การเคหะแห่งชาติร่วมกับกระทรวง พม. มอบความสุขปีใหม่ 2565 เน้นสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ชุมชน
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานการแถลงข่าว “ของขวัญปีใหม่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำหรับประชาชน ปี 2565” โดย นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวมอบของขวัญปีใหม่ของการเคหะแห่งชาติภายใต้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ด้วย ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการให้ประชาชนมีความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมาต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง จึงมอบหมายให้ทุกหน่วยงานมอบของขวัญที่ส่งเสริมความมั่นคงในชีวิตให้กับประชาชน นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม. มอบของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีความสุขและเป็นของขวัญที่ยั่งยืน ภายใต้แนวคิดการสร้างอาชีพภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจะต้องกลับมามีรายได้ มีอาชีพที่ยั่งยืน เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้ ด้วยการสร้างอาชีพใหม่ ๆ ให้กับประชาชนทุกช่วงวัย สามารถมีอาชีพที่ช่วยเหลือตัวเองได้ การเคหะแห่งชาติจึงร่วมมอบของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนในนามกระทรวง พม. ประกอบด้วย
ของขวัญชิ้นที่ 1 สร้างอาชีพ “ช่างชุมชน” ให้ผู้อยู่อาศัยในชุมชนของการเคหะแห่งชาติ โดยจะเปิดอบรมหลักสูตร “ช่างชุมชน” ทั้งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รับหลักสูตรละ 250 คน รวม 1,000 คน มี 4 หลักสูตร ได้แก่ ช่างล้างและบำรุงเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน ช่างซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า ช่างบํารุงรักษาจักรยานยนต์ และช่างเดินท่อและติดตั้งสุขภัณฑ์ ทั้ง 4 อาชีพนี้สามารถสร้างรายได้ต่อครั้งไม่น้อยกว่า 300 บาท ในการรับบริการให้แก่ผู้อยู่อาศัยในโครงการของตนเอง และต่อยอดไปถึงการรับงานจากภายนอกชุมชน และหากมีการพัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่อง ก็จะสามารถทำเป็นอาชีพหลักได้ ซึ่งก็จะทำให้ผู้อยู่อาศัยมีรายได้ที่มั่นคง สามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้อย่างยั่งยืน
ของขวัญชิ้นที่ 2 “นักประเมินมูลค่าทรัพย์สินมืออาชีพรุ่นใหม่” การเคหะแห่งชาติจะบูรณาการความร่วมกับสมาคมผู้ประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย และสมาคมนักประเมินอิสระไทย จัดอบรมพัฒนาทักษะวิธีการประเมินทรัพย์สินระบบออนไลน์ จำนวน 4 รุ่น ๆ ละ 250 คน รวม 1,000 คน สำหรับกลุ่มเป้าหมายคือผู้อยู่อาศัยในโครงการของการเคหะแห่งชาติ ที่ต้องการเป็นผู้ประเมินหลัก รวมถึงประชาชนทั่วไปต้องการทำงานในสายอาชีพนักประเมิน นายหน้าอาชีพ นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ อาชีพนี้จะทำให้ผู้เข้าอบรมมีองค์ความรู้เรื่องการประเมินทรัพย์สินตาม พรบ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งสอบเป็นนักประเมินทรัพย์สิน สามารถประเมินทรัพย์สินของตนเองและทรัพย์สินของผู้อื่นได้ หากสอบผ่านจะสามารถประกอบอาชีพนักประเมินได้ด้วย
ส่วนของขวัญชิ้นที่ 3 “บ้านเช่าพร้อมอาชีพในโครงการบ้านเคหะสุขประชา” เป็นอาชีพที่จะเกิดขึ้นในโครงการบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุงและร่มเกล้า ได้แก่ โครงการบ้านสุขประชาฉลองกรุง จะมีการจัดทำตลาดสด 302 แผง พื้นที่ 6.09 ไร่ กำหนดอัตราค่าเช่า 100 บาท/แผง/วัน โดยจัดให้มีการอบรมให้ความรู้วิธีการค้าขาย รวมทั้งจัดหาแหล่งเงินทุนในการค้าขาย และหากผู้อยู่อาศัยต้องการประกอบอาชีพอื่น ๆ ภายในโครงการ เช่น งานบริการอื่น ๆ สามารถดำเนินการได้ตามต้องการ โครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า จะมีการจัดทำศูนย์การค้าขนาดเล็ก (Community Mall) พื้นที่ 10 ไร่ โดยจัดพื้นที่ค้าขายภายในศูนย์การค้า กำหนดอัตราค่าเช่า 200 บาท/ล็อค/วัน (ขนาด 2×2 ตร.ม.) ซึ่งแบ่งพื้นที่ออกเป็น ตลาด/ร้านอาหารและ Super Market พื้นที่กิจกรรมชุมชน สำนักงาน และที่จอดรถ นอกจากนี้ยังมีอาชีพพนักงานบริการภายในศูนย์การค้า กำหนดรายได้ตามอัตราค่าแรงขั้นต่ำตามที่กระทรวงแรงงานกำหนด
“สำหรับในปี 2565 ที่จะถึงนี้ แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะคลี่คลายลง แต่ทุกคนยังคงต้องระมัดระวังตัว และวางตนอยู่ในความไม่ประมาท เพื่อสร้างความพร้อมให้กับตนเองในการเดินหน้า สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างความมั่นคงให้กับตนเองและครอบครัวต่อไป” นายทวีพงษ์ กล่าวในที่สุด