- ภาพรวมกลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าซัมซุงยังคงแข็งแกร่งและประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ด้วยการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคพร้อมปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อตอบสนองอย่างทันท่วงที โดยชูแนวคิด Customer Centric พัฒนาสินค้าตอบโจทย์ความต้องการ-สอดรับไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว
- กลยุทธ์สื่อสารการตลาดแบบส่งตรงเฉพาะกลุ่ม เจาะตลาดกลุ่มมิลเลนเนียลที่ต้องการสิ่งสะท้อนตัวตนพร้อมเผยให้เห็นความเป็นตัวของตัวเองผ่านการ Customization หรือตอบโจทย์พวกเขาแบบ Personalize
- เปิดตัว BESPOKE ซับแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าไลฟ์สไตล์คอนเซปต์ใหม่ ตอบโจทย์ชาวมิลเลนเนียลที่กำลังมองหาสินค้าที่มีสไตล์ไม่เหมือนใคร ด้วยดีไซน์ปรับเปลี่ยนได้หลายสี หลายขนาด หลายสไตล์เพื่อให้เข้ากับทุกพื้นที่ภายในบ้าน
- ตลาดตู้เย็นในประเทศไทยปี 2020 เติบโตจากปีก่อนหน้าถึง 12% พร้อมเผยให้เห็นเทรนด์ของผู้บริโภคที่มีความต้องการตู้เย็นไซส์ใหญ่กว่าเดิมเนื่องจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเปลี่ยนมาอยู่บ้านมากขึ้น และคาดการณ์ว่าในปีนี้จะยังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ซัมซุง เผยความสำเร็จของการเป็นผู้นำกลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านปี 2020 ยังคงเติบโตได้เป็นที่น่าพอใจ แม้ต้องเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาดแต่ก็สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วและพร้อมจะเป็นผู้กำหนดทิศทางในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับพรีเมียม เห็นได้จากการครองตำแหน่งอันดับ 1 ตลาดทีวีระดับโลกต่อเนื่องยาวนานถึง 15 ปี และการก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำอันดับ 1 ของตลาดตู้เย็นประเทศไทยด้วยยอดขายเติบโตสูงสุด พร้อมกันนี้ยังได้ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ภายใต้แนวคิด Customer Centric เจาะกลุ่ม “มิลเลนเนียล” ด้วยผลิตภัณฑ์สินค้าไลฟ์สไตล์ภายใต้การเปิดตัวซับแบรนด์ BESPOKE เพื่อนำเสนอมิติใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการได้แบบ Personalize
นางสาวเจนนิเฟอร์ ซอง ประธานธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่ผ่านนั้นส่งผลต่อทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก ด้วยการเปลี่ยนวิถีของผู้บริโภคเข้าสู่ยุค New Normal อย่างฉับพลัน แต่ด้วยกลยุทธ์ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง หรือ Customer Centric โดยเน้นการเข้าใจความต้องการของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ ส่งผลให้ซัมซุงสามารถใช้เทคโนโลยีตอบโจทย์ผู้บริโภคเพื่อการก้าวสู่อนาคตที่ดีกว่าเดิม รวมถึงการช่วยให้พวกเขามีความสุขไปกับนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าสุดทันสมัยที่จะเนรมิตให้บ้านธรรมดากลายเป็นสมาร์ทโฮมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตามความชอบของเจ้าของบ้าน
“ซัมซุง ในฐานะผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับ 1 ซึ่งมีนวัตกรรมที่ดีที่สุดอยู่แล้ว ยังให้ความสำคัญในการเชื่อมต่อออฟไลน์-ออนไลน์ รวมถึงช่องทาง Omni-Channel เพื่อสร้างประสบการณ์ที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละคน บนความเข้าใจถึงความแตกต่างของบุคคลอย่างลึกซึ้ง เพื่อสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์อันมีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังนำนวัตกรรมล้ำสมัย ที่มีเทคโนโลยี AI มาสู่การใช้ชีวิตประจำวัน และขยายการใช้เทคโนโลยีให้ครอบคลุมถึงอนาคตที่ดีขึ้นของสังคม สิ่งแวดล้อม และโลก”
นางสาวปารมี ทองเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร เล่าว่า “มีผลสำรวจออกมาว่า 79% ของคนกลุ่มมิลเลนเนียนยินดีซื้อสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร จึงเป็นแนวทางของบริษัทที่จะนำพาตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยเข้าสู่มาตรฐานเดียวกับต่างชาติตามฐานรายได้ที่ขยับตัวสูงขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า”
BESPOKE ซับแบรนด์ใหม่ของเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มไลฟ์สไตล์
