เอ็ทน่า ประกันสุขภาพ เปิดแผนประกัน Employee, We Care (EWC) ประกันสุขภาพกลุ่มช่วยผู้ประกอบการธุรกิจ SME ลดค่าใช้จ่ายฝ่าวิกฤตโควิด-19 ดูแลสุขภาพพนักงาน จ่ายเบี้ยน้อยแต่คุ้มครองครบ ไม่เคลมมีเงินคืน ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าเพิ่ม SME 25%
มร.ดาเมียน เดลานี่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ทน่า ประกันสุขภาพ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการด้านประกันสุขภาพระดับโลก กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่แพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ทำให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพ มีการศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องประกันสุขภาพเพิ่มขึ้น โดยเปรียบเทียบข้อมูลและสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากบริษัทประกัน ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจและสังคมเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) มีเอสเอ็มอีทั่วประเทศกว่า 3 ล้านราย หลายบริษัทต้องมีการลดค่าใช้จ่าย แต่สวัสดิการด้านสุขภาพสำหรับพนักงานยังเป็นสิ่งที่จำเป็น ดังนั้น เอ็ทน่า ประกันสุขภาพ จึงต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19 ในครั้งนี้ จึงได้ออกกรมธรรม์ Employee, We Care (EWC) ประกันสุขภาพกลุ่ม สำหรับองค์กรขนาดเล็กที่มีพนักงาน 5-50 คน
กรรมการผู้จัดการ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเอ็ทน่ามีฐานลูกค้ากลุ่ม SME ประมาณ 8% ในส่วนแผนประกัน EWC จะเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระนายจ้างให้เหมาะกับช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่จ่ายเบี้ยน้อยแต่ให้ความคุ้มครองเรื่องของสุขภาพแบบครบวงจร โดยเบี้ยประกันเริ่มต้นที่ 1,922 บาท ทั้งนี้ คาดว่าแผนประกัน EWC จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ประกอบการธุรกิจ SME ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น 25% และจะช่วยเพิ่มยอดเบี้ยประกันให้กับบริษัทฯ 59 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11%
เกี่ยวกับเอ็ทน่า อินเตอร์เนชั่นแนล
เอ็ทน่า อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นส่วนหนึ่งของ CVS Health company ซึ่งมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างชุมชนที่แข็งแรงและแข็งแกร่ง ด้วยการส่งมอบสิทธิประโยชน์ด้านการดูแลสุขภาพของประชากรทั่วโลกในฐานะที่เราเป็นบริษัทผู้นำด้านประกันสุขภาพ เอ็ทน่ามีสมาชิกกว่า 900,000 คนทั่วโลก ซึ่งรวมทั้งคนท้องถิ่น ชาวต่างชาติ และนักท่องเที่ยว และผลประโยชน์ที่ครอบคลุมและดูแลทั่วโลก อาทิ การรักษาทางการแพทย์ ทันตกรรม การช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน และในบางพื้นที่ยังคุ้มครองถึงชีวิตและทุพพลภาพด้วย นอกจากนี้ เอ็ทน่า อินเตอร์เนชั่นแนล ยังได้นำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อยกระดับระบบการดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นเพื่อรองรับสมาชิกที่เป็นหน่วยงานภาครัฐ บริษัทชั้นนำขนาดใหญ่ เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี พร้อมทั้งมีการควบคุมคุณภาพการบริการและต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับปี 2563 ทาง CVS Health company ติดอันดับที่ 5 ในทำเนียบ Fortune 500
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https:/www.aetna.co.th/th/