด จำกัด, บริษัท โคฟี่ จำกัด, บริษัท เค.แอล. อินเตอร์ ฟู้ด จำกัด และบริษัท ซิโน-ไทย ฟรีซแอนด์ดราย จำกัด
จุดเด่นของงาน “Tokyo-Thailand Food Business Matching 2020 To resolve concerning issues of 10 Thai Companies by Japanese Innovation” คือ การดำเนินการให้เกิดการเจรจาธุรกิจที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดย Tokyo SME Support Center ทำหน้าที่ให้คำปรึกษา ด้วยการรับฟังความต้องการหรือสิ่งที่ผู้ประกอบการไทยต้องการ จากนั้นจึงคัดสรรผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่ตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวฯ จนมาถึงกระบวนการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ในที่สุด การรับฟังความต้องการของผู้ประกอบการไทยและจัดให้มีการเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่ตรงกับความต้องการนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องวิเคราะห์สิ่งที่ผู้ประกอบการกำลังค้นหา ในขณะที่ ผู้ประกอบการแต่ละรายจะยอมเปิดใจร่วมเจรจาด้วยก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเช่นกัน ในฐานะองค์กรที่ปรึกษาด้านการเจรจาธุรกิจ Tokyo SME Support Center ต้องคิดวิเคราะห์และพิจารณาอย่างละเอียด เพื่อที่สามารถแนะนำให้เกิดการเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการที่ตอบโจทย์ได้จริงในแต่ละครั้ง
ด้านการติดตั้งเครื่องจักร อาทิ แนะนำผู้ผลิตเครื่องจักรให้ผู้ประกอบเครื่องดื่ม พัฒนาวัตถุดิบชนิดผงให้กลายเป็นรูปแบบเกล็ด (Granule) ได้สำเร็จ, แนะนำเครื่องผัด เทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น ให้ผู้ประกอบการผลิตอาหาร สามารถเพิ่มกำลังการผลิต และช่วยลดจำนวนพนักงานให้น้อยลง
ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน อาทิ แนะนำผู้ผลิตคอลลาเจนด้วยนวัตกรรมจากประเทศญี่ปุ่น ให้ผู้ผลิตอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ กระทั่งสามารถนำวัตถุดิบดังกล่าวไปใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มเพื่อความงามได้สำเร็จ และแนะนำผู้ประกอบการที่มี Know-how ให้แก่ผู้ผลิตและจำหน่ายสารปรุงแต่งรสและกลิ่น ได้สรรหาวัตถุดิบที่สามารถพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์อาหารให้มีรสชาติ, รูปลักษณ์, และ Texture ที่ดีขึ้น ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ยังได้มีการวิจัยและทดลองพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน
ด้านการว่าจ้าง-รับจ้างผลิต OEM: อาทิ แนะนำผู้ประกอบการญี่ปุ่นที่มีเทคโนโลยีในการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์นัตโตะจากเดิมที่มีอยู่ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์นัตโตะฟรีซดราย กลายเป็น Healthy Snack เป็นต้น
สำหรับการจัดงาน “Tokyo-Thailand Food Business Matching 2020 To resolve concerning issues of 10 Thai Companies by Japanese Innovation” ครั้งนี้ กำหนดจัดขึ้นในวันอังคารที่ 17 – วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน 2563 ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ณ โรงแรมแลนด์มาร์ค กรุงเทพฯ ชั้น 3 ห้องสุขุมวิท 7-11 สำหรับ องค์กรธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอีในประเทศไทย ที่ต้องการข้อมูลหรือคำแนะนำในการหาพันธมิตรธุรกิจ หรือการลงทุนต่างๆ สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งมหานครโตเกียว สำนักงานประเทศไทย โทรศัพท์ 02-611-2641-43 (เจ้าหน้าที่ประสานงาน: ชมพูนุช) หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tho.tokyo-trade-center.or.jp