สายผลิตภัณฑ์ Dell EMC PowerEdge ใหม่ นำเสนอระบบที่เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับเวิร์กโหลดที่ต้องการพลังในการประมวลสูงในภาคธุรกิจ เพื่อมุ่งสู่เส้นทางของการประมวลผลอัตโนมัติ (autonomous computing)
- เดลล์ เทคโนโลยีส์ ปรับสายผลิตภัณฑ์ Dell EMC PowerEdge ด้วยเซิร์ฟเวอร์ เน็กซ์เจนใหม่ 17 รุ่นที่สามารถช่วยให้องค์กรธุรกิจวิเคราะห์และจัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ว่าข้อมูลจะถูกเก็บที่ใดก็ตาม
- Dell EMC PowerEdge XE8545 และ R750xa ใหม่มอบความสามารถในการเร่งประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการกับเวิร์กโหลดที่ต้องการใช้ข้อมูลมหาศาลมากที่สุด
- เริ่มตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการสิ้นสุดการใช้งาน ระบบการรักษาความปลอดภัยและนวัตกรรมเพื่อความยืดหยุ่นบนไซเบอร์ (cyber-resilient innovation) ที่ได้รับการเสริมประสิทธิภาพจะปกป้องเซิร์ฟเวอร์ไปตลอดอายุการทำงานของตัวเครื่อง
- ความสามารถในการประหยัดพลังงาน (Energy efficiency) เพิ่มขึ้นถึง 60 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับเซิร์ฟเวอร์รุ่นก่อนหน้านี้
เดลล์ เทคโนโลยีส์ มุ่งหน้าสู่เน็กซ์เจนของการประมวลผลข้อมูลด้วยการเปิดตัวสายผลิตภัณฑ์ Dell EMC PowerEdge ที่ทรงพลังและมีความปลอดภัยสูงสุด ด้วยเซิร์ฟเวอร์ที่ออกมาใหม่นี้ เดลล์ เทคโนโลยีส์ ได้เปิดเส้นทางเพื่อมุ่งตรงสู่โครงสร้างพื้นฐานแบบอัตโนมัติ (autonomous infrastructure) เพื่อมอบประสิทธิภาพทางด้านไอทีที่ทรงประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อตอบรับการทำงานของ AI และเพื่อจัดการกับความต้องการใช้งานด้านไอทีเพื่อการประมวลผลที่ปลายทาง (edge)
สายผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ที่ขายดีที่สุดในโลกมอบพลังที่จำเป็นในการที่จะได้มา รวมถึงการดำเนินการกับข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์จากดาต้าที่ถูกจัดเก็บอยู่ตามที่ต่างๆ ตั้งแต่ดาต้าเซ็นเตอร์กลาง ไปจนถึงพับลิคคลาวด์ต่างๆ และพื้นที่จัดเก็บที่ปลายทาง (edge locations) ลองนึกภาพใหม่ว่าด้วย PowerEdge เซิฟเวอร์ใหม่ทั้ง 17 รุ่นที่มาพร้อมกับสิทธิบัตรที่มากถึง 1,100 สิทธิบัตรที่เดลล์เป็นเจ้าของหรือจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา เซิร์ฟเวอร์ใหม่ทั้งหมดนี้จะมอบประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงานให้ในปัจจุบัน
นายฐิตพล บุญประสิทธิ์ ผู้อำนวยการช่องทางการจัดจำหน่าย เดลล์ เทคโนโลยีส์ ประเทศไทย กล่าวว่า “พันธมิตรช่องทางธุรกิจของเราคือส่วนสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จโดยรวมของเราในนำเข้าสู่การเดินทางสู่การปฏิรูปทางดิจิทัล สายผลิตภัณฑ์ Dell EMC PowerEdge เซิร์ฟเวอร์ใหม่ ช่วยให้พันธมิตรของเราขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมีกำไรในการดำเนินธุรกิจด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีแบบครบวงจร (end-to-end) ที่มีความยืดหยุ่นสำหรับลูกค้าที่มองหาการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเติบโตในยุคของการดำเนินการเพื่อการเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง หรือดิสรัปชัน”
