เอ็น-สแควร์ อีคอมเมิร์ซ ตั้งเป้าผู้นำตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เอ็น-สแควร์ อีคอมเมิร์ซ กรุ๊ป ผู้จัดจำหน่ายและผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซครบวงจร เติบโตอย่างมั่นคงและสร้างกำไรต่อเนื่องด้วยรายได้รวมในประเทศไทย 1,192 ล้านบาทในปี 2562 ตั้งแต่เริ่มธุรกิจเมื่อปี 2559 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี 125% (CAGR)

เอ็น-สแควร์เป็นเจ้าของ direct-to consumer แบรนด์ออนไลน์ชั้นนำ และเป็นผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการให้แก่ 130 แบรนด์ใน 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดการณ์รายได้เพิ่ม 2 เท่าภายในสิ้นปีนี้ ล่าสุด รับเงินลงทุนในรอบ Series A Funding จากนักลงทุนสถาบันชั้นนำ เพื่อเสริมแกร่งประสิทธิภาพของระบบและเทคโนโลยี รวมทั้ง ขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นายนัฐพล บุญภินนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น-สแควร์ อีคอมเมิร์ซ จำกัด กล่าวว่า ปี 63 เป็นปีที่ท้าทายและในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยโอกาสสำหรับธุรกิจออนไลน์ สำหรับโอกาสในเชิงบวก เรามองเห็นพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในด้านการซื้อของออนไลน์ทั่วไป เราเห็นว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไป เพราะจากข้อมูลของเราพบว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วค่าเฉลี่ยมูลค่าต่อการซื้อ 1 ครั้งเพิ่มขึ้น 23% จาก 669 บาทเป็น 826 บาท

นอกจากนี้ ลูกค้ายังซื้อสินค้าจำนวนมากขึ้นต่อครั้ง และมีความถี่ในการซื้อมากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ สินค้าที่ขายดีทางออฟไลน์อย่างสินค้าอุปโภคบริโภค (Groceries and FMCG) ถือเป็นกลุ่มสินค้าที่ผู้คนสั่งซื้อออนไลน์มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และมีการเติบโตที่แข็งแกร่งหากเทียบกับสินค้าประเภทอื่นๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและซื้อสินค้าทางออนไลน์มากขึ้นสำหรับความต้องการและความจำเป็นในชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังมีความต้องการมากขึ้นในด้านความรวดเร็ว การบริการที่ดี และค่าส่งราคาถูก จนทำให้ตลาดอี-คอมเมิร์ซ รวมไปถึง supply chain ทั้งหมดขยายตัวอย่างรวดเร็วในปีนี้

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก Statista ระบุว่ามูลค่าตลาดของอี-คอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถูกคาดการณ์ว่าจะเติบโตมากกว่า 402% จากปี 2562 – 2568 ซึ่งเราก็ได้รับโอกาสจากการเติบโตนี้ เห็นได้จากประเทศ มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเวียดนามที่เราเข้าไปดำเนินธุรกิจ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ประเทศฟิลิปปินส์ปีนี้เรามีรายได้เติบโตถึง 782% ส่วนมาเลเซียมีรายได้เติบโต 300% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1-3 ของปี 2562 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฟิลิปปินส์ที่เราพบความท้าทายอย่างมากในช่วงล็อกดาวน์โควิด-19 การขนส่งจำกัดเพียงแค่อาหารและสิ่งจำเป็นเท่านั้น แต่เราก็สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ด้วยการพลิกสถานการณ์มาขายอาหารแช่แข็งและไอศกรีมในลาซาด้าและช้อปปี้

“ในปีนี้ เราขายสินค้าแบรนด์ของเราคือ HomeHuk และ XtivePro ไปยังลูกค้ามากกว่า 1 ล้านรายผ่านทางช่องทางออนไลน์เพียงช่องทางเดียว เรามองเห็นโอกาสในการเติบโตของ direct-to consumer (D2C) แบรนด์ในภูมิภาคนี้ เราวางแผนลงทุนสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องให้กับทั้ง 2 แบรนด์นี้ให้เป็น D2C แบรนด์อันดับหนึ่งสำหรับกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ภายในบ้านและสินค้ากีฬาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจะเดินหน้าเพิ่มกลุ่มสินค้า รวมทั้งขยายฐานสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยคาดการณ์ว่าจะมีรายได้มากกว่า 1 พันล้านบาทในการขายสินค้า 2 แบรนด์นี้ภายในปี 63” นัฐพล กล่าว

ปกรณ์ เกษมธนกุล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายลงทุน บริษัท เคเคพี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร กล่าวว่า “จุดแข็งของเอ็น-สแควร์ อีคอมเมิร์ซ อยู่ที่ทีมงานที่มีศักยภาพประกอบกับพัฒนาการที่ได้ดำเนินมาอย่างไม่หยุดยั้ง จึงเชื่อแน่ว่าเอ็น-สแควร์ อีคอมเมิร์ซ จะเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่สำคัญในธุรกิจออนไลน์ของภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป เคเคพี แคปปิตอล มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสผลักดันการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของเอ็น-สแควร์ อีคอมเมิร์ซ ไปอีกระดับหนึ่ง”

อัคพันธุ์ อมาตยกุล กรรมการผู้จัดการ Siam Alpha Equity (SAE) กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมสนับสนุนบริษัทสตาร์ทอัพไทยที่มีการเติบโตที่แข็งแกร่ง มีระบบการบริหารจัดการที่ดีและมีบุคลากรที่มีความสามารถ เราเชื่อว่าตลาด e-commerce ในประเทศไทยนั้นยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก เช่นเดียวกันกับบริษัท เอ็น-สแควร์ อีคอมเมิร์ซ ซึ่ง SAE พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่คอยสนับสนุนและผลักดันให้บริษัทเติบโตต่อไปอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน”

ตลาดอีคอมเมิร์ซนัฐพล บุญภินนท์เอ็น-สแควร์ อีคอมเมิร์ซ
Comments (0)
Add Comment