บมจ.ที คิว อาร์ (TQR) โชว์งบไตรมาสแรกของปี 64 กำไรสุทธิ 11.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.85% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ฟากผู้บริหาร “ชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์” แจงเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบทั่วไป-ธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบพัฒนาช่องทางฯ ส่วนแนวโน้มผลประกอบการปีนี้มั่นใจรายได้โตตามแผน พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยต่อรูปแบบใหม่ๆ ตอบโจทย์ความต้องการของคู่ค้า-ผู้บริโภค มากขึ้น
นายชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) (TQR) เปิดเผยว่า ผลประกอบการสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2564 กำไรสุทธิของบริษัทฯ มีจำนวนเท่ากับ 11.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.21 ล้านบาท หรือเท่ากับร้อยละ 36.85 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจากรายได้ค่าบริการที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 43.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 38.26 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันในปีก่อนที่ทำได้ 31.23 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบทั่วไป (Traditional Business) มีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.33 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นจากงานสัญญาประกันภัยต่อกลุ่มประกันภัยรถยนต์ และรายได้ค่าบริการจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบพัฒนาช่องทางและผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกัน (Alternative Business) มีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 58.09 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่านายหน้าประกันภัยต่อจากสัญญาประกันภัยต่อกลุ่มอื่น (Non-Motor) โดยเฉพาะการประกันภัยพิเศษอื่นๆ (Specialty)
“ผลประกอบการไตรมาส 1/64 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากผู้บริโภคให้ความสำคัญต่อการทำประกันภัยกันมากขึ้น ทั้งประกันภัยเดิมและประกันภัยรูปแบบใหม่ๆ ส่งผลให้บริษัทประกันภัยต่างๆ มีการบริหารความเสี่ยง ด้วยการทำประกันภัยต่อตามไปด้วย ทำให้มั่นใจว่า แนวโน้มรายได้รวมในปีนี้จะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา ตามแผนงานที่วางไว้”
นายชนะพันธุ์กล่าวต่อถึงกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ว่า นอกจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบทั่วไปและธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบพัฒนาช่องทางและผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกัน ซึ่งเป็นธุรกิจหลักแล้ว บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการศึกษาการเข้าไปลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ด้านภาคบริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัย หรือแพลตฟอร์มต่างๆ ที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้
ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ ประกอบด้วย ธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบทั่วไป (Traditional Business) 50.08% และธุรกิจนายหน้าประกันภัยต่อแบบพัฒนาช่องทางและผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกัน (Alternative Business) 49.92%