‘เจนเนอราลี่ กรุ๊ป’ เผยความสำเร็จของธุรกิจในปี 2021 โตต่อเนื่อง ผลจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ วิกฤตโควิด-19 ส่งผลให้คนหันมาใส่ใจสุขภาพและการวางแผนชีวิตมากขึ้น พร้อมเผยเป็นปีทองสร้างหลายผลงานสุดยิ่งใหญ่ ทั้งการกวาดซื้อหุ้นคืน 500 ล้านยูโรเสร็จสมบูรณ์ครั้งแรกในรอบ 15 ปี การสร้างงบดุลที่แข็งแกร่งหนี้สินลดลง การมอบผลตอบแทนผู้ถือหุ้นรวม 111% เตรียมเดินหน้าธุรกิจ ปรับกลยุทธ์ Lifetime Partner สู่การเป็น “Lifetime Partner 24: Driving Growth” ชู 3 สามเสาหลัก ขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วย เพิ่มอัตราผลตอบแทน และเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม
สำหรับกลยุทธ์ทางธุรกิจในอีก 3 ปีจากนี้ (2022-2024) เจนเนอราลี่ กรุ๊ป ได้เตรียมต่อยอดกลยุทธ์ Lifetime Partner สู่การเป็น “Lifetime Partner 24: Driving Growth” โดยแบ่งแนวทางการดำเนินงานออกเป็น 3 หลักใหญ่ ๆ คือ ขับเคลื่อนเพื่อเติบโตอย่างยั่งยืน (Drive sustainable growth) ด้วยการตั้งเป้าอัตราการเติบโตของบริการประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ (non-motor) อีกกว่า 4% และภายในปี 2024 ต้องมีมูลค่าทางธุรกิจใหม่รวมกว่า 8.6-9.4 หมื่นล้านบาท (2.3-2.5 พันล้านยูโร) แนวทางต่อมาคือ การเพิ่มอัตราผลตอบแทน (Enhance earnings profile) ด้วยแนวคิดการขับเคลื่อนธุรกิจที่มีการเติบโตเพื่อสร้างผลกำไร รวมถึงการควบรวมกิจการประเภทประกันภัยและการจัดการสินทรัพย์ โดยตั้งเป้าในมูลค่า 0.94-1.12 แสนล้านบาท (2.5-3 พันล้านยูโร) และทำการเพิ่มมูลค่าในการบริหารสินทรัพย์ของกลุ่มบุคคลที่ 3 จำนวน 3.7 พันล้านบาท (100 ล้านยูโร) สุดท้ายคือ การนำนวัตกรรมมาใช้ (Lead innovation) ซึ่งเจนเนอราลี่ กรุ๊ป เตรียมงบประมาณสำหรับลงทุนด้านเทคโนโลยี 4.1 หมื่นล้านบาท (1.1 พันล้านยูโร) ในปี 2022-2024 เพิ่มขึ้นจากปี 2021 กว่า 60% อีกทั้งยังเตรียมงบประมาณอีกกว่า 9.4 พันล้านบาท (250 ล้านยูโร) สำหรับการสร้างแพลตฟอร์มกองทุนประกันเพื่อควบคุมและสร้างโอกาสที่ดีทางธุรกิจ
นอกจากนี้เจนเนอราลี่ยังมีอีกสองส่วนสำคัญที่มุ่งเน้นให้เกิดขึ้น คือ การสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างมั่นคงด้วยแนวคิดการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืนมาปรับใช้ในกระบวนการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจ ซึ่งมีองค์ประกอบ 3 มิติ คือ “ESG” ได้แก่ Environment : การให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม Social : การเห็นความสำคัญของสังคม และ Governance : ธรรมาภิบาลหรือบรรษัทภิบาล และดำเนินการตามพันธกิจในฐานะสมาชิกของ Net-Zero Asset Owner Alliance (NZIA) เพื่อสร้างการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน และการสร้างการมีส่วนร่วมและพัฒนาบุคลากรซึ่งเป็นสินทรัพย์หลัก เพื่อให้บุคลากรมีส่วนในการสร้างความสำเร็จตามแผนงานที่วางไว้ รวมถึงการส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่ยั่งยืน และมุ่งเน้นการเสริมสร้างวัฒนธรรมที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางและมีคุณธรรม ไปพร้อมกับการเพิ่มทักษะ (Upskill) 70% ของพนักงานในด้านดิจิทัลและกลยุทธ์ใหม่ ๆ ภายในปี 2024 นอกจากนี้จะยังคงสนับสนุนความเทียมกัน โดยเฉพาะการตั้งเป้าที่จะมีผู้หญิงอยู่ในตำแหน่งผู้นำ 40% พร้อมเปิดรับรูปแบบการทำงานแบบไฮบริดที่ยั่งยืนและสมดุลในรูปแบบใหม่ในทุกส่วนงาน เพื่อให้สำคัญกับพนักงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในยุค “Next Normal”