“ความเท่าเทียมในสังคม” เป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอยู่บ่อยครั้งในสังคมไทยและต่างประเทศ รวมถึงองค์กรต่าง ๆ ที่นำหลักการนี้มาใช้บริหารบุคลากร เพื่อให้เกิดความเคารพในสิทธิความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นความคิด เพศ อายุ เชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม และความเชื่อ ส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนความเท่าเทียมในองค์กรให้สำเร็จได้ คงไม่พ้นบุคลากร ตั้งแต่ผู้บริหารตลอดจนพนักงาน ที่ต้องเปิดกว้างและให้การยอมรับต่อความหลากหลาย (Diversity and Inclusion) เพราะพนักงานทุกคนถือว่าเป็นทรัพยากรสำคัญในการผลักดันเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนความเท่าเทียมในองค์กรสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน
โดยเริ่มจากผู้บริหารและพนักงานในการสร้างการตระหนักรู้ในวงกว้างเรื่องความเท่าเทียมทางเพศและผลักดันให้เกิดความเท่าเทียมในทุกมิติ จะเห็นได้ชัดจากที่เจนเนอราลี่มีผู้บริหารระดับสูงที่เป็นผู้หญิงมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ และมีบุคลากรมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ที่เป็นผู้หญิงเช่นกัน รวมถึงการเปิดรับพนักงานกลุ่ม LGBTQI+ อีกด้วย นอกจากนี้เราได้เปิดรับอาสาสมัครเข้าร่วมเป็น D&I Committee Thailand เพื่อช่วยขับเคลื่อนให้เกิดกิจกรรมดีๆที่ช่วยสร้างวัฒนธรรมที่เปิดโอกาสให้ความหลากหลายและสนับสนุนทุกความเท่าเทียมมาอย่างต่อเนื่อง
และล่าสุดในปีที่ผ่านมาเปิดโอกาสให้บุคคลกลุ่มที่มีความบกพร่องทางร่างกาย หรือ Disability ได้เข้ามามีส่วนร่วมในสายงานต่าง ๆ ขององค์กร โดยเจนเนอราลี่เห็นถึงศักยภาพและความสามารถของพนักงานกลุ่มนี้ที่จะเติบโตในการทำงานเช่นเดียวกับพนักงานทั่วไป และในปีนี้เองเจนเนอราลี่ยังคงให้ความสำคัญและสนับสนุนทุกความหลากหลาย และจะยังคงส่งเสริมความเท่าเทียมต่อไป
โดยมีการสร้างแพลตฟอร์มในการพัฒนาทักษะต่าง ๆ ของพนักงานในองค์กร เพื่อเพิ่มองค์ความรู้และความสามารถของพนักงาน รวมถึงนำทักษะที่ได้มาประยุกต์ใช้ในการทำงาน และให้พนักงานในองค์กรได้ตระหนักถึงความสำคัญและให้การยอมรับในเท่าเทียมเหล่านี้ เช่น กิจกรรม “Be Bold for Inclusion” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดพร้อมกับเจนเนอราลี่ทั่วโลก มีวัตถุประสงค์ให้พนักงานเห็นถึงความสำคัญและตระหนักถึงความเท่าเทียมสตรี และกิจกรรม “WE GEN, WE PROUD” เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในเดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQI+) ซึ่งความหลากหลายเหล่านี้ เจนเนอราลี่เชื่อว่าคือข้อดีขององค์กร ที่จะทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางด้านความคิด มุมมองและประสบการณ์ที่จะส่งผลให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่องค์กร ตามสโลแกน “It’s our differences that make the difference” เพราะความแตกต่างสร้างให้เราแตกต่าง”
