ธ.ก.ส. แนะช่องทางการจ่ายชำระฯ สินเชื่อฉุกเฉิน ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส และ A-Mobile เพิ่มเติมจากการชำระที่ ธ.ก.ส. สาขา เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้บริการและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ ตั้งแต่ 20 ธันวาคม เป็นต้นไป
นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ได้เปิดให้เกษตรกรและประชาชนทั่วไปสมัครขอสินเชื่อฉุกเฉิน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือนสำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 อันเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและเพิ่มสภาพคล่องให้แก่เกษตรกร ครอบครัวเกษตรกรและประชาชนทั่วไป ช่วยลดปัญหาและป้องกันการพึ่งพาหนี้นอกระบบที่มีภาระดอกเบี้ยสูง
โดยมีผู้ยื่นขอสินเชื่อฉุกเฉินผ่าน LINE Official BAAC Family ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน จนถึง 15 ธันวาคม 2563 ซึ่ง ธ.ก.ส.ได้อนุมัติสินเชื่อและจ่ายเงินแล้วไปแล้วทั้งสิ้น 873,081 ราย เป็นเงิน 8,675 ล้านบาท
สำหรับการชำระหนี้ในงวดแรก 30 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา ธนาคารกำหนดให้ชำระที่ ธ.ก.ส. สาขาเท่านั้น ซึ่งลูกค้าบางรายไม่ได้รับความสะดวก ธ.ก.ส. จึงได้พัฒนารูปแบบการชำระหนี้ โดยมีการแจ้งเตือนยอดหนี้ของลูกค้าทุกรายที่มีหนี้ถึงกำหนดชำระผ่านทาง SMS ทุกวันที่ 15 ของเดือน
โดยการชำระหนี้สามารถ ทำได้ 2 วิธี คือ ชำระหนี้เป็นเงินสด ซึ่งเมื่อลูกค้าได้รับ SMS แจ้งเตือน ตัวอย่างเช่น “เรียน คุณเกษตรกร สบายดี สินเชื่อฉุกเฉินโควิดของท่านจะครบกำหนดชำระวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ชำระได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขา รายละเอียดคลิก (แนบลิ้งก์ ใบแจ้งเตือนหนี้ โดยกรอก OTP และเลขบัตรประชาชนเพื่อเปิดเอกสาร) ขออภัยหากท่านชำระแล้ว”
ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถเช็คข้อมูลเอกสารใบแจ้งหนี้ดังกล่าวผ่านลิ้งก์ที่แนบ จากนั้นให้ลูกค้านำไปชำระหนี้ที่สาขาหรือช่องทางที่ธนาคารกำหนด กรณี หักบัญชีเงินฝาก เมื่อได้ SMS แจ้งเตือน ให้ลูกค้านำเงินเข้าบัญชีเงินฝาก เพื่อที่ระบบจะหักชำระหนี้ต่อไป
นอกจากชำระผ่าน ธ.ก.ส. สาขาทั่วประเทศแล้ว ธนาคารได้พัฒนาช่องทางการชำระเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อฉุกเฉินผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสใน 7-Eleven โดยลูกค้าสามารถแสดงเอกสาร ใบแจ้งเตือนที่ส่งมาพร้อม SMS ต่อพนักงานผู้ให้บริการ ค่าธรรมเนียม 10 บาท และช่องทางผ่านแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile โดยสแกน QR Code ที่อยู่ในใบแจ้งเตือน ระหว่างเวลา 00.30 ถึง 21.00 น. ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ซึ่งสามารถใช้บริการข้างต้นได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02 555 0555