สมาคมประกันชีวิตไทย ร่วมแสดงความยินดีและมอบรางวัล “ตัวแทนคุณภาพดีเด่นแห่งชาติ ครั้งที่ 38 ประจำปี 2564” หรือ 38th THAILAND NATIONAL QUALITY AWARDS (38th TNQA) เพื่อเชิดชูเกียรติตัวแทนประกันชีวิตที่มีคุณภาพดีเด่น สามารถผลิตผลงานได้ตามเกณฑ์ จำนวน 2,085 ราย
นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ อุปนายกฝ่ายการตลาด สมาคมประกันชีวิตไทย ประธานการจัดงานพิธีมอบรางวัลตัวแทนคุณภาพดีเด่นแห่งชาติ ครั้งที่ 38 ประจำปี 2564 (THAILAND NATIONAL QUALITY AWARDS (38th TNQA) เปิดเผยว่า สมาคมประกันชีวิตไทยขอแสดงความยินดีกับตัวแทนคุณภาพดีเด่นแห่งชาติ ทั้ง 2,085 ราย พร้อมทั้งขอขอบคุณที่ได้สร้างผลงานคุณภาพตามเกณฑ์ ทั้งเบี้ยประกันภัยรับและการบริหารที่เป็นเลิศ สามารถรักษาอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ประกันชีวิตไว้ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ตลอดจนมีความภักดีต่อองค์กรต้นสังกัด หากแต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) ที่ยังคงเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่องทุกวัน ทำให้การจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มบุคคลจำนวนมากเป็นเรื่องที่ควรหลีกเลี่ยง
อย่างไรก็ตามสมาคมประกันชีวิตไทยยังคงให้ความสำคัญต่อการเชิดชูเกียรติของบุคลากรฝ่ายขาย ดังนั้นในปีนี้ สมาคมจึงได้ปรับเปลี่ยนวิธีการเชิดชูเกียรติคุณให้กับตัวแทนประกันชีวิตที่ได้รับรางวัลตัวแทนคุณภาพดีเด่นแห่งชาติ (THAILAND NATIONAL QUALITY AWARDS) มาเป็นการจัดงานแบบโลกเสมือนจริง (Virtual Event) ซึ่งได้มีการจัดทำวิดีทัศน์เชิดชูเกียรติ สร้างขวัญและกำลังใจให้กับตัวแทนประกันชีวิตที่ผ่านเกณฑ์การผลิตผลงานที่มีคุณภาพและมีการบริการที่เป็นเลิศ และมีความภักดีต่อบริษัทที่เป็นต้นสังกัด ซึ่งจะเผยแพร่ในวันที่ 14 มกราคม 2565 ผ่านช่องทางเว็บไซต์, Facebook, Youtube ของสมาคมประกันชีวิตไทย โดยได้รับเกียรติจากนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และนายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย ร่วมกล่าวแสดงความยินดี สำหรับการมอบรางวัลทางสมาคมประกันชีวิตไทยได้ส่งมอบโล่รางวัล เกียรติบัตร และเข็มที่ระลึก ให้กับบริษัทต้นสังกัดเป็นผู้ดำเนินการมอบแก่ตัวแทนประกันชีวิตของตนต่อไป
ซึ่งในปี 2564 นี้ มีตัวแทนประกันชีวิตที่ผลงานผ่านเกณฑ์ทั้งสิ้น 2,085 ราย จาก 15 บริษัทสมาชิก โดยรางวัลเกียรติยศสูงสุดคือ รางวัลโล่ตัวแทนคุณภาพดีเด่นกิตติคุณ 20 ปี พร้อมเกียรติบัตร ซึ่งปีนี้มีผู้พิชิตรางวัลนี้ได้ถึง 4 ราย ได้แก่ คุณภูเบศ ภวัตพิบูล บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) , คุณอาภาพร บุรีศรี บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) , คุณสมบัตร์ ทิมจิต บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และคุณสุริศา ไตรภูมิสุทธิ บริษัท เอไอเอ จำกัด รางวัลโล่ตัวแทนคุณภาพดีเด่นกิตติคุณ 15 ปี พร้อมเกียรติบัตร จำนวน 11 ราย รางวัลโล่ตัวแทนคุณภาพดีเด่นกิตติคุณ 10 ปี พร้อมเกียรติบัตร จำนวน 38 ราย รางวัลโล่เกียรติคุณพร้อมเกียรติบัตร จำนวน 67 ราย และรางวัลเกียรติบัตรจำนวน 1,965 ราย โดยมีตัวแทนประกันชีวิตที่มีผลงานผ่านเกณฑ์ แยกรายบริษัทประกันชีวิต ดังนี้
- บริษัท เอไอเอ จำกัด จำนวน 1,094 ราย
- บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน 212 ราย
- บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน 193 ราย
- บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน 134 ราย
- บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน 101 ราย
- บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน 69 ราย
- บริษัท ชับบ์ ไลฟ์ แอสชัวรันซ์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 63 ราย
- บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน 63 ราย
- บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน 49 ราย
- บริษัท โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จำนวน 45 ราย
- บริษัท ฟิลลิปประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน 34 ราย
- บริษัท อาคเนย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน 21 ราย
- บริษัท ไทยซัมซุงประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน 4 ราย
- บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จำนวน 2 ราย
- บริษัท เจนเนอราลี่ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 ราย
นางนุสรา กล่าวเพิ่มเติมว่า “ตัวแทนประกันชีวิตนับเป็นฟันเฟืองสำคัญที่มีผลต่อการเติบโตของภาพรวมธุรกิจประกันชีวิต โดยเมื่อสิ้นปี 2563 ช่องทางตัวแทนประกันชีวิตสามารถผลิตเบี้ยประกันภัยรับรวมได้ถึง 320,348.61 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนทางการตลาดที่สูงถึงร้อยละ 53.37 ซึ่งเบี้ยประกันภัยที่ปรากฎนั้นล้วนเกิดจากการทำงานที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพและความเป็นมืออาชีพ ที่นอกจากจะต้องมีทักษะประสบการณ์และความรู้ความสามารถในการทำงานตามภาระหน้าที่แล้ว ยังรวมถึงความสามารถในการทำให้ประชาชนเข้าใจประกันชีวิตและหันมาวางแผนทางการเงินโดยใช้การประกันชีวิตเพื่อปกป้องความเสี่ยงในทุกจังหวะของชีวิต แม้ว่าในปัจจุบันระบบดิจิทัลจะเข้ามามีบทบาทกับธุรกิจประกันชีวิตมากเพียงใด แต่ธุรกิจประกันชีวิตยังจำเป็นต้องอาศัยคนกลางที่จะมาเป็นผู้อธิบายเงื่อนไขและเอกสิทธิ์ตามกรมธรรม์ให้ลูกค้าเข้าใจได้ง่ายขึ้น พร้อมคอยอำนวยความสะดวก ส่งมอบการบริการที่เป็นเลิศเมื่อลูกค้าต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจประกันชีวิตที่จะทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นและไว้วางใจ”