เชื่อว่าหลายท่านคงเคยได้ยินจนชินหูกับคำว่า “ธุรกิจขายตรงสีขาว” แต่จนถึงทุกวันนี้ก็มิอาจรู้ได้ว่า ใคร คือต้นตำรับ?? แล้วอะไรเป็นดัชนีชี้วัดได้ว่าบริษัท หรือองค์กรเหล่านั้นเป็น ธุรกิจสีขาวตัวจริง!! หรือเป็นเพียงแค่คำโปรยยาหอมเพื่อโปรโมทตัวเอง
คำจำกัดความสั้นๆ “สีขาว” หมายถึง ธุรกิจขายตรงที่ถูกกฎหมาย เป็นบริษัทขายตรงที่จดทะเบียนถูกต้องและดำเนินการตามแผนการตลาดที่ได้รับอนุญาต มีลักษณะดังนี้ บริษัทสนใจที่จะขายสินค้า สินค้าต้องดี มีคุณภาพ สามารถขายตัวเองได้ ราคาขายเหมาะสมกับคุณภาพสินค้า
แต่วันนี้ชัดเจน!! กับอีกหนึ่งองค์กรที่กล้ายกตัวเองเป็น “ธุรกิจขายตรงสีขาว” ตั้งแต่เริ่มต้น สำหรับแบรนด์ขายตรงคนไทย “ไอยรา แพลนเน็ต” ภายใต้การนำทัพของ “ดร.กัมปนาท บุญราศรี “ประธานกรรมการบริหาร บริษัทไอยรา แพลนเน็ต จำกัด คำถามต่อมา?? แล้วสิ่งใดทำให้องค์กรแห่งนี้กล้าบอกตัวเองว่าเป็น “ธุรกิจขายตรงสีขาว”พ่วงมาด้วยดีกรี “ธุรกิจขายตรงสีขาว องค์กรแห่งนวัตกรรม” กระทั่งก้าวเติบโตสู่ปีที่ 9 อย่างมั่นคง เราไปหาคำตอบพร้อมๆกัน!!
บริษัท : บริษัทไอยรา แพลนเน็ต จำกัด ได้จดทะเบียนอย่างถูกต้องกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จุดเริ่มต้น ก่อตั้งบริษัท เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2555 เดิมมีสำนักงานใหญ่ในตึกช้าง รัชโยธิน ต่อมาได้ตอกความเชื่อมั่นในความมั่นคงอยู่กันแบบยาวๆด้วยการเทหมดหน้าตักทุ่มงบกว่า 15 ล้านบาท รีโนเวทตึกเปิดอาณาจักรใหม่ อาคาร “ไอยเรศวร” มีขนาดสูง 6 ชั้น ตั้งอยู่ริมถนนลาดพร้าว 84 ตัดแยกเลียบด่วนรามอินทราได้เปิดตัวได้ราว 3 ปีที่ผ่านมา
ผู้ประกอบการ : ดร.กัมปนาท บุญราศรี ประธานกรรมการบริหาร บริษัทไอยรา แพลนเน็ต จำกัด มีประสบการณ์สูงที่ได้ทุ่มเท เดิมพันทั้งชีวิตให้กับงานขายตรง เริ่มตั้งแต่เป็นผู้บริโภค นักธุรกิจ ที่ปรึกษาขายตรง เพราะรู้ถึงความต้องการของคนขายตรงเป็นอย่างดี จนกระทั่งสู่บทบาท “ประธานบริษัท” ทั้งตัวและหัวใจ เดินหน้าปลุกปั้นต้นแบบธุรกิจขายตรงสีขาวไอยรา แพลนเน็ตเกิดขึ้นในวงการขายตรง เป็นธุรกิจทางเลือกที่สามารถฝากชีวิตอนาคตที่ดีไว้ได้ ภายใต้ปณิธาน “มุ่งมั่น สร้างคุณค่าสู่สังคม” ด้วยความ “ใส่ใจ แบ่งปัน เติบโตร่วมกัน” “We Care We Share We Grow “
“องค์กรนวัตกรรม” เริ่มจาก “นวัตกรรมผลิตภัณฑ์” มุ่งมั่นทุ่มเทคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพจากธรรมชาติ ผ่านการวิจัยด้านชีวโมเลกุลโดยทีมนักวิทยาศาสตร์ มีเอกลักษณ์ชัดเจน อย่างเช่น สินค้าเรือธง “เอมมูร่า เซซามิน” งาดำผลงานวิจัยของ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วิจัยโดย “ศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ” ที่ได้ไว้วางใจผลิตให้ไอยราฯเพียงค่ายเดียวเท่านั้น ถือเป็นบริษัทแรกที่เปิดตัว และได้สร้างยอดขายถล่มทลายมาแล้ว รวมถึงสินค้านวัตกรรมอื่นๆอีกมากมาย ทั้งกลุ่มสุขภาพและความงาม กลุ่มดูแลสุขอนามัย เป็นต้น