การประมวลผลอัตโนมัติ (Autonomous compute) ช่วยให้ลูกค้าได้ระบบโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถปรับการใช้งานได้ด้วยตัวเอง (self-deployed) ทำโพรวิชั่นด้วยตัวเอง (self-provisioned) และจัดการด้วยตัวเอง (self-managed) อย่างเต็มที่ในอนาคต ปัจจุบัน ด้วยการทำงานผ่าน Dell EMC OpenManage Enterprise เครื่อง PowerEdge เซิร์ฟเวอร์ และการจัดการระบบสามารถช่วยประหยัดเวลาได้ถึง 85 เปอร์เซ็นต์โดยเฉลี่ยและลดขั้นตอนอีกนับหลายสิบขั้นตอนด้วยระบบอัตโนมัติ
การเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีล่าสุดจาก AMD และ Intel ทำให้ PowerEdge เซิร์ฟเวอร์ใหม่มอบพลังในการประมวลผลที่จำเป็นให้กับเวิร์กโหลดและแอปพลิเคชันที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสุดของลูกค้า ตัวอย่างของความก้าวหน้า ได้แก่:
- PowerEdge R6515 ซึ่งมากับ 3rd Generation AMD EPYC™ โพรเซสเซอร์ ที่เร่งความสามารถในการประมวลผลข้อมูลได้สูงถึง 60 เปอร์เซ็นต์ในฐานบิ๊กดาต้าของ Hadoop ซึ่งช่วยเร่งเวลาสำหรับข้อมูลในเชิงลึก
- PowerEdge R750 ด้วยโพรเซสเซอร์ 3rd Generation Intel® Xeon® Scalable ที่กำลังจะมาถึง มอบประสิทธิภาพที่ทรงพลังมากยิ่งขึ้นถึง 43 เปอร์เซ็นต์ในการแก้สมการเชิงเส้นคู่ขนานจำนวนมาก รองรับเวิร์กโหลดที่ต้องใช้การประมวลผลมากที่สุด
“ด้วยสภาพแวดล้อมแบบเวอร์ชวลไลซ์ในการที่เราใช้งาน PowerEdge เซิร์ฟเวอร์ เราจึงมีความคล่องตัวในโยกย้ายเวิร์กโหลดได้ตามต้องการ” โจเอล เวตท์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยี Overstock.com กล่าว “ ไม่ว่าจะเป็นอีเมล การเพิ่มขึ้นของทราฟฟิกของลูกค้า หรือเวิร์กโหลดในส่วนที่มากจากแมชชีนเลิร์นนิ่งที่จำเป็นต้องจัดการให้เสร็จอย่างรวดเร็ว เราสามารถปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการด้านต่างๆ ของธุรกิจได้ด้วยความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพของ PowerEdge เซิร์ฟเวอร์”
ปรับประสิทธิภาพสูงสุดด้วย AI เพื่อจัดการกับเวิร์กโหลดที่ใต้องการปริมาณข้อมูลมากที่สุด
ปัจจุบัน PowerEdge เซิร์ฟเวอร์มาพร้อมกับ PCIe Gen 4.0 ที่เพิ่มประสิทธิภาพของปริมาณงาน (throughput) ขึ้นเป็นสองเท่าจากรุ่นก่อนหน้า และเพิ่มตัวเร่งความเร็วสูงสุดหกตัวต่อเซิร์ฟเวอร์เพื่อรองรับเวิร์กโหลดที่ท้าทายและที่ต้องการการใช้งานปริมาณดาต้าเป็นจำนวนมากที่สุด เทคโนโลยีเหล่านี้เมื่อทำงานควบคู่ไปกับระบบอัตโนมัติอัจฉริยะของ PowerEdge ทำให้นี่คือสายผลิตภัณฑ์ PowerEdge ที่รองรับการทำงาน AI ได้สูงที่สุดในปัจจุบันทำให้องค์กรสามารถคาดการณ์และตอบสนองต่อความต้องการได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
สายผลิตภัณฑ์ PowerEdge ล่าสุด ประกอบด้วยเซิร์ฟเวอร์แบบ accelerator-optimized 2 รุ่นที่เปลี่ยนโฉมใหม่หมด (all-new) ได้แก่
- PowerEdge XE8545 แหล่งกำเนิดพลัง (powerhouse) สำหรับเวิร์กโหลดด้าน AI เสริมพลังให้กับ HPC Ready Solution ล่าสุดสำหรับ AI และ Data Analytics ทำให้ง่ายต่อการรัน AI วิเคราะห์ และประมวลผลเวิร์กโหลดในระดับแอดวานซ์ภายในระบบเดียว ทั้งนี้ PowerEdge XE8545 ประกอบด้วย 3rd Generation AMD EPYC โพรเซสเซอร์ที่มากถึง 128 คอร์ มาพร้อมกับ NVIDIA A100 GPU สี่ตัว และซอฟต์แวร์เสริมประสิทธิภาพ NVIDIA’s vGPU ในซ็อกเก็ตแบบดูอัล 4U rack เซิร์ฟเวอร์
- PowerEdge R750xa สร้างขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเร่งความเร็ว มอบประสิทธิภาพที่แน่นหนาของ GPU (GPU-dense) ในการเทรนแมชชีนเลิร์นนิ่ง การวินิจฉัย ตลอดจน AI ด้วยการสนับสนุนจากชุดซอฟต์แวร์ NVIDIA AI Enterprise ที่เป็นสิทธิ์เฉพาะสำหรับ VMware vSphere 7 Update 2 โดยเซิร์ฟเวอร์ 2U แบบ dual socket ถูกขับเคลื่อนโดย 3rd Generation Intel® Xeon® Scalable โพรเซสเซอร์ และรองรับ GPU แบบ double-wide สูงสุดสี่ตัวและ GPU แบบ single-wide 6 ตัว
