8 ปีในวันนี้ของ “แม๊กซ์ อินเตอร์ฯ” อีกกี่ปีก็ยังเจอผม “ดร.ประกาสิต เลิศมุกดา”
“ผมไม่ได้ทำธุรกิจแบบตีหัวเข้าบ้านใช้เวลา 2-3 ปีจบ”
บนเส้นทางการเดินทางของธุรกิจเครือข่าย “แม็กซ์ อินเตอร์”(Maxx Inter) ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมาภายใต้การบริหารงาน “ดร.ประกาสิต เลิศมุกดา”ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แม็กซ์ อินเตอร์ เน็ตเวิร์ค จำกัด ก็คงไม่ต่างจากธุรกิจทั่วไปที่ต้องเจอกับบททดสอบความแกร่งมากมาย และบททดสอบนี้ก็ได้สะท้อนบทเรียน ให้ปรับตัวเองเพิ่มความแกร่งเพื่อนำทัพธุรกิจก้าวเดินต่อไป
ปรับเพื่อแกร่ง Slim to Smart
“ดร.ประกาสิต” เล่าให้ฟังอย่างเป็นกันเองว่า หลังประสบปัญหาทางธุรกิจในหลายรูปแบบ ทำให้เราได้มีการปรับตัวใหม่ ภายใต้หลักการบริหารจัดการแบบ Slim to Smart ลุกขึ้นมาการควบคุมต้นทุนให้สอดรับกับสถานการณ์ความเหมาะสมและคุ้มค่ามากที่สุด ทำให้ภาพรวมธุรกิจเริ่มดีขึ้น และผมเชื่อว่าหากใครบริหารต้นทุนได้ดี คนนั้นก็จะเติบโตไปได้ยาว ๆ เพราะถึงที่สุดแล้ว “ความสำเร็จทุกธุรกิจต้องอยู่บนพื้นฐานผู้บริโภควันนี้ภาพของแม็กซ์ อินเตอร์อาจจะดูไม่ยิ่งใหญ่เหมือนก่อนแต่เราเชื่อมั่นว่ามีความมั่นคง ยิ่งกว่าเก่าอย่างแน่นอน”
“การทำธุรกิจเครือข่ายเสมือนการวิ่งมาราธอน ต้องวิ่งไกลๆนานๆ ขณะวิ่งแข่งต้องเก็บออมแรงไว้ เพราะการวิ่งแรงใส่ไม่ยั้งไม่ใช่คำตอบว่าจะถึงเส้นชัย หรือ การวิ่งเบาๆใช่ว่าจะแพ้ซะทีเดียว เพราะฉะนั้นระหว่างทางต้องมีการอัดแรง ผ่อนปรนหลายเวอร์ชันเพื่อก้าวถึงเส้นชัย ”
กลยุทธ์ “ต้นกระบองเพชร”
ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เมื่อเข้าสู่การดิสรัปของโลกยุคใหม่ที่ยากจะหลีกเลี่ยงได้ ทำให้ทุกคนต้องปรับตัว เฉกเช่นกัน หลังจากที่แม็กซ์ อินเตอร์ได้มีการปรับตัวเองในรูปแบบ Slim to Smart อยู่ในยุคที่โซเชียลเน็ตเวิร์ค มีบทบาทมากในสังคมมากขึ้น ทำให้บริษัทได้มีการปรับโครงสร้างบริหารต้นทุนใหม่อย่างคุ้มค่า ขณะเดียวกันก็ได้อัดฉีดเครื่องมือทันสมัยเพื่อผลักดันให้ผู้ร่วมธุรกิจประสบความสำเร็จเร็วขึ้น อย่างเช่น สิ่งที่เห็นได้ชัดเวลานี้เราได้มีการลดสัดส่วนพื้นที่สำนักงานใหญ่ CDC พร้อมหันไปใช้พื้นที่ตึกแถวด้านหลังแทนให้เกิดประโยชน์สูงสุด
