ผู้อำนวยการ อพท. มอบทุกสำนัก ปรับแผนเน้นสร้างโครงการที่ช่วยเยียวยาชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด โควิด-19 รอบที่ 2 ล่าสุดเตรียมศึกษาโครงการพัฒนาช่องทางส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ของชุมชนในพื้นที่พิเศษในรูปแบบของ อี-คอมเมิร์ช นำเสนอสินค้าและเรื่องราวของชุมชนผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมวางแผนหลังจบโควิดผลักดันชุมชนผนึกผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่ นำเสนอขายแพคเกจที่พักและกิจกรรมการท่องเที่ยวโดยชุมชน
“การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบที่ 2 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชะลอการเดินทางท่องเที่ยว หลายพื้นที่ท่องเที่ยวประกาศปิดให้บริการเพื่อความปลอดภัย ซึ่งในพื้นที่พิเศษและในชุมชนที่ อพท. เข้าไปพัฒนาให้เป็แหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ก็จำเป็นต้องงดให้บริการนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน เพื่อความปลอดภัยของผู้ที่อยู่ในชุมชน”
ผุดโครงการอีคอมเมิร์ชขายสินค้าและเรื่องราวชุมชน
เบื้องต้นได้รับรายงานว่า สำนักท่องเที่ยวโดยชุมชน (สทช.) ได้ร่วมกับพื้นที่พิเศษ เตรียมพัฒนาช่องทางส่งเสริมการขยายผลิตภัณฑ์ของชุมชนในพื้นที่พิเศษในรูปแบบของ อี-คอมเมิร์ช ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ให้บริการชอปปิ้งออนไลน์ โดยมีความพิเศษที่ว่า นอกจากนำเสนอขายสินค้าของชุมชนซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่นักท่องเที่ยวซื้อฝากเป็นของที่ระลึก จะมีข้อความเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของชุมชน และที่มาที่ไปของผลิตภัณฑ์ (Storytelling) เพื่อให้กลุ่มลูกค้าได้อ่านและตัดสินใจเดินทางไปท่องเที่ยวยังชุมชนเหล่านั้นเมื่อสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายเข้าสู่ปกติ
“ยกตัวอย่างพื้นที่พิเศษเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง ซึ่งจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ชุมชนงดรับนักท่องเที่ยว ซึ่งในช่วงแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบแรก ชุมชนนำเสนอขายสินค้าออนไลน์ผ่านเพจของชุมชน เป็นสินค้าประเภทผลไม้แปรรูป ในครั้งนี้มีเพิ่มสินค้าใหม่ที่เป็นผลิตภัณฑ์ของชุมชน เช่น น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น บ้านตะเคียนเตี้ย กะปิ และอาหารทะเลแปรรูป จากชุมชนอื่นๆ เป็นต้น”
ผู้อำนวยการ อพท. กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้พัฒนาทักษะความรู้เรื่องการทำการตลาดออนไลน์ให้แก่ชุมชนในพื้นที่พิเศษของ อพท. ไประดับหนึ่งแล้วทำให้ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในครั้งแรก ชุมชนสามารถนำความรู้ที่ได้รับ มาปรับใช้ด้วยการนำเสนอขายสินค้าและผลิตภัณฑ์ของชุมชนผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเพจ หรือเฟสบุ๊ค ของชมรม/วิสาหกิจชุมชน ที่มีอยู่แล้ว ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในช่วงที่หยุดรับนักท่องเที่ยวได้ และในการระบาดรอบที่ 2 ครั้งนี้ ชุมชนเหล่านั้นซึ่งมีฐานลูกค้าอยู่แล้ว จึงสามารถสร้างรายได้จากการขายสินค้าชุมชนผ่านช่องทางออนไลน์ได้เช่นเดิม พร้อมกับเพิ่มสินค้าที่นำมาจัดจำหน่าย ให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ
ความรู้ออนไลน์สร้างรายได้เดือนละ 5 หมื่นบาท
และจากการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 รอบที่ 2 นี้ก็เช่นกัน ทางวิสาหกิจชุมชนฯ งดรับนักท่องเที่ยวเพราะในชุมชนเรามีแต่แม่บ้านและผู้สูงวัยซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง แต่ทุกคนก็ยังมีรายได้จากการขายผ้าทอผ่านช่องทางออนไลน์ของกลุ่มวิสาหกิจเรา ทำให้กลุ่มเรามีรายได้รวมต่อเดือนเฉลี่ย 4-5 หมื่นบาท และยังสามารถช่วยนำสินค้าจากชุมชนใกล้เคียงมาเสนอขายให้กับผู้ติดตามเพจได้อีกด้วย ได้แก่เครื่องจักรสาน และผลิตภัณฑ์ชุมชนอื่นๆ ทำให้ชุมชนใกล้เคียงได้มีรายได้เพิ่มไปด้วยกัน ซึ่งการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนตามรูปแบบของ อพท. คือทำท่องเที่ยวเป็นรายได้เสริมนั้น เมื่อเกิดวิกฤตเช่นนี้ชาวบ้านก็ยังคงมีอาชีพหลักคือเกษตรกร จึงทำให้สามารถดำรงค์ชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข