บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยผลประกอบการธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่มไตรมาส 3/2563-2564 มีรายได้รวม 2,602 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 20.8% ส่วนกำไรสุทธิรวม 162 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 95.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3/2562-2563 จากการปรับกลยุทธ์รุกตลาดทุกช่องทาง ควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง และบริหารงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจในช่วงเผชิญวิกฤตโควิด-19
นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานว่า “ในไตรมาสที่ 3 นี้ (1 เม.ย. – 30 มิ.ย. 2564) บริษัทสามารถสร้างผลประกอบการงวด 3 เดือนในไตรมาส 3/2563-2564 ได้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 2564) มีผลประกอบการของรายได้เติบโต เพิ่มขึ้นถึง 448 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 20.8 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 162 ล้านบาท ปรับตัวสูงขึ้น 79 ล้านบาท หรือ 95.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมาจากการปรับกลยุทธ์ เพื่อรุกตลาดทุกช่องทางฝ่าวิกฤตโควิด-19 ประกอบกับการควบคุมการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง”
ด้านธุรกิจอาหาร มีรายได้ 787 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 157 ล้านบาทหรือคิดเป็น 24.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทสามารถเพิ่มยอดขายจากรูปแบบการทานที่ร้าน (Dine-in) เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่มีการล็อคดาวน์จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้งจากช่องทางการขายแบบซื้อกลับบ้าน (Take-away) และช่องทางเดลิเวอรี่ (Home Delivery) ควบคู่กับการเสนอโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้า เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้ครอบคลุมทุกกลุ่มมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทยังได้มีการออกสินค้าใหม่ๆ เพื่อตอบรับเทรนด์และพฤติกรรมผู้โภคที่หันมาทำอาหารทานที่บ้านมากขึ้น ได้แก่ ผลิตภัณฑ์น้ำจิ้มและซอสปรุงรสสไตล์ญี่ปุ่นบรรจุขวดภายใต้แบรนด์โออิชิ เช่น น้ำจิ้มสุกี้ยากี้ ซอสโชยุ และซอสเทอริยากิ