โรโบเวลธ์ กรุ๊ป ผู้นำในการให้บริการด้านการลงทุนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล หรือ Wealth Tech ผุดโปรเจกต์เพื่อสังคม ผ่าน odini application ภายใต้คอนเซปต์ “พี่ได้ออม น้องได้เรียน” ที่นอกจากจะช่วยให้ลูกค้าได้ออมเงินผ่านการลงทุนในกองทุนรวมแล้ว ยังได้มีส่วนร่วมในการมอบโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กที่ขาดโอกาสในประเทศไทยด้วย
เหตุผลสำคัญที่ทำให้คนไทยมีรายได้เฉลี่ยต่อคนเพียง 20,000 บาทต่อเดือนนั้น (อ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ) มาจากการที่เขาเหล่านั้นไม่มีโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาในช่วงมัธยม ดังนั้นโอกาสในการเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่การงานที่ดี มีรายได้ที่มั่นคง มีเงินเก็บ ก็จะน้อยกว่าคนที่มีวุฒิการศึกษาดี ๆ ทั่วไป จากสถิติของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ประเทศไทยมีนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ประมาณ 2 ล้านคน หรือ 30% จากจำนวนนักเรียนทั้งหมดในประเทศไทย
นายชลเดช เผยต่อว่า “พี่ได้ออม น้องได้เรียน” จะถูกแบ่งเป็น 2 เฟสด้วยกัน เฟสแรกเริ่มตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 เม.ย. 2564 โดย odini จะมอบทุนการศึกษาผ่านมูลนิธิยุวพัฒน์จำนวน 0.20% ของยอดเงินที่ทุกคนลงทุนผ่าน odini (คำนวณจากเงินลงทุนสุทธิของหน่วยลงทุนที่ได้รับการจัดสรร) และเงินส่วนนี้ไม่ได้หักจากเงินของผู้ลงทุน แต่ odini จะเป็นผู้รับผิดชอบในการสมทบเงินตามสัดส่วนดังกล่าว จากนั้น มูลนิธิยุวพัฒน์จะนำเงินไปจัดสรรและมอบเป็นทุนการศึกษาให้แก่เด็กขาดโอกาส ระดับชั้นมัธยมศึกษาคนละ 7,000 บาทต่อปี และระดับชั้น ปวช. คนละ 14,000 บาทต่อปี โดยการคัดเลือกนักเรียนทุนจะคัดจากฐานะของครอบครัวที่มีความยากจนเป็นหลัก ซึ่งจะช่วยให้เด็กเหล่านี้ได้เรียนต่อจนจบชั้น ม.6 หรือ ปวช.3
“ปี 64 ได้ตั้งเป้ามอบเงินทุนการศึกษารวม 3,000,000 บาท เพื่อสร้างโอกาสด้านการศึกษาให้กับเยาวชนในประเทศไทย ให้เด็กเหล่านี้ได้เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ เติบโตมามีหน้าที่การงานและมีรายได้ที่ดี จนสามารถออมเงินและเข้าถึงการลงทุนได้ ถือเป็นการลดความเหลื่อมล้ำอย่างเป็นระบบ โดยเริ่มต้นจากลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา เพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ จนท้ายที่สุดปัญหาที่เกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำด้านความมั่งคั่งจะถูกแก้ไขได้อย่างยั่งยืน” นายชลเดช ปิดท้าย