“การปรับลดพื้นที่ไม่ใช่ ไม่มีกิจกรรม ทีมงานส่วนใหญ่ลงพื้นที่จริงทำงาน หรืออยู่ตามต่างจังหวัดโดยเฉพาะตลาดหลักทางภาคอีสานและภาคใต้ ขณะเดียวกันเราได้ทุ่มงบรุกตลาดออนไลน์เป็นหลักเพื่อเข้าถึงฐานผู้บริโภคสูงสุด พร้อมกับ ดันสินค้าเรือธง น้ำสมุนไพรพลูคาว ตรา เคนโกะตีตลาด ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดี ขณะที่ต้นทุนธุรกิจลดลงเช่นกันวันนี้แฮ็ปปี้มาก ”
วันนี้ แม็กซ์อินเตอร์ ใช้กลยุทธ์การทำงาน แบบ “ต้นกระบองเพชร” ใบไม่เยอะไม่มีน้ำหรือน้ำน้อยก็สามารถยืนหยัดได้ เช่นกันยุคตลาดออนไลน์บูมเราจัดสรรงบลงทุนในทิศทางที่ถูกต้อง ไม่ต้องมากก็อยู่ได้ เราต้องขับเคลื่อนธุรกิจแบบการวิ่งมาราธอน ต้องรู้ถึงสภาวะรอบด้าน เช่นวันนี้ประสบภาวะวิกฤติโควิด-19 ต้องพลิกเกมทำตลาดให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปโดยเน้นการทำตลาดออนไลน์ พร้อมกับนำสินค้าที่ดีส่งต่อผู้บริโภค
ความสำเร็จที่แท้จริง คือ ผลกำไร
ปัจจุบัน แม๊กซ์ อินเตอร์เติบโตร่วม 8 ปี ระยะเวลาที่เนินนานพอสมควรนี้สะท้อนให้เห็นว่า “ผมไม่ได้ทำธุรกิจแบบตีหัวเข้าบ้านใช้เวลา 2-3 ปีจบ” แต่ผมต้องการทำธุรกิจแบบระยะยาว และ “ในปีหน้าหรือปีต่อๆไปพี่ๆนักข่าวมาสัมภาษณ์ก็ยังเจอผม ดร.ประกาสิต เลิศมุกดา” แน่นอน แต่ขณะเดียวกันต้องเข้าใจด้วยว่าเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป วิธีการทำงานย่อมเปลี่ยนตาม เพื่อความอยู่รอดจะให้ใช้รูปแบบการทำงานเดิมๆคงไม่ได้ เราต้องปรับตัวให้ทัน ด้วยตัดทอนลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป
“จากภาพในอดีตแม๊กซ์อินเตอร์ สำนักงานต้องมีพื้นที่ขนาดใหญ่ คนต้องเยอะๆ แต่วันนี้ไม่ต้องแล้ว และด้วยวิธีการดึงคนมา ชวนคนกลับ แล้วรับเงิน วันนี้ไม่ใช่เช่นกัน สำคัญกว่านั้นความสำเร็จไม่ใช่อยู่ที่จำนวนยอดขายจำนวนมาก แต่อยู่ที่วันนี้เราเหลือผลกำไรมีเงินในบัญชีจากการทำธุรกิจเท่าไหร่มากกว่า”
สำหรับ ก้าวต่อไปของธุรกิจเครือข่ายแม๊กซ์อินเตอร์ ดร.ประกาสิต กล่าวทิ้งท้ายว่า บริษัทมุ่งเน้นทำการตลาดแบบออนไลน์เป็นหลัก โดยใช้หลักการบริหารจัดการแบบประคองตัวตามสภาวการณ์
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ให้สัมภาษณ์ บอสแม๊กซ์อินเตอร์ ยังได้แย้มอีกหลายโปรเจกต์ใหญ่ที่ขอ “Off Record”เป็นช่วงๆ แต่บอกได้เพียงว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีต่อวงการธุรกิจเครือข่ายโดยรวมที่จะสร้างความฮือฮาอย่างมาก ส่วนจะเป็นในรูปแบบไหน สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ขอให้ทุกท่านติดตามชมตอนต่อไป??