เปิดใจครอบครัวไลน์แมนไรเดอร์ สู้ไม่ถอยแม้เจอพิษโควิด ดูแล 10 ชีวิต ส่งต่อกำลังใจให้คนที่กำลังท้อ

เปิดใจ พ่อ-แม่-ลูก ครอบครัวไลน์แมนไรเดอร์ ขับรถส่งอาหารเดลิเวอรีในจังหวัดสมุทรสาคร ดูแลครอบครัว 10 ชีวิต หลังเจอพิษโควิด-19 ต้องเปลี่ยนงาน แต่สู้ไม่ถอยเพื่อคนข้างหลัง ส่งต่อกำลังใจถึงคนที่กำลังท้อให้สู้ต่อไม่หยุดนิ่ง 

ปีที่ 2 ของโควิด-19 ทำให้หลายคนต้องดิ้นรนหาทางรอดสร้างรายได้ เพื่อดูแลตัวเองและครอบครัว เช่นเดียวกับ ครอบครัวของ ต๊อด นายปัฐวีร์ ธีร์จินดารักษ์ ไรเดอร์ วัย 19 ปี โด่งดังในโซเชียลจากคลิปส่งข้าวให้น้องหมาตอนเจ้าของ ไม่อยู่บ้านช่วงสงกรานต์ ที่เมื่อได้รู้จักตัวตนและครอบครัวของเขาแล้ว ทำให้เราได้เห็นครอบครัวตัวอย่างของคนที่สู้ไม่ถอย

ต๊อด เล่าว่า ครอบครัวมีกันทั้งหมด 10 คน โดยเสาหลักที่หาเงินมาดูแลทุกคนคือ พ่อ ต๊อด และอาอีก 2 คน พ่อเคยขับรถตู้รับ-ส่งผู้โดยสาร แต่พอโควิดมาคนเดินทางน้อยลง เลยหันมาขับรถรับ-ส่งอาหารแทน ต่อมาต๊อดจึงได้มาทำ อาชีพเดียวกับพ่อ โดยมีแม่คอยดูแลเรื่องต่างๆ ในบ้าน รวมถึงดูแลปู่ ย่า หลาน น้องชายและน้องสาวของต๊อดที่กำลังอยู่ ในวัยเรียน

เมื่ออาชีพขับรถส่งอาหารทำให้มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว แม่จึงตัดสินใจสมัครมาขับไลน์แมนด้วยอีกแรง ด้วยความที่เป็นงานอิสระ จึงทำให้เลือกแบ่งเวลาทำกับข้าว งานบ้านและขับรถรับ-ส่งอาหารได้อย่างลงตัว หรือแม้บางครั้ง หากมีธุระที่สำคัญก็ทำให้พวกเขาจัดสรรเวลาการขับ และเลือกวันหยุดได้เองตามสะดวก ปกติแล้วทั้ง 3 คน จะเลือก รับงานในละแวกใกล้บ้าน และใช้เวลาประมาณบ่ายแก่ๆ มานั่งกินข้าวด้วยกัน และเล่าเรื่องที่เจอในแต่ละวันให้กันฟัง

ตลอดระยะเวลาในการรับ-ส่งอาหาร ต๊อดเจอเหตุการณ์มาหลายรูปแบบ ทั้งลูกค้าที่ชื่นชมในการส่งอาหารเร็ว และมีความสุภาพ รวมไปถึงการส่งอาหารผิดบ้าน จนทำให้เขามีทักษะการรับมือได้อย่างหลากหลาย ซึ่งสิ่งที่ต็อดมอง ว่าเป็นความสะดวกในการทำงานคือ การที่ไลน์แมนพัฒนาช่องแชทของแอปฯ เพื่อทำให้ไรเดอร์สามารถพิมพ์ข้อความ เก็บไว้ และเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ ซึ่งมีความรวดเร็ว ลดขั้นตอน และประหยัดค่าใช้จ่ายในการ โทรให้กับไรเดอร์

ทุกคนในครอบครัวมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ การทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเพื่อครอบครัว ต๊อดบอกว่า ในฐานะลูกชายคนโต เขาต้องรักษาทั้งชีวิตและความเชื่อใจที่ทุกคนมีต่อเขา จึงค่อนข้างใส่ใจกับการทำงานบริการ ให้ออกมาดี เพื่อผลที่ตามมาจะได้ดีด้วย ซึ่งทุกวันนี้ต๊อด และพ่อ-แม่ ขยันวิ่งรวมกัน 3 คน จึงทำให้มีรายได้มากพอ ที่จะดูแลทั้งครอบครัวในแต่ละเดือน

ต๊อดมีฮีโร่ในดวงใจ คือพ่อของเขาที่ทำงานหนักมาตลอด ทำให้ต๊อดพยายามที่จะเป็นเหมือนฮีโร่คนนี้ด้วยการ จดจำทั้งความสู้ไม่ถอย แนวคิดการใช้ชีวิต วิธีการขับรถ การบริการ การแต่งตัว พร้อมบอกอีกว่าถ้าเขาอยู่ในร่างของพ่อ ได้หนึ่งวัน เขาจะนอนพักผ่อนให้เต็มอิ่มจนหายเหนื่อย

ทุกวันนี้ทั้งสามคน พ่อ-แม่-ลูก ยังทำหน้าที่ขับรถส่งอาหารและความใส่ใจให้กับทุกออร์เดอร์ และยึดแนวคิดที่ว่า “ต้องทำทุกอย่างให้เต็มที่ เพราะเราไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้ เราจะมีโอกาสได้แก้ไขมันอีกหรือไม่” พร้อมกับฝากส่งกำลังใจ ให้กับทุกคนที่ท้อแท้ว่า ครอบครัวผมเองเริ่มต้นจากติดลบ สิ่งหนึ่งที่เราต้องมีคือ ความเชื่อมั่นและศรัทธาในตัวเอง เราต้องรู้ว่าเรามีอะไรอยู่ในมือ เห็นค่าในตัวเองและอย่ายอมแพ้ ผมคิดว่า ผมยังโชคดีที่ผมทำอาชีพนี้ แล้วสามารถหารายได้ ได้ในเวลานี้ เป็นกำลังใจให้ทุกคนสู้และไม่หยุดนิ่งครับ”