“แอมเวย์” ทุ่ม  1,000 ล้านบาทพลิกโฉมธุรกิจ เดินหน้าแผนพัฒนา Digital Ecosystem สร้างการทำธุรกิจ-ซื้อขายสินค้าผ่านออนไลน์เต็มรูปแบบ ตอบโจทย์ทุกคนในทุกสถานการณ์

แอมเวย์ประเทศไทย เดินหน้าลงทุนแผนพัฒนา Digital Ecosystem สร้างประสบการณ์การทำธุรกิจในรูปแบบออนไลน์อย่างครบวงจร ด้วยงบ 1,000 ล้านบาท ในช่วง 5 ปีแรก เพื่อเตรียมกรุยทางสู่ความสำเร็จของ 70 ปี แอมเวย์โลก (A70) ในปี 2029 โดยได้มีการพัฒนาช่องทางการซื้อขายผ่านออนไลน์แบบครบครัน ครอบคลุมทั้งนักธุรกิจแอมเวย์ สมาชิก และผู้บริโภค ให้สามารถทำธุรกิจ รวมถึงซื้อสินค้าได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น ตามแนวคิด 3 Easy คือ Easy Sharing, Easy Sponsoring และ Easy Shopping เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดี ไม่มีสะดุดให้กับทุกคน ตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้าน Social Commerce ที่พร้อมปรับเปลี่ยนและพัฒนาธุรกิจให้ตอบโจทย์ในทุกสถานการณ์

นายกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “โลกที่เปลี่ยนแปลงไปทุกวัน ทำให้ดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้ธุรกิจต้องปรับตัวให้ทันอยู่ตลอดเวลา และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่สร้างผลกระทบอย่างมากให้หลายภาคธุรกิจต้องหยุดชะงัก แอมเวย์เห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของการปรับใช้ดิจิทัลในธุรกิจ จึงทุ่มงบ 1,000 ล้านบาท สร้าง Digital Ecosystem เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจแอมเวย์ สมาชิก และผู้บริโภคทั่วไป ด้วยการพัฒนาและออกแบบช่องทางการซื้อขายสินค้าผ่าน Social Commerce ให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ง่ายขึ้นกับทุกคน ตามคอนเซ็ปต์ 3 Easy”

  • Easy Sharing พัฒนาฟังก์ชั่นการแชร์ลิงก์สินค้า โดยสามารถเลือกสินค้าที่ตรงกับความสนใจของแต่ละบุคคล แล้วแชร์ลิงก์รายการสินค้านั้นผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น LINE, Facebook หรือ zoom ซึ่งเพื่อนที่ได้รับลิงก์สามารถกดเข้าดูรายการสินค้า เลือกทำการชำระเงินได้ทันที และความพิเศษอีกขั้นคือการเปิดตัวโปรแกรม Friends of Amway (FOA) แชร์เฟรนด์ ช้อปฟิน ที่จะเพิ่มโอกาสให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงกลุ่มสินค้ายอดนิยมของแอมเวย์ ด้วยการซื้อผ่านลิงก์สินค้าที่ถูกแชร์นี้ โดยไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิก จะเห็นได้ว่าแค่เพียงปลายนิ้วคลิก ก็สามารถแชร์ประสบการณ์ที่ดีจากสินค้าแอมเวย์ได้ง่ายกว่าที่เคย
  • Easy Sponsoring เพิ่มความสามารถของระบบการทำธุรกิจให้ใช้งานได้ง่าย สะดวกและชัดเจน เช่น การเพิ่มช่องทางการสมัครสมาชิกแบบออนไลน์ โดยมีระบบการตรวจเช็คยืนยันตัวตนแบบปลอดภัยสูง ทำให้สามารถสมัครทำธุรกิจหรือเป็นสมาชิกได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้นภายใต้ความใส่ใจเรื่องจรรยาบรรณของธุรกิจเป็นสำคัญ หรือการสนับสนุนนักธุรกิจแอมเวย์ให้ทำงานได้สะดวกด้วยฟังก์ชั่นสมาร์ทแดชบอร์ด ที่สามารถดูยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ ดูรายงานข้อมูลผลงานขององค์กรสายงาน ศึกษาข้อมูลเพื่อพัฒนาแผนงานหรือประชุมทีมงานได้อย่างรวดเร็วทุกเมื่อที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมีแชทบอทที่ชาญฉลาดในการช่วยแก้ปัญหาเบื้องต้นให้กับผู้ซื้ออีกด้วย
  • Easy Shopping ซื้อสินค้าได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านเว็บไซต์ที่ได้รับการพัฒนาให้ใช้งานง่าย รวดเร็วและปลอดภัย หรือผ่านแอปพลิเคชัน Amway Click ที่รวบรวมทุกฟังก์ชั่นเด็ดมาไว้ในที่เดียว ได้แก่ การสั่งซื้อสินค้า การชำระเงิน การช่วยติดตามสต็อคสินค้า การแจ้งเตือนสถานะการจัดส่ง การดูยอดขายสะสมแต่ละเดือน การสะสมคะแนนเพื่อรับสิทธิพิเศษต่างๆ เป็นต้น

แม้ว่าแผนพัฒนา Digital Ecosystem นี้จะทำผ่าน 2 ช่องทางหลักคือ เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน แต่ แอมเวย์ก็ยังมองหาโอกาสที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับทุกคนมากยิ่งขึ้น ด้วยการขยายทางเลือกให้สามารถทำธุรกิจหรือซื้อสินค้าผ่านแอปพลิเคชัน LINE ที่ถือเป็นหนึ่งช่องทางการสื่อสารที่นิยมของผู้บริโภคชาวไทยในปัจจุบัน ซึ่งจะมีฟังก์ชั่นที่นิยมใช้เบื้องต้น เช่น ฟังก์ชั่นเตือนการต่ออายุสถานภาพ เตือนการเปลี่ยนอะไหล่ของสินค้า เช็คข้อมูลธุรกิจขององค์กร เช็คสิทธิพิเศษ ตลอดจนการรับข่าวสารโปรโมชันต่างๆ อีกด้วย

“การลงทุนของแอมเวย์ในครั้งนี้ เป็นการลงทุนที่เรามองเห็นถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในระยะยาวทั้งกับนักธุรกิจแอมเวย์ สมาชิก และผู้บริโภค โดยจากที่แอมเวย์ได้เริ่มพัฒนาแผนมาตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบันนี้แอมเวย์มียอดขายทางออนไลน์โตขึ้นถึง 3 เท่า นอกจากนั้นยังมียอดสมัครสมาชิกและจำนวนผู้ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์สูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงที่มีการจัดโปรโมชั่นพิเศษอย่าง Flash Sales หรือ Double Date พบว่า มีการซื้อผ่านทางช่องทางออนไลน์สูงอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นว่านักธุรกิจแอมเวย์และสมาชิกมีความพร้อมในการก้าวเข้าสู่โลก Social Commerce  ทั้งนี้ แอมเวย์จะยังคงพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อเน้นย้ำความเป็นผู้นำของธุรกิจยุคใหม่ที่สามารถตอบรับทุกเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง” นายกิจธวัชกล่าวทิ้งท้าย