โลกเผชิญการเปลี่ยนแปลงมากมายในช่วงเกือบ 2 ศตวรรษที่ผ่านมา หน้าตาของโลกที่พวกเรารู้จักเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ จนน่าตกใจเพราะสิ่งแวดล้อมถูกทำลายมากขึ้น สวนทางกับตัวเลขทางเศรษฐกิจที่เติบโต ปัญหาภาวะฉุกเฉินด้านภูมิอากาศ (Climate Emergency) ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติในขณะนี้ เพราะคนทุกคนได้รับผลกระทบโดยถ้วนหน้า บ่อยครั้งที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงักเนื่องจากภัยธรรมชาติหรือปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมที่ถูกทำลายซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
Christian Aid องค์กรไม่แสวงผลกำไรจากอังกฤษเคยออกมาเตือนว่าระดับน้ำทะเลที่สูงมากขึ้นจากภาวะโลกร้อนซึ่งจะเห็นชัดได้มากขึ้นตั้งแต่ปี 2045 อาจทำให้เมืองใหญ่หลายแห่งทั่วโลกรวมทั้งกรุงเทพมหานครของประเทศไทยเสี่ยงจมใต้ทะเลได้หากไม่ช่วยกันสกัดกั้นและบรรเทาปัญหาโลกร้อนให้ดีกว่านี้ ซึ่งองค์การสหประชาชาติให้ข้อมูลว่าทุก 1 องศาเซลเซียสที่โลกร้อนขึ้นจะส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 100 ล้านคนและในปี 2050 ประชากรโลกจะต้องสูดอากาศที่ไม่มีคุณภาพที่ดีเพียงพอเข้าร่างกายสูงถึง 75% ต่อวัน ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เราเคยเจอมา
ปัญหาโลกร้อนจึงถือเป็นเรื่องใหญ่และด่วนที่สุด ภาครัฐและภาคธุรกิจต้องขยับตัว
ทั่วโลกประกาศภาวะฉุกเฉินด้านภูมิอากาศ หรือ Climate Emergency เพื่อเรียกร้องให้ทุกคนร่วมมือแก้ไขปัญหาของทุกภาคส่วนอย่างจริงจังตั้งแต่ปลายปี 2016 และเมื่อสิ้นปี 2020 ที่ผ่านมา มีรัฐบาลท้องถิ่นกว่า 1,800 แห่งจาก 33 ประเทศพร้อมใจผลักดันทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และประชาชนให้ร่วมมือกันก่อนที่จะสายจนเกินไป โดยดำเนินการตาม พันธกิจเพื่อแก้ไขและฟื้นฟูปัญหาโลกร้อนจับต้องได้มากขึ้นและมีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ที่ผลักดันโดยสหประชาชาติมาเป็นแนวทางสำคัญ เช่นเดียวกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ส่งเสริมวัฒนธรรมบรรษัทภิบาลของบริษัทจดทะเบียนที่นอกจากจะบริหารงานอย่างโปร่งใส จัดการความเสี่ยงได้ดีแล้วยังต้องดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคมเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวหรือ ESG (Environmental, Social and Governance) อีกด้วย
เห็นได้ชัดจากการมุ่งพัฒนานวัตกรรมเม็ดพลาสติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การรณรงค์การจัดการพลาสติกใช้แล้วอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นทาง และการใช้เทคโนโลยีรีไซเคิลเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ อาทิ การพัฒนาและเปลี่ยนขวดบรรจุภัณฑ์ของยูนิลีเวอร์จากพลาสติกชนิด HDPE เป็นพลาสติก HDPE รีไซเคิล (rHDPE) ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่นำพลาสติกใช้แล้วจากครัวเรือนหมุนเวียนกลับมาผลิตเป็นขวดบรรจุภัณฑ์ใหม่ โดยใช้นวัตกรรมเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง (High Quality Post-Consumer Recycled Resin – PCR) ภายใต้แบรนด์ เอสซีจี กรีน พอลิเมอร์ (SCG Green PolymerTM) เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีรีไซเคิลพลาสติก Advanced Recycling Process ซึ่งเป็นนวัตกรรมรีไซเคิลขั้นสูงที่เปลี่ยนพลาสติกที่ใช้แล้วกลับมาเป็นวัตถุดิบตั้งต้นสำหรับโรงงานปิโตรเคมี ด้วยกระบวนการที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถนำมาใช้ผลิตเม็ดพลาสติกใหม่ได้
ในส่วนของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ธุรกิจ เคมิคอลส์ เอสซีจี ได้ใช้ความเชี่ยวชาญด้านกระบวนการผลิตรวมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI Supervisory) ทางด้านการจัดการพลังงาน มาช่วยวิเคราะห์ตัวแปรสำคัญในกระบวนการผลิตที่มีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพื่อเสริมความสามารถให้หน่วยการผลิตเห็นโอกาสลดการใช้พลังงานและลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดเวลา
ส่วนธุรกิจบรรจุภัณฑ์อย่าง SCGP ก็ตระหนักถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป การซื้อสินค้าออนไลน์ที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ความต้องการใช้งานบรรจุภัณฑ์และการขนส่งเติบโตอย่างก้าวกระโดด จึงคิดค้นนวัตกรรมเพื่อพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยที่ยังใช้งานได้สะดวก มีประสิทธิภาพสูง นั่นคือ R-1 บรรจุภัณฑ์พอลิเมอร์แบบอ่อนที่ทำจากฟิล์มประกบติดกันหลายชั้นโดยใช้วัสดุชนิดเดียวกัน แต่ละชั้นทำหน้าที่แตกต่างกันเช่น การพิมพ์ กันความชื้น ป้องกันแรงกระแทก ทำให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้อย่างสมบูรณ์ โดยเป็นที่ยอมรับของภาคการผลิตและนำไปใช้ในบรรจุภัณฑ์ของอาหารและผลิตภัณฑ์ชั้นนำหลากหลายแบรนด์
นี่เป็นเรื่องเล่าบางส่วนของสิ่งที่เอสซีจีได้เร่งปรับตัวเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาจากภาวะฉุกเฉินด้านภูมิอากาศที่ท้าทายมากขึ้นทุกวัน เชื่อว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกภาคส่วนในการร่วมกันดูแลโลกใบนี้และนำไปสู่บริบทใหม่ของโลกธุรกิจที่ต้องใส่ใจต่อหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน เร่งคิดเพื่อทำสิ่งใหม่ด้วยการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนและรักษาสมดุลของโลกใบนี้ไปด้วยกัน
ติดตามรายละเอียดนวัตกรรมสินค้าและบริการของ SCG ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตและร่วมดูแลโลกจากวิกฤตสภาพอากาศได้ที่ : https://www.scg.com/climate-emergency