“นวัตกรรมแผนการปันผลตอบแทน” ยุติธรรมมั่นคง ยั่งยืน สามารถสร้างรายได้ ในระยะเวลาอันสั้น ขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความสำเร็จอย่างมั่นคง
“นวัตกรรม การบริหารจัดการองค์กร” ผ่าน สถาบันพัฒนาธุรกิจไอยรา Aicademy ภายใต้ระบบการสอนคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญสร้างคนพัฒนาคน อาจารย์ชาญวิทย์ เมธาชัยวุฒิ รวมถึงบุคลากร ขุนพลคนเก่งรอบด้าน
“นวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ” ผ่านระบบปฏิบัติการทันสมัย โดยทีมวิศวกร ที่ได้ออกแบบให้สอดคล้องและลงตัวกับรูปแบบธุรกิจ ผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ ในหลายแพลตฟอร์ม
“ตลาดต่างประเทศ” เปิดตัวบุกตลาดอาเซียน ตลาดโตดี คือสาขาประเทศกัมพูชา ที่ไอยราฯได้ปักธงรบก้าวสู่ปีที่ 5 นับเป็นบริษัทขายตรงที่ประสบความสำเร็จสูงสามารถกุมหัวใจสมาชิกหลักแสนคน สร้างยอดขายติดอันดับต้นๆของประเทศดังกล่าว ซึ่งมาจากสินค้าไทยเป็นที่ต้องการ สมาชิกพร้อมที่จะลุยทำธุรกิจอย่างจริงจัง สามารถยึดเป็นอาชีพหลักได้
“รางวัลอันทรงเกียรติ” ความภาคภูมิใจที่ไอยราฯได้รับ เช่น รางวัล บริษัทเครือข่ายดาวรุ่ง ปี 2555รางวัลบริษัทขายตรงยอดเยี่ยมแห่งปี 2556รางวัลบุคคลตัวอย่าง “คนดีศรีสยาม” 2556 รางวัลระฆังทอง สาขานักพัฒนาองค์กรดีเด่น ปี 2556 รางวัลสิงห์ทอง “ผู้บริหารและนักพัฒนา องค์กรดีเด่นแห่งปี” ปี 2558รางวัล “INNOVATION AWARD 2017” จากองค์กรไม่แสวงหาผลประโยชน์ Enterprise Asia เป็นต้น
“CSR กิจกรรมเพื่อสังคม” มุ่งสร้างคุณค่าและแบ่งปันโอกาสสู่สังคม ผ่านมูลนิธิ CCF เพื่อเด็กและเยาวชน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพฯรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆเพื่อช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น และทำต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี
“ถูกต้อง” คือ ผลิตภัณฑ์ดี ผู้บริโภคซื้อซ้ำได้ เพราะผลกำไรขายตรงอยู่ที่การซื้อซ้ำ สินค้าต้องมีคุณภาพ สร้างความแตกต่าง กำหนดราคาซื้อซ้ำได้ ต่อมาแผนธุรกิจดี ตั้งแต่ไอยราฯเปิดดำเนินธุรกิจมาไม่เคยตัดรหัสใคร ไม่ล้างคะแนน ทุกคนมีความสุข มีความไว้วางใจการทำงาน “หัวใจการฝึกอบรมที่ยากที่สุด คือ การอบรมจิตใจสร้างอุดมการณ์ทางความคิดที่ถูกต้อง ถูกต้องในงาน คือ การทำขายตรงให้เป็นอาชีพให้ได้”
