“MOTIF” โชว์รูมนำเข้าเฟอร์นิเจอร์ระดับลักซ์ชัวรี่จากทั่วโลก ยืนหนึ่งในเรื่องคุณภาพสินค้า Hing-End มายาวนานถึง 17 ปี บนพื้นที่ 900 กว่าตารางเมตร ณ ชั้น 4 เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ พร้อมตั้งเป้าดันยอดให้โตต่อเนื่องในปี 2564 แง้มหมัดเด็ดฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจโควิด 19 ในปี 2564 ดึงมืออาชีพร่วมเติมความแข็งแกร่งปรับกลยุทธการขายทางด้านออนไลน์ เพื่อให้ตอบโจทย์ให้ตรงกับพฤติกรรมการช้อปของผู้บริโภค เสริมทัพความลักซ์ชัวรี่ด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์ “Dutch Design”
การเติบโตของ MOTIF มีอย่างต่อเนื่อง ที่เห็นได้ชัดในปี 2559 ยอดเราโตขึ้นถึง 30% ต่อมาปี 2560 ก็ขึ้นอีก 30% ซึ่งยอดก็ถือว่าขึ้นเรื่อยๆ และแม้ว่าในปี 2561-2562 ร้านสาขาที่เอราวัณจะปิดตัวลง เพราะหมดสัญญา ร้านหายไป 1 สาขาแต่ยอดเราก็ยังโตขึ้นถึง 10% ส่วนในปี 2562 ต่อเนื่อง 2563 ภาพรวมโตขึ้น 10-15% แต่อย่างที่ทราบกันว่าเป็นปีที่เริ่มมีสถานการณ์โควิด19 เลยทำให้เหมือนเวลาหายไป 2 เดือน ซึ่งก็ถือว่ายังอยู่ในโหมดที่โตเราก็โอเค
สำหรับในปี 2564 เราตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 20-30% เพราะจากประสบการณ์การบริหารงานอย่างมืออาชีพ เรามีการตั้งรับที่ดีขึ้นลูกค้าเองก็มีการตั้งรับที่ดีขึ้น ทำให้เกิดการปรับตัวในการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ทั้งผู้ซื้อผู้ขาย
ปัจจัยในการเติบโตอย่างต่อเนื่องของ MOTIF ก็เกิดจากการจัดการ Stock Management ซึ่งถือเป็นคีย์ใหญ่ที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ กลยุทธการจัดการนี้เกิดจากถ้าเรามีของแบบที่ลูกค้าต้องการในจำนวนที่เหมาะสม ก็สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ในเรื่องของเวลาและไม่มี stock คงค้างมากเกินไป ยกตัวอย่างก่อนจะเกิดสถานการณ์โควิด19 ต้องใช้เวลารอการสั่งถึง 3 เดือน ต่อมากลายเป็น 4 เดือน พอเจอโควิด19 กลายเป็น 6 เดือน การรอสินค้าสั่งใหม่ยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ของเริ่มช้าเราก็เริ่มปรับเรื่อง Stock Management มาเรื่อยๆ
ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์โฮมออฟฟิศก็ยังคงเดินหน้าตอบโจทย์ของลูกค้าอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเราขยายไลน์คอลเลคชั่นในส่วนของโฮมออฟฟิศให้มีความหลากหลายมากขึ้น เนื่องจากเทรนด์ work from home ยังคงมาแรงมากในปี 2021 นี้และมีแนวโน้มที่จะโตขึ้นเรื่อยๆ ในอีก 5 ปีข้างหน้า
ไม่เพียงแต่นำเข้า “Dutch Design” มาเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้า นายอัครรัฐ เผยว่า ปีนี้ MOTIF ยังจัดหนักเสริมทัพการตลาดด้านออนไลน์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ช้อปสะดวกยิ่งขึ้น “รูปแบบการขายทางออนไลน์ เราจะรุกมากขึ้น ตอนนี้เรามีทีม Consult มาคอยดูแลเรื่อง Social Media โดยเฉพาะ ก็ต้องยอมรับว่า Social Media เป็นการทำตลาดในสื่อออนไลน์ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น Instagram, Facebook, Youtube, Line@, หรือแม้แต่ Pinterest เราก็ค่อยๆ ปรับไปทั้งหมด
นอกจากนี้เรายังมีการโปรโมท home accessory ชิ้นเล็กมากขึ้น ประกอบกับในช่วงก่อนโควิด 19 เราได้เซ็นสัญญากับเมืองนอกไปแล้ว ว่าเราจะเปิดตัวคอลเลคชั่นของ Missoni Home และ Versace Home ซึ่งของก็มาในช่วงโควิด19 พอดี เราจึงตัดสินใจเปิดตัวผ่านช่องทางออนไลน์ ก็ได้รับความสนใจลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อเยอะ หรือแม้กระทั้งว่า ลูกค้าบางท่านมีแก๊งค์ก๊วนที่ซื้อของกับทางร้านเราอยู่แล้ว พอจะซื้อของให้เพื่อน ก็จะมาบอกทางเราว่าเพื่อนคนนั้นซื้อของอะไรที่ร้านเราไปบ้าง แล้วให้เราเป็นตัวแทนเลือกของที่เข้ากับชุดที่ซื้อไปแล้วพร้อมส่งให้ก็มี นับเป็นความสำเร็จหนึ่งของการทำ Branding นั่นคือเราอยากให้ลูกค้าภูมิใจที่ใช้ของเรา ซื้อของร้าน MOTIF แล้วบอกต่อเพื่อนว่าซื้อของร้าน MOTIF อย่างภาคภูมิใจ”
ที่สำคัญในปีนี้ MOTIF ยังต่อยอดความสำเร็จ ด้วยการสร้างปรากฎการณ์การรับรู้ใหม่ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเนรมิตมุมต่างๆ ภายในโชว์รูมให้มีกลุ่มสินค้า home accessory อยู่ในทุกมุม พร้อมจัดหมวดหมู่สินค้าให้เลือกง่ายขึ้น เพื่อประหยัดเวลาช้อป รวมถึงใส่ใจในมาตรการรักษาความสะอาดตลอดเวลา ไม่ว่าลูกค้าจะมาเลือกซื้อสินค้าเพื่อนำไปตกแต่งบ้าน หรือ มอบเป็นของขวัญ มองไปมุมไหนก็คงประทับใจ และอยากจับจองไปหมด เพราะ MOTIF ตอบโจทย์ครบจบความสุขในที่เดียว