“Drive ชีวิต คิดแบบโปรเม” โปรกอล์ฟหญิงไทยระดับโลก กับความสำเร็จที่ออกแบบได้ 

หลายคนรู้จัก โปรเม – เอรียา จุฑานุกาล ในฐานะนักกอล์ฟหญิงไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก เธอเป็นโปรกอล์ฟหญิงที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว สามารถก้าวสู่การเป็นโปรกอล์ฟหญิงไทยอันดับ 1 ของโลกด้วยวัยเพียง 21 ปี บนเส้นทางที่ไม่ได้สวยหรู แต่ต้องฟันฝ่าอุปสรรค และความท้าทายมากมาย การ Drive กอล์ฟ  และ Drive ชีวิต อย่างลงตัว คือเคล็ดลับความสำเร็จ ที่เชื่อว่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่มีเป้าหมาย

ความเชื่อมั่นสำคัญต่อทุกความฝัน

จุดเริ่มต้นที่พา โปรเม – เอรียา จุฑานุกาล ตอนเป็นเด็กหญิงในวัย 5 ขวบมาสู่เส้นทางการเล่นกอล์ฟเกิดจากความฝันของคุณพ่อที่ต้องการให้เธอมีชื่อเสียงระดับโลก โดยวางเป้าหมายว่าอยากให้ติด Top 10 ของโลกให้ได้ในชีวิต ต่างจากความฝันและเป้าหมายของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องการเพียงใช้กีฬากอล์ฟเป็นอาชีพสร้างรายได้เพื่อดูแลครอบครัวเท่านั้น แต่ทั้งสองเป้าหมายก็สามารถไปในทิศทางเดียวกันได้ การจัดการกับเป้าหมายและความฝันที่แตกต่างสำหรับเด็ก ๆ และพ่อ-แม่ อย่างสมดุลสำหรับทุกครอบครัวในมุมมองของโปรเม คือการที่พ่อ-แม่ สนับสนุนความฝันและเชื่อมั่นในตัวลูก เช่นเดียวกับที่พ่อเชื่อมั่นในตัวเธอ

“อยากให้คุณพ่อคุณแม่ทุกคน Support ความฝันของลูก และอีกอย่างที่มากกว่าคือความเชื่อมั่น อย่างที่คุณพ่อคุณแม่ของเมที่เชื่อในตัวเมมากว่าที่เมเชื่อตัวเองซะอีก แล้วเวลามีคนที่เขารักเราและเรารักเขามาก ๆ เขาคือที่สุดในชีวิตเรา เชื่อมากกว่าที่เราเชื่อตัวเอง เด็กคนนั้นจะมีพลังทำอะไรได้อีกเยอะมาก”

โปรเมบอกให้เราเห็นถึงความสำคัญของความฝันของเด็ก ๆ และแรงผลักดันอันยิ่งใหญ่ที่สามารถทำให้เด็กคนหนึ่งก้าวสู่เป้าหมายและประสบความสำเร็จได้ในแบบของตนเอง

 จุดเปลี่ยนชีวิตกับ “เป้าหมาย” ที่ไม่เหมือนเดิม

ด้วยความมุ่งมั่นและจริงจังทำให้โปรเมพัฒนาฝีมือการเล่นกอล์ฟดีขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงขั้นสูงสุด คือการก้าวสู่การเป็นโปรกอล์ฟหญิงไทยอันดับ 1 ของโลกในปี 2017 แม้เป็นเป้าหมายที่ประสบความสำเร็จ แต่กลายเป็นว่าเป็นช่วงชีวิตที่ไม่มีความสุข เพราะต้องเจอกับแรงกดดันมากมายถึงขั้นทำให้ตกอันดับลงมาภายในเวลาเพียงสองสัปดาห์

“ตอนนั้นเมรู้สึกว่าคำว่ามือ 1 ของโลกไม่มีค่ากับเมเลย เมไม่ชอบเวลาที่ออกไปตีกอล์ฟแล้วตีไม่ดีจะมีคนมาถามตลอดว่าเกิดอะไรขึ้น ในขณะที่เมคิดแค่ว่าวันพรุ่งนี้จะทำอะไรให้มันดีขึ้น เมคิดอย่างแรกเลยคือเมเป็นมนุษย์ และมนุษย์เกิดขึ้นมาคู่กับความผิดพลาด เพราะฉะนั้นเมผิดพลาดได้ เลยเป็นช่วงที่เมรู้สึกไม่มีความสุขกับการตีกอล์ฟ”

จนมาถึงจุดเปลี่ยนของชีวิตกับความหมายของคำว่า “เป้าหมาย” ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อโปรเมได้กลับไปหาเด็ก ๆ ในต่างจังหวัดที่ตัวเองเคยสนับสนุนเรื่องการเรียน และมีความตั้งใจจะตั้งมูลนิธิของตนเอง เพื่อสร้างบ้านให้กับเด็กที่ขาดแคลน โดยมีเป้าหมายว่า หากได้กลับมาครองแชมป์ที่ 1 ของโลกอีกครั้ง จนในที่สุดก็พัฒนาฝีมือจนกลับมาเป็นที่ 1 ของโลกอีกครั้งในช่วงกลางปี 2018