นอกจากนวัตกรรมที่ดีที่สุดแล้ว ซัมซุงยังให้ความสำคัญกับการออกแบบสินค้าโดยคำนึงถึงผู้ใช้เป็นหลัก ด้วยความตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคในตลาดที่เจริญรุดหน้า นี่จึงเป็นครั้งแรกของการนำเสนอซับแบรนด์ BESPOKE หรือเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มไลฟ์สไตล์เพื่อส่งมอบประสบการณ์อันมีคุณค่าและเฉพาะบุคคลมากขึ้น
เจนนิเฟอร์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การต่อยอดซับแบรนด์ BESPOKE เปรียบเสมือนการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่สามารถสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างแท้จริง พิสูจน์ได้จากปีที่ผ่านมา การเปิดตัวตู้เย็น Bespoke ในประเทศเกาหลีใต้สามารถผลักดันยอดขายตู้เย็นได้สูงถึง 2 ใน 3 ส่วน แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคยุคมิลเลนเนียลกำลังต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่มีดีไซน์ไม่เหมือนใคร ไม่เพียงเท่านั้น Bespoke ยังเคยได้รับรางวัลเหรียญทอง (Gold Award) จากงานประกวดการออกแบบระดับโลก International Forum (iF) Design Award 2020 และยังเป็นผู้ชนะรางวัล NYCxDESIGN Awards ประจำปี 2020 ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้องครัวอีกด้วย
ตอบโจทย์ความต้องการอันทันสมัย
ตู้เย็น Bespoke สามารถลบภาพห้องครัวแบบเดิม ให้กลายเป็นห้องครัวที่โมเดิร์นทันสมัยด้วยดีไซน์ สีสันและขนาดโมดูล ขณะเดียวกันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเจ้าของห้อง โดยตู้เย็น Bespoke นี้ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งได้เองทั้งวัสดุ สี และจำนวนโมดูลเพื่อให้สอดคล้องไปกับไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการใช้งานตู้เย็นของทุกคนในครอบครัว อาทิ รูปแบบคลาสสิคสองโมดูลประตูสี่บาน หนึ่งโมดูลประตูสองบาน หรือแบบโมเดิร์นประตูยาวหนึ่งบานและประตูอีกสองบานในอีกฝั่ง รวมถึง Reversible Door ที่ให้ผู้ใช้กำหนดทิศทางการเปิดฝาตู้ได้ตามต้องการด้วย
ปี 2020 ที่ผ่านมา ซัมซุงครองความเป็นผู้นำตลาดตู้เย็นของประเทศไทยด้วยยอดขายอันดับ 1 โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จนี้มาจากการเรียนรู้และตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที เนื่องจากประเทศไทยนั้นถือเป็นฐานการผลิตขนาดใหญ่ จึงสามารถเลือกโมเดลที่ตอบโจทย์การใช้งานผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันซัมซุงมีสินค้าครอบคลุมทั้งกลุ่มพรีเมียมและแมส ไม่ว่าจะเป็น แฟมิลี่ ฮับ (Family Hub) ตู้เย็นอัจฉริยะที่สามารถเชื่อมต่อทุกคนในครอบครัวผ่านหน้าจอหลักของตู้ หรือตู้เย็น 1 ประตู และ 2 ประตูที่มาพร้อมนวัตกรรม Twin Cooling Plus อันเป็นเอกสิทธ์ของซัมซุงในการแยกส่วนการทำความเย็นเหมาะสมสำหรับอาหารและความความสามารถในการยับยั้งกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ดังนั้นการมาของ Bespoke ในปีนี้ก็จะช่วยทำให้ไลน์สินค้าตู้เย็นมีความครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ โดยมีแผนจะเพิ่มช่องทางการตลาดที่หลากหลายเพื่อการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างทั่วถึง
พร้อมนำเสนอประสบการณ์เหนือไปอีกขั้น
มากไปกว่านั้น ซัมซุงยังคงเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับ 1 ที่ได้รับความน่าเชื่อถือและได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค ด้วยการขยายเวลารับประกันเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้สูงสุดถึง 5 ปี[1] นับได้ว่าสูงที่สุดในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าปัจจุบัน และยังมีบริการถึงบ้านตลอด 7 วัน พร้อมกับบริการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง โดยลูกค้าสามารถเลือกช่องทางติดต่อเจ้าหน้าได้ตามสะดวก ไม่ว่าจะเป็นคอลเซ็นเตอร์ หรือ Live Chat เพื่อรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อการบริการที่รวดเร็วและตรงจุดยิ่งขึ้น
สำหรับตลาดประเทศไทยตู้เย็น Bespoke ถือเป็นก้าวแรกของการปรับรูปแบบตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าสู่มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก โดยอาศัยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์เป็นฟังก์ชั่นการใช้งานที่มีความหลากหลาย ซึ่งซัมซุงมีความมั่นใจว่าสินค้าอื่นๆ ในกลุ่มของ BESPOKE HOME ที่จะเปิดตัวในระยะเวลาอันใกล้นี้ก็จะได้รับความนิยมพร้อมครองความเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์อันดับ 1 ของประเทศไทยไว้ได้อย่างเหนียวแน่น