TOA คว้ารางวัล “No.1 Brand Thailand 2020-2021” แบรนด์สีทาอาคารยอดนิยม ที่ครองใจผู้บริโภคติดต่อกันเป็นปีที่ 9
“ถึงจะเป็นที่หนึ่งในตลาดสีทาอาคาร แต่เรายังต้องบุกตลาดขยายธุรกิจในเซกเมนต์ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ต้องวิ่งไปข้างหน้าเรื่อย ๆ เพราะยังมีโอกาสอีกมาก ซึ่งเป็นทิศทางของทีโอเอ (TOA) แบรนด์สีทาอาคารยอดนิยมอันดับ 1 กับรางวัล No.1 Brand Thailand ที่ครองใจผู้บริโภคติดต่อกันเป็นปีที่ 9 จากเวที Marketeer”
จตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ได้ตอกย้ำความเป็น No.1 Brand –TOA เป็นมากกว่าเรื่องสี ยกระดับด้วยโซลูชั่นแบบครบวงจร (Total Solution) แม้จะเป็นเบอร์หนึ่งทั้งยอดขายและการเป็นแบรนด์ในใจผู้บริโภค แต่ทีโอเอยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาสินค้าและขยายธุรกิจให้ครอบคลุมทุกระดับราคาและการใช้งานทั้งตลาดในประเทศและตลาดโลกอย่างต่อเนื่องไม่หยุด ทำให้ในไตรมาส1/2564 ที่แม้จะยังอยู่ในวิกฤติโควิด-19 ทีโอเอยังคงเติบโตและมียอดขายมากถึง 4,422 ล้านบาท และมีรายได้รวมสูงถึง 4,456 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นกว่า 321 ล้านบาท และ 325 ล้านบาท ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน) พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจให้ครอบคลุม ภายใต้แนวคิด โซลูชั่นแบบครบวงจร (Total Solution)
“ลูกค้ามองว่าเราไม่หยุดอยู่กับที่ มีอะไรใหม่ ๆ ออกมาตลอดเวลา อย่างการเพิ่มกลยุทธ์ Pull Service เข้ามา เพื่อมุ่งตอบสนองผู้บริโภคด้วยสินค้าและบริการมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่การขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีก่อสร้าง พื้น ฝ้า ผนัง หลังคา งานสีทาอาคารทั่วไป งานสีสร้างลายเพื่อการตกแต่ง งานซ่อมแซมปรับปรุงบ้าน สามารถทำให้เราตอบโจทย์ลูกค้าผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นช่างมืออาชีพและลูกค้าประเภทซื้อสินค้าด้วยตัวเอง (“Buy It Yourself” หรือ “BIY”) มากขึ้น”
ตลอดจนการเพิ่มช่องทางบริการที่หลากหลายแบบ One Stop Service ทั้งบริการงานช่างมาตรฐานใหม่ (WHO Service) ที่เชื่อมโยงกับโมเดลธุรกิจใหม่ MEGA PAINT & HOME ที่จะเป็นศูนย์รวมวัสดุก่อสร้างและบริการแบบครบวงจรจาก TOA, ศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหารั่ว ซึม ร้าว (TOA Protect & Repair Center), บริการออกแบบสีบ้าน (TOA Ide@Color), บริการให้คำปรึกษาการใช้งานผลิตภัณฑ์
“ล่าสุด เราเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์กระเบื้องเซรามิคและพอตสเลนตามกลยุทธ์การขยายธุรกิจวัสดุก่อสร้างน้ำหนักเบา (Lightweight Construction Materials) ให้ครอบคลุมและตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น ตรงนี้จะช่วยให้พอร์ตสินค้าของทีโอเอมีความหลากหลาย และตอกย้ำการเติบโตทางธุรกิจที่เป็นมากกว่าสี (Growing Beyond Colors) นำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาวต่อไป”
นอกจากการมีสินค้าคุณภาพที่หลากหลายและบริการที่ดีแล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าอีกหนึ่งจุดแข็งสำคัญที่ยากจะเลียนแบบได้คือ ช่องทางการขายที่หลากหลายและสายป่านดีลเลอร์ที่เข้มแข็ง การมีเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย ด้วยการที่อยู่มานานถึง 57 ปี ทำให้ทีโอเอสามารถสร้างเครือข่ายได้เหนียวแน่น โดยปัจจุบันทีโอเอ มีจำนวนผู้ค้าปลีกร้านขายสี (Retail Dealers) มากกว่า 6,800 ร้านค้า ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมอำนวยความสะดวกทั้งผู้ซื้อและผู้ขายมากขึ้นด้วยบริการ TOA Color World Solution Services ที่ให้บริการผ่านผู้ค้าปลีกและร้านค้าโมเดิร์นเทรด ที่มีเครื่องผสมสีอัตโนมัติ (Auto Tinting Machine) ทั้งในประเทศไทย และประเทศอื่นในเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนกว่า 7,169 เครื่อง