สร้างขึ้นเพื่อให้สามารถขยายขอบเขตการทำงานไปสู่สภาพแวดล้อมที่อยู่ห่างไกลและสมบุกสมบัน ปัจจุบัน สายผลิตภัณฑ์ PowerEdge ใหม่ได้เสริม PowerEdge XR11 และ XR12 ใหม่ที่นำประสิทธิภาพและความปลอดภัยระดับองค์กรมาสู่รูปแบบเซิร์ฟเวอร์ที่มีความทนทาน ด้วยแชสซีที่แข็งแกร่งที่ใช้พื้นที่การจัดวางที่มีขนาดเล็กและรองรับตัวเร่งความเร็วที่หลากหลาย เซิร์ฟเวอร์ที่มีรูปทรงกระทัดรัดอย่าง XR11 และXR12 ซึ่งทำงานบน ได้รับการถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของเวิร์กโหลดที่ปลายทางที่เพิ่มมากขึ้น
“โครงสร้างพื้นฐานมีการพัฒนาไปไกลกว่าดาต้าเซ็นเตอร์ และตัวเวิร์กโหลดที่ปลายทาง หรือที่ edge เองก็ทวีความซับซ้อนมากขึ้น” แพทริค มัวร์เฮด ผู้ก่อตั้งและประธาน Moor Insights & Strategy กล่าว “เซิร์ฟเวอร์และโซลูชันการจัดการอัจฉริยะของเดลล์ทำให้องค์กรมีตัวเลือกในการประมวลผลและมีทูลส์ที่ช่วยรันเวิร์กโหลดที่มีความซับซ้อนอย่างที่สุดจากดาต้าเซ็นเตอร์ไปสู่ปลายทาง หรือในทุกที่ที่ต้องการ”
การรักษาความปลอดภัยที่ติดตั้งในตัวเพื่อการป้องกันแบบ end-to-end
องค์กรทั่วโลกรายงานความกังวลอันดับต้น ๆ ของพวกเขาเกี่ยวกับเส้นทางสู่การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลคือความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ 6 สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมที่ยืดหยุ่นทางไซเบอร์ cyber-resilient architectureและ Root of Trust รากแห่งความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับอย่างดีแนวทางที่ครอบคลุมของสายผลิตภัณฑ์ใหม่ช่วยให้ PowerEdge เซิร์ฟเวอร์มีความปลอดภัยตลอดเวลาตลอดวงจรการทำงานตั้งแต่ในสายการผลิต การนำมาใช้งาน และอื่นๆ
ทั้งนี้ การรักษาความปลอดภัยได้เริ่มต้นก่อนมีการปรับใช้ด้วย Dell Technologies Secured Component Verification ซึ่งเป็นข้อเสนอแรกสำหรับเซิร์ฟเวอร์ และเป็นส่วนเสริมไปยังกระบวนการรับรอง Secure Supply Chain ของเดลล์ ด้วยคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ อาทิ PowerEdge UEFI Secure Boot Customization ทำให้การรักษาความปลอดภัยในการบูตสามารถจัดการได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีที่ดีขึ้น
การระบายความร้อนแบบประหยัดพลังงานออกแบบโดยคำนึงถึงความยั่งยืน
ผลิตภัณฑ์ประหยัดพลังงานมีความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและต่อลูกค้าของเราตลอดจนคำมั่นในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเรานั้นผนึกแน่นอยู่ในทุกสิ่งที่เราทำ ด้วยการออกแบบแชสซีอย่างมีเอกลักษณ์ เซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่มาพร้อมพัดลมแบบท่อและระบบระบายความร้อนแบบปรับได้เพื่อการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้ถึง 60 เปอร์เซ็นต์จากรุ่นก่อนหน้า ควบคู่ไปกับการระบายความร้อนแบบหลายเวกเตอร์ PowerEdge จะนำกระแสลมไปยังส่วนที่ร้อนที่สุดของเซิร์ฟเวอร์เพื่อระบายความร้อนที่ดีที่สุด โดย Direct Liquid Cooling สามารถพร้อมใช้งานในเซิร์ฟเวอร์บางรุ่นที่มากับเทคโนโลยีตรวจจับการรั่วไหลเพื่อค้นหาและแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น