สรรค์สร้างโซลูชั่นอัจฉริยะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อสุขภาพ ความเป็นอยู่ อุตสาหกรรม และการขับเคลื่อน
“บ๊อชผนวกสมรรถนะของ AI เข้ากับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ ออกมาเป็น AIoT ที่ช่วยยกระดับประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน และรับมือกับไวรัสโคโรน่า” ไมเคิล โบลเล่ กรรมการบริหาร บ๊อช
- เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อสุขภาพและความปลอดภัย: โซลูชั่น AIoT ของบ๊อช ได้รับรางวัล CES® Innovation Award Honoree
- ซอฟต์แวร์ล้ำหน้าเหนือระดับ: ชุดตรวจไวรัสโคโรน่าแบบรวดเร็ว (rapid test) ของบ๊อช สามารถตรวจตัวอย่างที่เป็นบวกได้ภายในไม่ถึง 30 นาที
- Sustainable #LikeABosch: แคมเปญแนวคิดล่าสุดของบ๊อช แสดงให้เห็นว่าทุกคนมีบทบาทในการช่วยปกป้องสภาพภูมิอากาศได้
- มาตรการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศเริ่มเห็นผล: องค์กรด้านการเปิดเผยข้อมูลคาร์บอน (CDP) จัดบ๊อชอยู่ในกลุ่มเอ
- เทคโนโลยี AI ในอวกาศ: ความเชี่ยวชาญของบ๊อชในการช่วยหุ่นยนต์จิ๋วนำทางบนพื้นผิวดวงจันทร์
“เราผนึก AI เข้ากับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ ออกมาเป็น AIoT ที่ช่วยเราพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงานและรับมือกับไวรัสโคโรน่” ดร.ไมเคิล โบลเล่ กรรมการบริหารของบ๊อชกล่าว
“AIoT มีศักยภาพอีกมากมาย ซึ่งเราพร้อมปลดล็อกศักยภาพของเทคโนโลยีนี้ และจะเดินหน้าพัฒนาต่อเนื่องในอนาคต” ทั้งนี้ บ๊อชจะนำเสนอโซลูชั่นอัจฉริยะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสุขภาพ การใช้ชีวิต และเทคโนโลยีการขับเคลื่อนในงานแสดงเทคโนโลยี CES 2021 ที่จัดผ่านระบบออนไลน์
หนึ่งในนวัตกรรมของบ๊อชที่เปิดตัวในงานนี้ คือ เซ็นเซอร์ AI ที่เรียนรู้ได้เอง ครั้งแรกของโลก พร้อมรองรับการนำไปใช้ในอุปกรณ์แวร์เอเบิลและเฮียร์เอเบิล (อุปกรณ์ไอทีสำหรับใส่ในหู) เพื่อติดตามกิจกรรมฟิตเนส เนื่องจาก AI ทำงานด้วยตัวเซ็นเซอร์ (edge AI) จึงไม่จำเป็นต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในช่วงที่ออกกำลังกาย ส่งผลให้ประหยัดพลังงานและรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
นอกจากนี้ ยังมีโซลูชั่นซอฟต์แวร์สำหรับแพลตฟอร์มเปิดของกล้องวงจรปิด ผลงานของสตาร์ตอัพของบ๊อช คือ Security and Safety Things ที่สามารถตรวจจับได้ว่าจำนวนคนในร้านสอดคล้องกับเกณฑ์ปฏิบัติในการเฝ้าระวังไวรัสโคโรน่าหรือไม่ แพลตฟอร์มนี้ยังได้รับรางวัล 2021 CES® Innovation Award Honoree นับเป็นหนึ่งในสี่โซลูชั่นของบ๊อชที่โดดเด่นจนได้รับรางวัลอันทรงเกียรติในปีนี้
ตัวอย่างที่ดีที่สุดที่จะแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีของบ๊อชเข้ามาช่วยพัฒนาสุขภาพและคุณภาพชีวิตได้อย่างไร คงจะเป็นชุดตรวจไวรัสโคโรน่าแบบ PCR ซึ่งเป็นการตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัส โดยทำงานบนอุปกรณ์วิเคราะห์ที่เรียกว่า Vivalytic ชุดตรวจนี้ ให้ผลลัพธ์ออกมาได้รวดเร็วมากขึ้น ซึ่งห้องทดลอง สำนักงานแพทย์ บ้านพักคนชรา และโรงพยาบาลต่างๆ สามารถนำไปตรวจ 5 ตัวอย่างพร้อมกัน และได้ผลออกมาใน 39 นาที เป็น “เทคโนโลยีเพื่อชีวิต” อย่างแท้จริง