“การได้กลับมาติดอันดับ 1 ของโลกในครั้งที่สองให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากครั้งแรก เพราะเมรู้สึกว่ามีความสุข คำว่ามือ 1 ของโลกครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าเป็นมือหนึ่งของโลก แต่มันหมายความว่าเมจะไปช่วยเด็กได้อีกเยอะเลย รู้สึกภูมิใจที่เมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมาจริง ๆ คำว่าเป้าหมายมันไม่พอ แต่คุณค่าของเป้าหมายต้องสำคัญมากพอสำหรับเรา”

บนเส้นทางชีวิตที่ไม่ได้มีสูตรสำเร็จ แน่นอนว่าต้องเจอกับปัญหาอยู่เสมอ วิธีคิดแบบโปรเมคือการมองปัญหาว่าเป็นแบบทดสอบให้ชีวิตเข้มแข็งขึ้น และจัดการกับความคาดหวังของตัวเองให้ได้

“เมรู้สึกว่าความหวังเป็นสิ่งที่ดี แต่ทุก ๆ ครั้งที่เมลงไปเล่นแล้วหวังถึง Outcome มันไม่เคยทำให้เมตีกอล์ฟดีขึ้นหรือมีความสุขเลย แต่วันไหนที่เม Focus กับตัวเองแล้วมาหวังว่าวันนี้จะทำอะไรให้ภูมิใจในตัวเอง และอยู่กับมันจริง ๆ ผลที่มันตามมามักจะเกินกว่าที่เราหวังเสมอ”

 ล้มได้ก็ลุกได้ สร้างใหม่จากสิ่งที่มี

หลายคนอาจมองว่าการเป็นโปรกอล์ฟที่มีชื่อเสียงระดับโลกต้องมีภาพลักษณ์ของความแข็งแกร่งอยู่เสมอ แต่ในความเป็นจริง โปรเมเองก็ไม่ต่างจากคนทั่วไปที่ต้องพบเจออุปสรรคและความผิดหวังในบางครั้ง แต่สิ่งที่ทำให้เธอก้าวผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ คือการมีทัศนคติในการใช้ชีวิตที่ดี เข้าใจธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลง และการให้กำลังใจตัวเองก็เป็นสิ่งสำคัญ

“ในช่วงที่เชื่อว่าตัวเองทำไม่ได้หรือไม่เก่งเหมือนเมื่อก่อน จะบอกกับตัวเองว่าคนที่เคยประสบความสำเร็จต้องเริ่มจากศูนย์ หากวันนี้เราต้องเริ่มจากศูนย์ใหม่ก็ไม่เห็นเป็นไร ที่แย่แล้วคือการเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น แต่การเปรียบเทียบตัวเองกับตัวเองเป็นสิ่งที่แย่เหมือนกัน ดังนั้น เราควรอยู่ตรงนี้และสร้างจากสิ่งที่เรามี”

โปรเมยังย้ำอีกว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือกำลังใจจากครอบครัว และการมองชีวิตอย่างมีเหตุผลว่าทุกอย่างมีขึ้นและลงเสมอ แต่เมื่อผิดพลาดจนล้มลงแล้ว ก็ต้องลุกขึ้นมายืนให้ได้ด้วยตัวของเราเองอย่างภาคภูมิใจ และเตรียมพร้อมสำหรับก้าวต่อไป

“ทุก ๆ ครั้ง ไม่ว่าจะรู้สึกแย่แค่ไหน เมจะโอเคกับมัน เพราะเมรู้สึกว่าพอเรามองเหตุและผลของชีวิตจริง ๆ เราจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องปกติ วันนี้มีความสุข พรุ่งนี้ก็อาจจะทุกข์ มันคือเรื่องปกติ เพราะฉะนั้น เมจะบอกกับตัวเองว่าก็สู้ต่อไป ทำอะไรที่เราต้องทำและ Enjoy กับทุก ๆ อย่างแค่นั้นเอง”

สำหรับรายการ LPGA ฤดูกาล 2021 ที่จะเริ่มต้นในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ โปรเม – เอรียา จุฑานุกาล บอกถึงเป้าหมายว่า อยากมีความสุขจากการเล่นกอล์ฟที่มีความท้าทายใหม่ ๆ และยังได้ฝากถึงทุกคนที่มีความฝัน

“ถ้าเป้าหมายมันสำคัญ แค่ไม่หยุดทำ ไม่หยุดพยายาม และอย่าหยุดที่จะเชื่อในตัวเอง เชื่อว่าเราทำได้ เพราะสุดท้ายแล้ว ไม่ว่าใครจะเชื่อในตัวเรามากแค่ไหน ก็ไม่สำคัญเท่ากับเราเชื่อมั่นในตัวเอง”

 

โปรเม – เอรียา จุฑานุกาล

การได้ทำในสิ่งที่เรารักเป็นความโชคดี แต่ที่เหนือไปกว่านั้น คือการได้รักในสิ่งที่เราทำ โปรเมคือตัวอย่างของคนที่ประสบความสำเร็จและมีความสุขกับเส้นทางที่ตัวเองเลือก และไม่หยุดตั้งคำถามกับตัวเองว่าจะทำทุกอย่างให้ดีขึ้นได้อย่างไร เพื่อเป้าหมายมีค่ากับเราจริง ๆ