ขณะเดียวกันเจนเนอราลี่ได้มีการรับผู้มีความบกพร่องทางร่างกายเข้าเป็นพนักงานจำนวน 4 คน โดยเป็นผู้พิการหรือบกพร่องทางร่างกายด้านต่างๆ อาทิ ผู้พิการทางการได้ยินแต่กำเนิด แขนพิการ ผู้มีการรับรู้ช้า เป็นต้น ซึ่งเจนเนอราลี่มองว่าแม้ผู้พิการจะมีความบกพร่องทางร่างกายแต่ก็ยังมีศักยภาพที่สามารถดึงออกมาใช้ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหากได้รับโอกาสและความเท่าเทียม ดังนั้นจึงเปลี่ยนคำว่า Disability เป็นคำว่า Diversabilty (Diverse + Ability) และนอกจากนี้ยังมีการฝึกอบรมบุคลากรในสายงานเดียวกันเพื่อเตรียมความพร้อมด้านสถานที่ทำงานเพื่อรองรับให้บุคลากรเหล่านี้สามารถปฏิบัติงานได้โดยสะดวกอีกด้วย
ประนิดา สิมัยนาม เจ้าหน้าที่ฝ่าย Human Resource Management ซึ่งเป็นผู้มีความบกพร่องทางร่างกาย (แขนพิการ) บอกว่า “รู้สึกดีใจมากที่ผู้พิการได้รับการยอมรับ และได้รับโอกาสในการเข้าร่วมงานในองค์กรใหญ่ ซึ่งก็เคยทำงานในองค์กรอื่นมาก่อน แต่เมื่อมาทำงานที่เจนเนอราลี่ก็พบว่าบรรยากาศการทำงานแตกต่างจากที่อื่นมาก พนักงานในสายงานเดียวกันทุกคนเข้าใจในสิ่งที่ตัวเราเป็น คอยสอนงาน และคอยช่วยเหลือทุกอย่าง ทำให้เรามีความอุ่นใจและเชื่อมั่นว่าตัวเราสามารถมีโอกาสในการพัฒนาตนเองได้”
ด้าน เอดิสัน ไชยสงค์ รองประธาน – แผนกพิจารณารับประกัน กล่าวถึงการเตรียมตัวและปรับตัวเพื่อทำงานร่วมกับกลุ่มผู้พิการทางร่างกายว่า “การทำงานกับพนักงานกลุ่ม diversablility ไม่ใช่แค่ให้พนักงานผู้พิการต้องปรับตัวหาเรา แต่เราต้องปรับการจัดการภายในให้สามารถรองรับการทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัวด้วย ยกตัวอย่างเช่น การดูแลพนักงานผู้พิการเนื่องจากไม่ได้ยินมาแต่กำเนิด การสอนงานที่เป็นทางเสียงจึงไม่สามารถทำได้ เพราะน้องจะจดจำเป็นภาษาเขียนเป็นอักษรภาพเท่านั้น ซึ่งศัพท์ในธุรกิจประกันภัยเป็นศัพท์เทคนิค เป็นศัพท์ใหม่มากสำหรับน้อง เช่น คำว่าสินเชื่อ และไม่เคยถูกผลิตเป็นภาษามือมาก่อน ทางแผนกจึงต้องปรับตัวโดยสอนงานที่เริ่มต้นจากขั้นตอนปฏิบัติงานไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย และค่อยปรับการมอบหมายงานที่ซับซ้อนขึ้นในภายหลังเมื่อน้องมีความเข้าใจมากขึ้น เอกสารหรือสื่อการสอนต่างๆพยายามให้เป็นสัญลักษณ์ เป็น work flow หรือเป็นภาษาง่ายๆ และจากการทำงานร่วมกันมาระยะหนึ่งพบว่าพนักงานเหล่านี้ล้วนมีความสามารถ หากได้รับการส่งเสริมที่ดี ก็มีโอกาสที่จะพัฒนาให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้เท่าเทียมกับคนทั่วไป”
เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ยึดมั่นและให้ความสำคัญกับ “การสร้างคุณค่าให้กับบุคลากร” (Value our people) ที่ถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญขององค์กรและความหลากหลายทางความคิด เพศ อายุ เชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม รวมถึงความเชื่อและไลฟ์สไตส์ที่แตกต่างกันจะขับเคลื่อนให้ธุรกิจหรือองค์กรก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน และนี่คือแนวทางในการดำเนินงานของเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ที่สอดคล้องกับนโยบายของเจนเนอราลี่ทั่วโลก เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งความเสมอภาคและเท่าเทียม