Sustainable #LikeABosch: บ๊อชยืนหนึ่งในการเป็นผู้นำแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ
งานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อเร็วๆ นี้ที่เยอรมนี ระบุว่า AIoT สามารถทำได้มากกว่าด้านสุขภาพ โดยนำไปใช้รับมือกับสภาพภูมิอากาศได้ด้วย โดยงานวิจัยพบว่า การใช้ดิจิทัลในหลายส่วนของระบบขับเคลื่อน การผลิต และเทคโนโลยีอาคาร จะช่วยให้ประเทศพัฒนาไปเกือบครึ่งทางของเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซตามข้อตกลงปารีส (ที่มา: Accenture)
“ก้าวต่อไปของบ๊อช คือ การจัดการกับการปล่อยมลพิษตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่การจัดซื้อไปจนถึงการใช้ผลิตภัณฑ์” ดร.โบลเล่ กล่าว เมื่อเป็นเช่นนั้น บ๊อชจึงก้าวขึ้นเป็นซัพพลายเออร์แห่งแรกในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เข้าร่วมโครงการ Science Based Targets โดยมีเป้าหมายที่เจาะจงและท้าทายยิ่ง คือ ภายในปีค.ศ. 2030 บ๊อชตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำให้ได้ร้อยละ 15 ความสำเร็จของบ๊อชในการจัดการกับภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั้น ได้รับการยกย่องจากหน่วยงานภายนอก องค์กรไม่หวังผลกำไรด้านการเปิดเผยข้อมูลคาร์บอน (CDP) ได้จัดบ๊อชอยู่ในระดับเอลิสต์เลยทีเดียว
“ในปีค.ศ. 2021 เราจะเดินหน้าต่อไปในการทำให้เทคโนโลยีมีความยั่งยืนมากขึ้น ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคนั้น คนจะใช้เวลาที่บ้านมากขึ้น จะได้ประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยีอันชาญฉลาด เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืน รวมทั้งมีส่วนช่วยแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศด้วย ขณะเดียวกัน การแพร่ระบาดของโรคได้เร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมดิจิทัลเร็วขึ้น ซึ่งบ๊อชได้ใช้นวัตกรรมเข้ามาช่วยให้องค์กรสามารถก้างข้ามอุปสรรค และสร้างโอกาสใหม่ๆ ในปีค.ศ. 2021 ด้วย” โจเซฟ ฮง กรรมการผู้จัดการ บ๊อช ประเทศไทย กล่าว
บ๊อชได้แบ่งปันประสบการณ์การบุกเบิกเรื่องรับมือกับสภาพการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศกับองค์กรต่างๆ ผ่านกิจการที่ปรึกษา Bosch Climate Solutions ที่ก่อตั้งในปีที่ผ่านมา อีกทั้งมีกิจการสตาร์ตอัพในเครือที่ได้ทำตลาดโซลูชั่นหลายตัว ทั้งแพลตฟอร์มพลังงานบนคลาวด์ ที่ใช้อัลกอริทึมอัจฉริยะช่วยลดการใช้พลังงานของเครื่องจักร ส่งผลให้กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้น บ๊อชได้นำแพลตฟอร์มนี้ไปใช้กับที่ทำการมากกว่า 100 แห่งแล้ว จึงเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้มาก และเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้บริษัทบรรลุ เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนได้
