ปรับเกณฑ์ใหม่อีกรอบก่อนสิ้นปีช่วยคนเป็นหนี้เสียบัตร ก่อน 1 ต.ค. 64 สมัครเข้าร่วมโครงการได้ พร้อมขยายเวลาเปิดให้บริการทุกวัน 9 โมงเช้าถึง 1 ทุ่ม
นายธรัฐพร เตชะกิจขจร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยว่า “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” ขยายเกณฑ์คุณสมบัติผู้เป็นหนี้เสีย (NPL) บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันของธนาคารพาณิชย์และผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน (Non-Bank) ที่สนใจสมัครเข้าร่วม “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” จาก เดิม ที่ต้องมีสถานะเป็นหนี้เสีย (NPL) ก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เป็น ก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2564 (ตามรายงานเครดิตบูโร ณ เดือนกันยายน 2564 ต้องมีสถานะค้างชำระ 91-120 วันขึ้นไป) โดยมีผลตั้งแต่ 17 พฤศจิกายน 2564 ตามมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หลังจาก ได้ออกมาตรการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของลูกค้าที่เป็นหนี้เสียบัตรมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้แก่ มาตรการที่ 1. การต่ออายุมาตรการยาแรงระยะที่ 3 “จ่ายเท่าที่ไหว” ไปจนถึงเดือนธันวาคม 2564 โดยลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่จะได้รับส่วนลดดอกเบี้ย 1-2% (เงื่อนไขเป็นไปตามที่โครงการกำหนด) มาตรการที่ 2. การปรับเกณฑ์ด้านอายุจากเดิมไม่เกิน 65 ปีเป็นอายุ 70 ปี โดยนับรวมระยะเวลาปรับโครงสร้างหนี้แล้ว และมาตรการที่ 3. การปรับอัตราดอกเบี้ยจากเดิม 4-7% เป็นอัตราเดียว (Single Rate) ที่ 5%
สรุปคุณสมบัติสำหรับผู้สนใจสมัครเข้าร่วม “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” ตามมาตรการล่าสุดของ ธปท. มีดังนี้ คือ 1. เป็นบุคคลธรรมดาที่มีรายได้ 2. อายุไม่เกิน 70 ปี 3. มียอดหนี้บัตรรวมกันไม่เกิน 2 ล้านบาท 4. เป็นหนี้เสียก่อน 1 ตุลาคม 2564 และเพื่อความรวดเร็วในการพิจารณาผลการสมัคร ตามแนวคิด “เอกสารครบ-จบไว” ควรเตรียมเอกสารสำคัญประกอบการสมัคร ดังนี้ 1. สำเนาบัตรประชาชน 2. สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 1 เดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน (กรณีผู้มีรายได้ประจำ) / รายการเดินบัญชี (Statement) อย่างน้อย 3 เดือน หรือหนังสือรับรองรายได้ (กรณีอาชีพอิสระ) 3. เอกสารรายงานเครดิตบูโร โดยขณะนี้ ลูกค้า คลินิกแก้หนี้ by SAM และประชาชนทั่วไปสามารถมาตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเองและรับรายงานผลได้ทันทีที่สำนักงาน “คลินิกแก้หนี้ by SAM”