นอกจากนี้ เพื่อตอบโจทย์การเป็น Total Solution ทีโอเอได้ต่อยอดออกมากเป็นบริการ WHO Service และโมเดลธุรกิจ “MEGA PAINT & HOME”
WHO Service คือการสร้าง Digital Platform ผ่านช่องทางออนไลน์ www.whoservice.com เป็นตัวกลางระหว่าง ‘ผู้บริโภคหรือเจ้าของบ้าน’ ที่ต้องการแก้ไขปัญหาบ้านหรือปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน กับ ‘ช่างผู้รับเหมางานสีและงานซ่อมแซม’ มาเจอกัน โดยทีมช่างจะผ่านการตรวจสอบและคัดเลือกจากทีโอเอ เพื่อให้ลูกค้าเลือกใช้และมั่นใจได้ 100% ด้วยบริการอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอน โดยมีบริการถึง 8 โซลูชั่น คือ 1.บริการรับทาสีอาคารทั้งระบบ 2.บริการติดตั้งระบบกันซึมดาดฟ้า หลังคา 3.บริการติดตั้งระบบกันซึมห้องน้ำและปูกระเบื้อง 4.บริการติดตั้งระบบกันซึมด้วยแผ่นยางชนิดไฟเป่า และแผ่นยางกันซึมชนิดมียางในตัว 5.บริการรับติดตั้งฝ้า เพดานและผนัง 6.บริการระบบพื้นโรงงานอุตสาหกรรม 7.บริการรับซ่อมพื้น ปรับระดับพื้นอีพ็อกซี่ พื้นพียู 8.บริการรับเหมางานฉาบปูนลอฟท์ ปูนฉาบขัดมันสำเร็จรูป
“WHO Service มาจาก Pain Point ในการหาช่างผู้รับเหมางานก่อสร้างและซ่อมแซมบ้านที่ไว้วางใจได้ของเจ้าของบ้าน ที่มักเกิดปัญหาเรื่องมาตรฐานการทำงาน ขาดความรับผิดชอบ ทิ้งงาน หรือราคาไม่ยุติธรรม เราจึงยกระดับบริการงานช่างมาตรฐานใหม่ผ่านบริการที่เรียกว่า WHO Service”
สำหรับ โมเดลธุรกิจ “MEGA PAINT & HOME” คือการพัฒนาร้านขายสีแบบดั้งเดิมให้กลายเป็น ศูนย์รวมวัสดุก่อสร้าง และบริการแบบครบวงจร พร้อมให้บริการครอบคลุมครบจบในที่เดียว ตั้งแต่ ผลิตภัณฑ์เคมีก่อสร้าง (ปูนกาวซีเมนต์ปูกระเบื้อง), แผ่นยิปซั่มบอร์ด (TOA Gypsum Board), ผลิตภัณฑ์สีตกแต่งผนังลอฟท์สำเร็จรูป (TOA Loft), ผลิตภัณฑ์สีทาอาคาร, ผลิตภัณฑ์งานไม้ (TOA Wood Expert), ผลิตภัณฑ์ Protective Coating, เครื่องผสมสีอัตโนมัติ (TOA Color World) และศูนย์บริการโซลูชั่นงานก่อสร้างและซ่อมแซมบ้าน (TOA Protect & Repair Center) ที่ปัจจุบันมีจำนวน 206 ศูนย์บริการ
จุดประสงค์หลักของ MEGA PAINT & HOME คือเพื่อให้ช่างผู้รับเหมาได้เข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพและครอบคลุม รวมถึงเจ้าของบ้านสามารถใช้บริการงานช่าง “WHO Service” ได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น โดยทีโอเอได้เข้าวางโซลูชั่นสำหรับการขายทั้งเรื่องผลิตภัณฑ์และบริการแบบครบวงจร รวมถึงเข้าไปช่วยวางแผนจัดการระบบต่างๆ ให้กับร้านค้า ตั้งแต่การออกแบบและตกแต่งร้าน ระบบจัดเรียงสินค้าที่เป็นหมวดหมู่ (Category Management), ระบบการจัดการคลังสินค้าที่ได้มาตรฐาน (Warehouse Management) ทั้งยังมี ศูนย์อบรมให้ความรู้ด้านผลิตภัณฑ์และการใช้งาน (Training Center) ให้แก่ช่างผู้รับเหมาและผู้ที่สนใจเข้าร่วมอีกด้วย” โดยในปี 2564 จะมี 3 สาขาแรกที่จะทำการเปิดอย่างเป็นทางการ ได้แก่ สาขาซิตี้ โฮมมาร์ท (บางบอน) เปิดเป็นสาขาแรก, สาขานวการ จ.ปทุมธานี, สาขาสมาร์ทเพ้นท์ (ถ.ราชพฤกษ์) ตามลำดับ
“โมเดลธุรกิจแพลตฟอร์มใหม่นี้ จะช่วยขับเคลื่อนกลยุทธ์หลักอย่าง Total Solution ของทีโอเอ พร้อมสร้าง Synergy ให้แก่ Product Line อื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และจะเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนและสร้างการเติบโตให้ทีโอเอ พร้อมกับการพลิกฟื้นของเศรษฐกิจไทยในปี 2564 ได้อย่างแน่นอน”
ทั้งหมดคือ Movement ของผู้นำตลาดสีทาอาคาร ที่ไม่ได้มีดีแค่สีทาอาคารแต่ยังเชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์กลุ่มอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับงานก่อสร้าง และพร้อมพัฒนาโซลูชั่นให้ครอบคลุมทุกโจทย์ความต้องการ รองรับทุกตลาดและทุกกลุ่มเป้าหมายและที่สำคัญ ยังคงครองความเป็น No.1 Brand ได้อย่างต่อเนื่องและยาวนานที่สุด