เอสซีจีลุยลงทุน-สร้างเครือข่ายสตาร์ทอัพอย่างต่อเนื่อง ส่ง “ประกิจ วรวัฒนนท์” ผู้บริหารใหม่ AddVentures เผยภารกิจเร่งต่อยอดเทคโนโลยี นำ Big Data สร้างโอกาสธุรกิจใหม่ ดันเป้าลงทุนรวม 3 พันล้าน ภายในระยะเวลา 5 ปี ยิงตรงความต้องการผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป จากผลกระทบโควิด-19
นายประกิจ วรวัฒนนนท์ กรรมการผู้จัดการ AddVentures หน่วยงานด้านการลงทุนในสตาร์ทอัพ รูปแบบ Corporate Venture Capital (CVC) เปิดเผยถึงภารกิจหลังเข้ารับตำแหน่งใหม่ในปี 2564 ว่า จะเร่งเดินหน้าลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีน และอินเดีย เพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ เสริมสร้างวิสัยทัศน์เอสซีจี กับการเป็นองค์กรนวัตกรรม ที่ไม่หยุดนิ่งในการรับมือการเปลี่ยนแปลงของโลกที่มากระทบธุรกิจ
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว ถือเป็นภารกิจต่อเนื่อง จากปีที่ผ่านมา ที่ AddVentures ได้เข้าไปลงทุนในกองทุน Venture Capital อีก 1 กองทุน และในสตาร์ทอัพทั้งสิ้น 4 บริษัท ซึ่งพิจารณาจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเอสซีจี และมีการเติบโตที่ดีแม้ในช่วงโควิด-19 อาทิ E-Commerce Platform อย่าง Bizongo เป็นแพลตฟอร์มสำหรับสินค้าบรรจุภัณฑ์ในอินเดีย ที่มีลูกค้า corporate รายใหญ่อย่าง Amazon, Ecom Express, Flipkart เป็นต้น
นอกจากนั้น ยังลงทุนในอินโดนีเซีย 3 บริษัท ได้แก่ Printerous ในธุรกิจให้บริการ Online Packaging Platform ขณะที่ Janio ให้บริการขนส่งสินค้าในรูปแบบ Cross-Border E-commerce Logistics อย่างครบวงจร รวมถึง Tanihub ที่เป็นแพลตฟอร์มรวมวัตถุดิบการเกษตรและอาหาร
เกือบ 4 ปี หลังจากก่อตั้ง AddVentures เดินหน้าขยายพอร์ตลงทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันได้ลงทุนโดยตรงและผ่าน Venture Capital ใน 8 ประเทศ แบ่งเป็นการลงทุนตรงในสตาร์ทอัพ 16 ราย และลงทุนในกองทุนไปแล้ว 5 กองทุน โดยมีสตาร์ทอัพที่อยู่ระหว่างการพูดคุยเพื่อจัดตั้ง Joint Venture ด้วยกันอีก 6 โครงการ
โดยแนวทางด้านการลงทุนยังคงเน้น 3 verticals หลัก คือ Industrial, Enterprise และ B2B เพื่อนำ business model ใหม่ๆ มาขยายในประเทศต่างๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เอสซีจีมีเครือข่ายลูกค้าและ partner เพื่อสร้างโอกาสในการทำธุรกิจใหม่ให้กับเอสซีจีมากขึ้น
สำหรับเทรนด์การลงทุนสตาร์ทอัพในอนาคต หลังจากวิกฤติโควิด-19 เอสซีจีมีความมุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ “ตรงจุด” และ “รวดเร็ว” ยิ่งขึ้น ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่ AddVentures ให้ความสำคัญก็คือการนำเทคโนโลยี ฐานข้อมูลขนาดใหญ่มาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาธุรกิจ รวมถึงการเป็นเสมือนประตูที่เปิดต้อนรับเทคโนโลยีจากสตาร์ทอัพภายนอกเข้ามาเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรผ่านการลงทุนหรือทำงานร่วมกันในลักษณะการเป็น Partner
สำหรับ นายประกิจ วรวัฒนนนท์ ก่อนรับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ AddVentures ผ่านการทำงานในหลากหลายหน่วยธุรกิจของเอสซีจี ทั้ง Cement – Building Materials, Chemicals, Packaging และLogistics มีประสบการณ์ทำงานในตำแหน่งที่หลากหลาย เช่น Business Strategy, New Business Development, Data Analytics รวมถึงการเป็น Head of Deep Tech innovation และ Zero to One ซึ่งเป็น Startup Studio ในเอสซีจี
“การได้มาทำงานที่ AddVentures เป็นความท้าทาย ที่จะได้นำเอสซีจีไปสู่การเป็นองค์กร Digital อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของการนำเครื่องมือหรือเทคโนโลยีมาใช้อย่างเดียว แต่รวมถึงเรื่องของ Mindset (กระบวนการคิด ทัศนคติ) พฤติกรรมการทำงานของพนักงาน และยังเป็นโอกาสในการนำประสบการณ์ที่เคยเก็บเกี่ยวจากการทำงานทั้งหมดมาใช้ มาประติดประต่อกันเป็นชิ้น เหมือนการนำจิกซอว์มาต่อเข้าด้วยกันเป็นภาพใหญ่” นายประกิจ กล่าวทิ้งท้าย