“คุณค่า” คือ การสร้างงานนวัตกรรมที่มีคุณค่าต่อผู้บริโภคในการดูแลสุขภาพอย่างปลอดภัยที่มาจากงานผลวิจัยสถาบันที่มีชื่อเสียง สามารถยึดเป็นอาชีพที่มั่นคงได้
“ยั่งยืน” คือ การปรับเปลี่ยนตัวเองตลอดเวลาเพื่อให้สอดรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปแต่อย่าเปลี่ยนอุดมการณ์ของการเป็นขายตรงสีขาว ทำให้ทุกวันนี้ผู้นำระดับสูงไอยรา ยังคงติดบริษัทอย่างเหนี่ยวแน่น ขณะที่ฐานสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆมีโดยรวมหลัก 5 แสนรหัส
ผ่าแผนรุกตลาด “ไอยรา แพลนเน็ต”
นอกจากความชัดเจนต้นแบบธุรกิจสีขาวแล้ว หากถามถึงแผนรุกตลาดหลังจากนี้ท่ามกลางสิ่งท้าทาย “ดร.กัมปนาท บุญราศรี” ประธานกรรมการบริหาร บริษัทไอยรา แพลนเน็ต จำกัด ให้สัมภาษณ์ว่า แม้จะเกิดวิกฤติแค่ไหนธุรกิจขายตรงก็ไม่ย่ำแย่มากเมื่อเทียบกับอาชีพอื่น เพราะเป็นธุรกิจที่ไม่ได้ขายสินค้าอย่างเดียว แต่ขายอาชีพอีกด้วย และตราบใดที่อยากให้คนอื่นทำงานให้เรางานขายตรงก็ยังคงอยู่ในตลาดต่อไป
วันนี้ไอยรา แพลนเน็ต ดำเนินธุรกิจสู่ปีที่ 9 เราเติบโตเกินความคาดหมาย ขณะเดียวกัน ต้องยอมรับว่า ในช่วงวิกฤติไวรัสร้ายระบาดโควิด-19 ทำให้ยอดขายบริษัทลดลงบ้าง ดังนั้นจึงเป็นสิ่งท้าทายที่ต้องผ่านไปให้ได้ ทำให้บริษัทได้มีการปรับตัวเองใหม่ เน้นการรุกตลาดภายใต้ 3 แนวคิด ได้แก่
1.Customer Centric การคำนึงถึงลูกค้าเป็นหลักเพื่อนำไปสู่การพัฒนาสินค้าบริการ สร้างความประทับใจ
2.Smart System ปรับระบบการทำงานทันสมัยสอดรับกับโลกที่เปลี่ยนไป
3.E-Commerce นำระบบไอทีมาใช้เพื่อยกระดับการทำงานให้เกิดประสิทธิ์ภาพสูงสุด รวมถึงอีกหนึ่งโปรเจคใหญ่ในอนาคตผ่านทุนงานวิจัยผลิตภัณฑ์สินค้าสุขภาพที่มีคุณค่า เชื่อมั่นว่าจะสร้างความฮือฮาอย่างมาก
“ช่วงวิกฤติโควิด-19 เราเน้นการทำงานผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น การประชุมทำงานร่วมกับสมาชิก แต่สะดุดบ้างเล็กน้อยเนื่องจากบางคนอาจไม่ถนัดใช้เครื่องมือ และเมื่อเริ่มสถานการณ์คลายล๊อกทุกคนออกตัวแรง บุกตลาดออฟไลน์มากขึ้น ขณะเดียวกันด้วยโลกที่เปลี่ยนไป ทุกวันนี้ยอดขายออนไลน์เติบโตมาก ส่วนหนึ่งมาจากการสร้างความน่าเชื่อถือ ผ่านคลิปให้ความรู้งานวิจัยงาดำของ ศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ ตอกย้ำความเชื่อมั่นเกิดขึ้นต่อผู้บริโภค
ขณะเดียวกันบริษัทก็ได้เตรียมทรานส์ฟอร์มปรับเปลี่ยนตัวเองใหม่รอบด้าน ทั้งส่วนของการจัดการเพื่อสร้างความประทับใจ การปรับเปลี่ยนระบบไอทีใหม่ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากเวลานี้การทำงาน การสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์เพิ่มมากขึ้นกว่า 80%” ดร.กัมปนาท กล่าวทิ้งท้าย