ก้าวสู่ปีที่ 13 ในการผนึกกำลังเชิงกลยุทธ์ร่วมกับเอสเอพี เบทาโกร เดินหน้าขยายการใช้งานโซลูชั่น SAP® Ariba® เพื่อเปลี่ยนผ่านระบบการจัดซื้อจัดจ้างขององค์กรสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ ชุดโซลูชั่นนี้จะช่วยให้เบทาโกร สามารถปรับโฉมฟังก์ชั่นการจัดซื้อจัดจ้างพร้อมขับเคลื่อนการทำงานและการสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกับซัพพลายเออร์
เอสเอพี เอสอี (NYSE: SAP) เปิดเผยว่า เครือเบทาโกร หนึ่งในบริษัทด้านอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ได้ลงทุนต่อสัญญาการใช้โซลูชั่น SAP® Ariba® เพื่อพลิกโฉมให้กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของทั้งองค์กรมีความเป็นดิจิทัลมากขึ้น พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการจัดการค่าใช้จ่าย ทำให้องค์กรมีความพร้อมในการรับมือกับภาวะดิสรัปชั่นที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างเต็มศักยภาพ
เครือเบทาโกร ก่อตั้งขึ้นในปี 2510 และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาของประเทศไทยเป็นเวลากว่า 50 ปี และกำลังวางแผนที่จะขยายธุรกิจไปทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับเบทาโกร การจัดซื้อจัดจ้างได้กลายเป็นส่วนงานเชิงกลยุทธ์หลักขององค์กรที่สามารถช่วยสร้างมูลค่าและวางรากฐานสำหรับการเติบโตในอนาคต
จากการต่อสัญญาการใช้งาน SAP Ariba Strategic Sourcing Suite รวมถึงชุดโซลูชั่น SAP Ariba ที่จะนำมาเสริมทัพเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นโซลูชั่นด้านการจัดซื้อ การจัดการกระบวนการและประสิทธิภาพของซัพพลายเออร์ และการติดต่อซื้อขายผ่านระบบอัตโนมัติ เบทาโกรตั้งเป้าที่จะเพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดซื้อ ขณะเดียวกัน ยังต้องการมอบประสบการณ์เชิงบวกให้กับพนักงานและซัพพลายเออร์ที่มีอยู่ทั่วประเทศไทย รวมถึงในประเทศกัมพูชา ลาว และเมียนมาร์ อีกด้วย
ที่ผ่านมา สถานการณ์โควิด-19 ได้แสดงให้เห็นถึงพลังของนวัตกรรมอัจฉริยะที่เข้ามามีส่วนช่วยในการดำเนินการจัดซื้อภายในองค์กรของเบทาโกร ระบบแนะนำการจัดซื้อถือเป็นความสามารถหลักในโซลูชั่น SAP Ariba Buying ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานระบบของเบทาโกร ได้รับประสบการณ์การซื้อที่สะดวกสบายและลดความซับซ้อนในการซื้อสินค้าและบริการทางอ้อมบนแพลตฟอร์มที่ใช้งานจากที่ใดก็ได้ “เมื่อมีการเชื่อมต่อระบบแนะนำการจัดซื้อที่ดี พนักงานของเราก็จะสามารถจัดซื้อสิ่งที่พวกเขาต้องการอย่างง่ายดายผ่านอุปกรณ์ส่วนตัวหรือโทรศัพท์มือถือ โดยทำรายการตามนโยบายการจัดซื้อขององค์กร ภายใต้ลิสต์ซัพพลายเออร์ที่มีความน่าเชื่อถือและสามารถต่อรองราคาได้ นอกจากนี้ การออกใบสั่งซื้อและใบแจ้งหนี้ในรูปแบบดิจิทัล ยังเสริมการทำงานร่วมกันกับซัพพลายเออร์ได้ฉับไวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ความสามารถเหล่านี้ช่วยให้กระบวนการทำงานภายในองค์กรเดินหน้าไปได้อย่างคล่องตัว ช่วยลดต้นทุนจากระบบที่ทำงานแบบอัตโนมัติ มีมาตรฐาน ยกระดับการทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์ของเราให้ดีขึ้น”
“การลงทุนต่อสัญญาครั้งใหม่ในโซลูชั่น SAP Ariba ต่อยอดมาจากความสำเร็จของการร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในการปรับใช้เทคโนโลยีของ เอสเอพี มาอย่างยาวนาน ที่ผ่านมาจะเห็นว่าเราได้ปรับระบบการใช้จ่ายขององค์กรให้มีประสิทธิภาพโดยเน้นไปที่วัสดุทางอ้อม เราจึงวางแผนที่จะใช้โซลูชัน SAP Ariba เข้ามาจัดการการใช้จ่ายในวัสดุทางตรงด้วย ซึ่งจะช่วยให้เบทาโกร เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารสินค้าคงคลัง ต้นทุนวัตถุดิบ และศักยภาพการผลิตของเราได้” ดร.ถนอมวงศ์ กล่าวปิดท้าย