“ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” เผยผลประกอบการ Q1/2564 กำไรสุทธิพุ่งแตะ 825 ล้านบาท หลังกวาดรายได้แกร่ง 3,869 ล้านบาท เติบโตทั้ง QoQ และ YoY สร้างสถิติรักษาอัตรากำไรสุทธิระดับ 21% สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมต่อเนื่อง หลังโครงการกลุ่ม Inventory สร้างยอดโอนกรรมสิทธิ์แกร่ง แย้มQ2/2564 เดินหน้าเปิดโครงการใหม่ สร้างยอดโอนตามแผน หลังพบสัญญาณต่างชาติยังมองสถานการณ์ในไทยเชิงบวก พร้อมสนใจร่วมทุนต่อเนื่อง ล่าสุดบอร์ดไฟเขียวตั้ง “ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย” อดีต ผอ.ธนาคารออมสิน นั่งประธานกรรมการบริหาร ร่วมต่อยอดแผน ORIGIN NEXT LEVEL
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า จากผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงไตรมาส 1/2564 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 3,869 ล้านบาท เติบโตขึ้น 61% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (%YoY) และเติบโตขึ้น 35% จากไตรมาสก่อนหน้า (%QoQ) ขณะเดียวกัน บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 825 ล้านบาท เติบโตขึ้น 39% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (%YoY) และเติบโตขึ้น 28% จากช่วงเดียวกันของไตรมาสก่อนหน้า (%QoQ)
“แม้ในช่วงต้นไตรมาส 1/2564 ภาพรวมเศรษฐกิจจะได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกที่ 2 แต่เรายังคงปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเปิดให้ทำธุรกรรมกับเราได้ผ่านหลากหลายช่องทาง การออกแคมเปญทางการตลาดใหม่ๆ ทำให้สามารถระบายสินค้ารอการขาย หรือ Inventory สร้างยอดโอนกรรมสิทธิ์ใหม่ๆ และรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง”
จากผลประกอบการดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทมีอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ที่ระดับ 21% รักษาระดับความสามารถในการทำกำไรของบริษัทไว้ได้อย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา และสูงกว่าอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
นายพีระพงศ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ในไตรมาส 2/2564 นั้น ถือเป็นสถานการณ์ที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากการแพร่ระบาดในระลอกที่ 3 มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงกว่า 2 ระลอกที่ผ่านมา และมีการบังคับใช้มาตรการควบคุมพื้นที่ที่เข้มข้นขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือน พ.ค. ซึ่งอาจกดดันกำลังซื้อของผู้บริโภคในระยะสั้น
อย่างไรก็ดี กลุ่มธุรกิจจากต่างประเทศยังคงมีมุมมองที่ดีต่อสถานการณ์ในประเทศไทยและมั่นใจในการดำเนินงานของบริษัท โดยขณะนี้ยังมีพันธมิตรทั้งรายเดิมและรายใหม่พิจารณาเข้ามาร่วมทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยกับบริษัทอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มโครงการที่เปิดตัวไปแล้ว และกลุ่มโครงการที่กำลังจะเปิดตัว ขณะเดียวกัน การดำเนินการกระจายวัคซีน COVID-19 ยังคงเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง และน่าจะส่งผลให้ตลาดในช่วงครึ่งปีหลังทยอยฟื้นตัว
ทั้งนี้ ในไตรมาส 2/2564 นี้ บริษัทมีการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ แฮมป์ตัน ศรีราชา มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท, โครงการ แกรนด์ บริทาเนีย ราชพฤกษ์ พระราม 5 มูลค่าโครงการ 2,100 ล้านบาท และ โครงการแกรนด์ บริทาเนีย บางนา กม.12 มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท มูลค่าทั้ง 3 โครงการรวมทั้งสิ้นกว่า 4,200 ล้านบาท ตามแผนงานเดิม ขณะเดียวกัน ก็จะเดินหน้าโอนกรรมสิทธิ์โครงการสร้างเสร็จใหม่เพิ่มเติมตามแผนงานอีก 4 โครงการ ได้แก่ โครงการ ไนท์บริดจ์ สุขุมวิท เทพารักษ์, โครงการ ดิ อออริจิ้น รัชดา ลาดพร้าว, โครงการ แกรนด์ บริทาเนีย ราชพฤกษ์ พระราม 5 และ โครงการแกรนด์ บริทาเนีย บางนา กม.12 คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมกว่า 4,850 ล้านบาท
นายพีระพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติแต่งตั้ง ดร.ชาติชาย พยุหนาวีชัย เข้าดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการบริหาร เนื่องจากเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการการเงินและธนาคาร และเคยดำรงตำแหน่งสำคัญให้กับองค์กรใหญ่ด้านการเงินและการธนาคารหลายแห่ง อาทิ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน, รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ด้วยประสบการณ์ที่แข็งแกร่งของ ดร.ชาติชาย จะช่วยส่งเสริมให้ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ สามารถเดินหน้าแผนงาน ORIGIN NEXT LEVEL โดยเฉพาะในด้าน Business Expansion ได้อย่างแข็งแกร่ง เติบโตอย่างยั่งยืน โดยตำแหน่งดังกล่าว มีผลตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค. 2564 เป็นต้นไป