สมาคมฟินเทคประเทศไทย จับมือ 10×1000 นำเสนอหลักสูตรด้านฟินเทคระดับโลก ให้กับผู้ประกอบการไทย
10X1000 Tech for Inclusion แพลตฟอร์มที่รวบรวมการอบรมและการเรียนรู้ด้านฟินเทคได้ประกาศความร่วมมือกับพันธมิตรผู้นำด้านฟินเทค นักลงทุน และอุตสาหกรรมด้านการเงินการลงทุนจากทั่วโลกเพื่อนำเสนอหลักสูตรที่จะให้องค์ความรู้ ให้แนวคิดเกี่ยวกับฟินเทคและได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงของผู้นำองค์กรระดับนานาชาติ
10X1000 ได้รับความร่วมมือจาก IFC หรือ International Finance Corporation หนึ่งในสมาชิกของ World Bank Group และ Alipay ในปี 2018 ร่วมนำเสนอหลักสูตรที่มีชื่อว่า “Flex” ตั้งเป้ารับสมัครผู้อบรมที่มีคุณสมบัติและผ่านการคัดเลือกเข้าจำนวน 1,000 รายจากทั่วโลก ซึ่งเตรียมเปิดการอบรมในเดือนตุลาคม 64 โดยหลักสูตรดังกล่าวนี้จะเป็นการเรียนการสอนออนไลน์เต็มรูปแบบ
ผู้เข้าอบรม 1,000 รายชื่อจากทั่วโลกในหลักสูตร Flex จะมาจากการคัดเลือกของกลุ่มพันธมิตร เช่น IFC, United Nations Development Programme, United Nations Economic Commission of Africa, SME Final Forum, Dubai International Financial Centre, Malaysia Digital Economy Corporation, KPMG และสมาคมฟินเทค แห่งฮ่องกง มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และ ประเทศไทย
นายชลเดช เขมะรัตนา นายกสมาคมฟินเทคประเทศไทย (TFA) กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรจากทั่วโลก ในการนำเสนอหลักสูตรของ 10X1000 และเชื่อว่าการพัฒนาอุตสาหกรรมฟินเทคในประเทศไทย จะสามารถทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยในปัจจุบัน ประเทศไทยยังมีบุคลากรด้านฟินเทคอยู่ในวงที่จำกัดมาก ดังนั้น ความร่วมมือในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสดีในการสร้างรากฐานความรู้ด้านฟินเทคให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ผ่านการเรียนรูปแบบออนไลน์โดยตรงกับผู้เชี่ยวชาญด้านฟินเทคระดับสากล ซึ่งเป้าหมายของ 10×1000 นั้น ตรงกับเป้าหมายและแผนงานที่ TFA ได้วางไว้ ในเรื่องการเสริมความรู้ด้านฟินเทค ทั้งในระดับพื้นฐาน และเชิงลึกให้ครอบคลุมมากที่สุด จึงถือได้ว่าการร่วมมือในครั้งนี้เป็นการนำร่องในการพัฒนาความรู้ด้านฟินเทคให้แก่คนไทย ก่อนที่จะก้าวไปเรียนรู้ด้านฟินเทคในเชิงปฏิบัติการจากประสบการณ์จริง ซึ่ง TFA มีแผนที่จะเปิดตัวหลักสูตรในช่วงต้นปี 2565 หากสถานการณ์โควิดมีแนวโน้มที่ดีขึ้น
หลักสูตร Flex เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานด้านฟินเทค หรืออยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมนี้มาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี ความพิเศษของหลักสูตรนี้คือการได้เรียนกับตัวจริงระดับโลก เน้นสอนผ่าน Case Study ด้วยการเชิญผู้นำในองค์กรด้านการเงินและเทคโนโลยี ที่ประสบความสำเร็จมาแบ่งปันความรู้ด้านฟินเทค ผ่านการเรียนที่ค่อนข้างยืดหยุ่นต่อผู้เรียน เพราะเป็นการเรียนรูปแบบออนไลน์ที่ผู้เรียนสามารถเลือกได้ว่าต้องการเริ่มเรียนในช่วงไหน ระหว่าง 11 ตุลาคม 64, 25 ตุลาคม 64, 1 พฤศจิกายน 64 หรือ 8 พฤศจิกายน 64 โดยจะเรียนในวันเวลาไหนก็ได้ แต่ต้องเรียนผ่านวีดีโอ 8 บทเรียน และทำแบบทดสอบ 3 ชุด ให้เสร็จภายใน 3 สัปดาห์ เพื่อรับ Certificate ของหลักสูตร ซึ่งในโปรแกรมจะเรียนเป็นภาษาอังกฤษ และภายในเนื้อหาจะครอบคลุมทั้งในเรื่องเทคโนโลยีและการเงิน รวมไปถึงกลยุทธ์การต่อยอดและขยายธุรกิจด้วย โดยการเรียนจะเน้นให้ผู้เรียนมี Mindset ที่ถูกต้อง มีความรู้ และได้ฝึกทักษะที่จำเป็นด้านฟินเทค เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำไปปรับใช้และต่อยอดกับธุรกิจของตนเองได้
Eric Jing ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Ant Group เจ้าของแพลตฟอร์มด้านการเงิน Alipay กล่าวว่ารู้สึกยินดีที่ได้ร่วมมือกับสมาคมฟินเทคประเทศไทย เพื่อให้ 10×1000 เติบโตไปอีกก้าวหนึ่งผ่านการร่วมมือกันในครั้งนี้ โดยเราตั้งเป้าหมายร่วมกันลดช่องว่างทางความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัล หรือ Digital Skills Gap ในประเทศไทย โดย 10×1000 นั้นมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างบุคลากรและผู้นำด้านเทคโนโลยีและการเงิน ปีละ 1,000 คน เป็นเวลา 10 ปี เพื่อบรรลุเป้าหมายด้าน SDGs หรือการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN) ทั้งในเรื่องการศึกษา การส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการลดความเหลื่อมล้ำ โดยเรามั่นใจว่าผู้ที่จบหลักสูตร Flex ของ 10×1000 จะสามารถนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้และพัฒนาระบบนิเวศน์ด้านการเงิน และฟินเทคในประเทศของตนเองได้ ซึ่งถ้าทำได้ดังนี้จริงก็จะช่วยให้ 10×1000 สามารถเข้าใกล้เป้าหมายด้าน SDGs ได้มากขึ้นเช่นกัน
ชลเดช ทิ้งท้ายว่า สมาคมฟินเทคประเทศไทย จะคัดเลือกผู้เรียนจากผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุด 100 ที่นั่ง ซึ่งจะเลือกจากรายชื่อผู้สมัครที่เป็นสมาชิกของ สมาคมฟินเทคประเทศไทย และต้องมีประสบการณ์ที่เกี่ยวกับฟินเทคหรือสาขาที่เกี่ยวข้องมาเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 ปี โดยวางแผนเปิดรับสมัครในวันที่ 20 กันยายน 64 – 4 ตุลาคม 2564 ผ่านทาง www.thaifintech.org และประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าเรียนในวันที่ 8 ตุลาคม 64 ผ่านทางอีเมลที่สมัครมา ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://thaifintech.org