ธ.ก.ส. พร้อมช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย โดยมอบหมายให้สาขาจัดถุงยังชีพช่วยเหลือแล้วกว่า 8,000 ถุง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมจัดสินเชื่อฉุกเฉิน การช่วยเหลือด้านภาระหนี้สินด้วยการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ และสินเชื่อฟื้นฟูหลังประสบภัย รองรับกรณีเกษตรกรต้องการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการประกอบอาชีพ การซ่อมแซมที่อยู่อาศัยและเครื่องมือทางการเกษตร วงเงินรวม 5,000 ล้านบาท
นายสุรชัย รัศมี รองผู้จัดการ รักษาการแทนผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้มีปริมาณฝนตกสะสม เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่มและลมกระโชกแรง สร้างความเสียหายกับผลผลิตทางการเกษตร ตลอดจนทรัพย์สินที่อยู่อาศัยของเกษตรกรลูกค้าและประชาชนทั่วไป ซึ่ง ธ.ก.ส. มีความห่วงใยในสวัสดิภาพของผู้ประสบภัย จึงได้กำหนดแนวทางการช่วยเหลือพร้อมมอบหมายให้ ธ.ก.ส. ในพื้นที่เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ดังนี้
และหลังจากสถานการณ์คลี่คลายลง จะเร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูหลังประสบภัย เช่น การมอบเงินเพื่อสมทบทุนสร้างบ้านหลังใหม่ การซ่อมแซมทรัพย์สินของใช้จำเป็น การซ่อมแซมเครื่องจักรการเกษตร และค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดที่เกี่ยวเนื่องในการให้ความช่วยเหลือกรณีฟื้นฟูหลังประสบภัย
สำหรับการให้ความช่วยเหลือด้านภาระหนี้สินที่มีอยู่กับ ธ.ก.ส. กรณีที่เกษตรกรได้รับความเสียหายด้านการผลิตและส่งผลกระทบต่อรายได้ ธ.ก.ส. จะพิจารณาขยายระยะเวลาชำระหนี้ออกไปเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนตามความหนักเบาของผู้ประสบภัยทุกราย และพิจารณาให้สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน บรรเทาความเดือดร้อนและป้องกันการก่อหนี้นอกระบบ ไม่เกินรายละ 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 ระยะ 6 เดือนแรก
และสินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิตสำหรับเกษตรกรลูกค้าผู้ประสบภัยธรรมชาติหรือภัยพิบัติ วงเงิน 5,000 ล้านบาท ตามความจำเป็นแต่ไม่เกินรายละ 500,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย MRR-2 (ปัจจุบัน MRR เท่ากับร้อยละ 6.50 ต่อปี) กำหนดชำระคืนไม่เกิน 15 ปี ทั้งนี้เพื่อให้เกษตรกรนำไปใช้เป็นค่าลงทุนในการสร้างหรือซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหาย หรือลงทุนซ่อมแซมโรงเรือนการเกษตร เครื่องมือ เครื่องจักรกลการเกษตรหรือฟื้นฟูการประกอบอาชีพการเกษตรที่ได้รับความเสียหาย