ดิจิทัลและความยั่งยืน คือหนทางแห่งอนาคต: ก้าวสู่แนวหน้าด้วย AI ในภาคอุตสาหกรรม
นอกจากจะยกระดับประสิทธิภาพการใช้พลังงานในภาคการผลิตแล้ว บ๊อชยังวางระบบเพิ่มการเชื่อมต่อเข้าไปในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอาคารและการขับเคลื่อน ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคประหยัดพลังงานได้ หนึ่งในผลิตภัณฑ์เหล่านั้น คือ เครื่องมือจัดการพลังงาน ที่บริษัทแนะนำให้ใช้ในบ้าน ที่เมื่อใช้ร่วมกับปั๊มความร้อนและระบบพลังงานแสงอาทิตย์แล้ว อุปกรณ์นี้จะสามารถลดการใช้พลังงานได้ถึงร้อยละ 60 ในด้านการขับเคลื่อน คนขับรถไฟฟ้าก็จะได้ประโยชน์จากบริการ เช่น แบตเตอรี่ระบบคลาวด์ (Battery in the Cloud) ที่ใช้ซอฟต์แวร์อัจฉริยะเข้ามาวิเคราะห์และลดการเสื่อมของแบตเตอรี่ได้ถึงร้อยละ 20
บ๊อชจึงจัดตั้งสายงานใหม่ขึ้นมา คือ Cross-Domain Computing Systems โดยมีพนักงาน 17,000 คนเริ่มทำงานในสายงานนี้ตั้งแต่ต้นปี เป็นการรวมความเชี่ยวชาญทั้งด้านสถาปัตยกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ สำหรับคอมพิวเตอร์ยานยนต์ เซ็นเซอร์ และหน่วยควบคุมระบบยานยนต์ต่างๆ เข้าด้วยกัน ช่วยลดความซับซ้อนในการพัฒนายานยนต์ และพัฒนาฟังก์ชั่นใหม่ๆ ได้เร็วขึ้น
นำความเชี่ยวชาญเสริมศักยภาพการสำรวจดวงจันทร์: ตั้งเป้าสูงกับเทคโนโลยี AI ของบ๊อช
วิทยาการที่ก้าวล้ำจากท้องถนนไปสู่ห้วงอวกาศ: ในงาน CES ปีที่แล้ว มีการเปิดตัวระบบเซ็นเซอร์ SoundSee ที่ทำงานด้วย AI สถานีอวกาศนานาชาติ มาปีนี้ บ๊อชมองไกลไปถึงดวงจันทร์ โดยได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ Tipping Point ขององค์การนาซ่า ทำงานร่วมกับหลายองค์กร ทั้ง Astrobotic และ WiBotic รวมถึง University of Washington ในการวิจัยและพัฒนาระบบนำทางอัจฉริยะและระบบชาร์จพลังงานของหุ่นยนต์จิ๋วที่ปฏิบัติภารกิจบนดวงจันทร์
นักวิจัยของบ๊อชที่ร่วมทำงานโครงการนี้ในเมืองพิตส์เบิร์กและซิลิคอนวัลเล่ย์ ได้นำความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI และโซลูชั่นการเชื่อมต่อไร้สาย ร่วมพัฒนานวัตกรรมกับทีมงาน ผลที่ได้กลับมาจะเป็นการต่อยอดศักยภาพให้แก่โซลูชั่น AIoT ของบ๊อชบนพื้นผิวโลก ทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นว่า AIoT มีศักยภาพเพียงใด และแสดงให้เห็นด้วยว่าเทคโนโลยีนี้ จะมีบทบาทหลักในการสร้างความยั่งยืนได้อย่างไร
“ทุกวันนี้ มีเพียงบริษัทที่มุ่งสู่ความยั่งยืนเท่านั้นที่จะสามารถเปิดศักยภาพอันมหาศาลของ AIoT ออกมาใช้ ซึ่งจะกรุยทางไปสู่ความสำเร็จในวันพรุ่งนี้ได้” ดร.โบลเล่ กล่าว
- ชมบูทผ่านระบบออนไลน์: วันที่ 12 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2564 ทางเว็บไซต์ ces.tech
- ติดตามไฮไลต์ต่างๆ ของบ๊อชในงาน CES 2021 ได้ทางทวิตเตอร์: #BoschCES