ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีการเกิดอุบัติเหตุรถยนต์หมายเลขทะเบียน ฆฐ 3307 กรุงเทพมหานคร เสียหลักพลิกคว่ำ บริเวณทางโค้งกิโลเมตรที่ 31 จอมทอง-ดอยอินทนนท์ ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 5 ราย โดยหนึ่งในผู้เสียชีวิต คือ นายสมพงษ์ ศรีอนันท์ นายกเทศมนตรีตำบลหลักหก จังหวัดปทุมธานี
ในเบื้องต้น เลขาธิการ คปภ. ได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ และสายกลยุทธ์องค์กร บูรณาการการทำงานร่วมกับสายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค โดยสำนักงาน คปภ. ภาค 1 (เชียงใหม่) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดเชียงใหม่ ได้เร่งติดตามและตรวจสอบการจัดทำประกันภัยของรถยนต์คันประสบอุบัติเหตุ ว่า มีการทำประกันภัยประเภทใดไว้บ้าง เพื่อช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในการนำระบบประกันภัยเข้าไปเยียวยาความสูญเสียที่เกิดขึ้นให้กับครอบครัวของผู้ประสบภัยในครั้งนี้
ทั้งนี้ ได้รับรายงานเบื้องต้นจาก สำนักงาน คปภ. ภาค 1 (เชียงใหม่) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดเชียงใหม่ ว่า รถยนต์หมายเลขทะเบียน ฆฐ 3307 กรุงเทพมหานคร ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 11001-899-203389732 เริ่มคุ้มครองวันที่ 5 มิถุนายน 2563 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 5 มิถุนายน 2564 และได้ทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ (ประเภท 1) ไว้กับ บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ตามกรมธรรม์เลขที่ 63-1-5-187751 ทำสัญญาวันที่ 23 มีนาคม 2563 เริ่มคุ้มครองวันที่ 18 เมษายน 2563 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 18 เมษายน 2564 คุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย อนามัย ของบุคคลภายนอก 1,000,000 บาท/คน ไม่เกิน 10,000,000 บาท/ครั้ง ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก 5,000,000 บาท คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ 370,000 บาท คุ้มครองสูญหาย/ไฟไหม้ 370,000 บาท คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลกรณีสูญเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร (ผู้ขับขี่/ผู้โดยสาร 6 คน) 200,000 บาท/คน ค่ารักษาพยาบาล 200,000 บาท/คน ประกันตัวผู้ขับขี่ 200,000 บาท
ทั้งนี้ ในส่วนของการติดตามและการประสานงานเพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับทายาทของผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ภาค 1 (เชียงใหม่) ได้ประสานงานกับสำนักงาน คปภ. ภาค 6 (ชลบุรี) ซึ่งกำกับดูแลสำนักงาน คปภ. จังหวัดปทุมธานี เพื่ออำนวยความสะดวกและติดตามการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับทายาทของผู้ประสบภัย ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เพื่อให้ระบบประกันภัยเข้าไปเยียวยาความสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้โดยเร็ว
“สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ และขอแสดงความห่วงใยประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างยิ่ง เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย และขอฝากเตือนประชาชนควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะเส้นทางการจราจรที่ไม่คุ้นเคย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นได้ และหมั่นตรวจสอบสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนตรวจวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัย พ.ร.บ.) ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งควรทำกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและกรมธรรม์ประกันชีวิตอื่นๆ ด้วย เพื่อที่ระบบประกันภัยจะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัย สามารถสอบถามได้ที่สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย