เผยรถทัวร์โดยสารประจำทาง ทำประกันภัยภาคบังคับ และภาคสมัครใจประเภท 1 โดยระบบประกันภัย พร้อมเยียวผู้โดยสารที่เสียชีวิตทั้ง 5 ราย รวม 5.5 ล้านบาท
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีรถทัวร์โดยสารประจำทาง 2 ชั้น ของบริษัท 407 พัฒนาทัวร์ จำกัด ทะเบียน 10-7387 อุดรธานี เกิดอุบัติเหตุยางรถด้านหลังระเบิดและเพลิงลุกไหม้ บนถนนมิตรภาพ ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น ขณะเดินทางจากสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดบึงกาฬ ไปยังปลายทางสถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้โดยสารรวมพนักงานรถ 34 ราย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย ซึ่ง 2 ใน 5 ของผู้เสียชีวิตเป็นเด็ก และบาดเจ็บ 29 ราย รวมทั้งรถทัวร์เสียหายทั้งคัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2564 นั้น
ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากสำนักงาน คปภ. จังหวัดขอนแก่น ว่ารถทัวร์โดยสาร ทะเบียน 10-7387 อุดรธานี ได้ทำประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์ประกันภัยเลขที่ 10662-64301/กธ/E062232 เริ่มต้นคุ้มครองวันที่ 31 มีนาคม 2564 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565 โดยคุ้มครองกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง 500,000 บาทต่อคน กรณีบาดเจ็บสูงสุด ไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน กรณีสูญเสียอวัยวะ 200,000 – 500,000 บาทต่อคน กรณีทุพพลภาพอย่างถาวร 300,000 บาทต่อคน และกรณีเข้ารักษาในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ในจะได้รับค่าชดเชยรายวัน 200 บาทต่อวัน รวมกันไม่เกิน 20 วัน และทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ (ประเภท 1) ไว้กับ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 10662-64301/กธ/011998-10 เริ่มคุ้มครองวันที่ 31 มีนาคม 2564 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565 โดยคุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย อนามัยของบุคคลภายนอก 500,000 บาทต่อคน แต่ไม่เกิน 10,000,000 บาทต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก 1,000,000 บาท คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคลกรณีสูญเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร ของผู้ขับขี่/ผู้โดยสาร 32 คน (รย.01) 100,000 บาทต่อคน ค่ารักษาพยาบาล 100,000 บาทต่อคน และประกันตัวผู้ขับขี่ 1,000,000 บาท
นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. จะได้บูรณาการการทำงานร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมว่า ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บในอุบัติเหตุครั้งนี้มีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ ไว้ด้วยหรือไม่ หากตรวจสอบพบภายหลังว่าผู้ประสบภัยมีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก ก็จะได้รับค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติม ตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้อีกด้วย
“ผมขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและมีความห่วงใยต่อผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุครั้งนี้ พร้อมจะดูแลในด้านประกันภัยอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลาและกับทุกคน โดยเฉพาะการเดินทางในช่วงวันหยุดยาว จึงขอให้ผู้ประกอบการตรวจสอบสภาพความพร้อมของรถ รวมทั้งเมาไม่ขับ ยึดกฎจราจร อย่างไรก็ตาม เพื่อความอุ่นใจ ควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย โดยเฉพาะการประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) การประกันภัยรถภาคสมัครใจ และการประกันภัยประเภทอื่น ๆ เพื่อให้ระบบประกันภัยช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัย สามารถสอบถามได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย