ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชนหลายแขนง โดยระบุว่า อู่ซ่อมรถยนต์ส่วนใหญ่ ปฏิเสธรับซ่อมรถยนต์จากบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2565 ไปจนกว่าจะมีความชัดเจนจากบริษัทฯ ซึ่งอู่ซ่อมรถยนต์ระบุเหตุผลว่า เนื่องจากอู่จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถยนต์เองทั้งหมด และต้องไปทำการตั้งเบิกในภายหลัง โดยมีความกังวลว่าจะไม่สามารถเบิกค่าซ่อมรถยนต์จากบริษัท อาคเนย์ฯ ได้ หรือให้ผู้เอาประกันภัยชำระค่าซ่อมไปก่อนแล้วนำเอกสารไปตั้งเบิกกับบริษัท อาคเนย์ฯ ในภายหลัง
เพื่อมิให้ประชาชนผู้เอาประกันภัยได้รับผลกระทบและเดือดร้อนสำนักงาน คปภ. ได้ติดตามสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิดเพื่อหาแนวทางแก้ไข โดยเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 เลขาธิการ คปภ. ได้มอบหมายให้ นายชัยยุทธ มังศรี รองเลขาธิการ ด้านกฎหมาย คดี และคุ้มครองสิทธิประโยชน์ เป็นประธานในการประชุมหารือกรณีอู่ซ่อมรถยนต์ในเครือของบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ปฏิเสธการจัดซ่อมรถยนต์ของผู้เอาประกันภัย ผ่านระบบ Microsoft Teams โดยมี นายโสรัจจ์ แรกสกุลชัย ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงาน คปภ. นายชยพล หมื่นแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายประเมินราคา บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) นายศุภกร ลีภัทรวรกุล นายกสมาคมอู่กลางการประกันภัย ดร. ธีระพงศ์ ธนเจริญรัตน์ เลขาธิการสมาคมอู่กลางการประกันภัย นางภัณฑิรา จงปิติทรัพย์ นายกสมาคมการซ่อมรถยนต์แห่งประเทศไทย และนางสาวกัลยา จุกหอม ผู้แทนสมาคมประกันวินาศภัยไทย เข้าร่วมประชุมด้วย
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีข้อสรุปร่วมกันระหว่างผู้แทนจากอู่ซ่อมรถยนต์ กับบริษัท อาคเนย์ฯ ดังนี้ 1. ให้มีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องระหว่างบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) สมาคมอู่กลางการประกันภัย และสมาคมการซ่อมรถยนต์แห่งประเทศไทย เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาให้กับผู้เอาประกันภัยที่นำรถเข้าซ่อม 2. ให้บริษัท อาคเนย์ฯ แจ้งอู่ในเครือของบริษัทฯ ให้รับทราบเกี่ยวกับแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับอู่ซ่อมรถยนต์และผู้เอาประกันภัย และ 3. ให้บริษัท อาคเนย์ฯ เพิ่มการประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ซึ่งทางสำนักงาน คปภ. ได้กำชับให้บริษัทฯ ดำเนินการตามแนวทางของที่ประชุมอย่างเคร่งครัด เพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อผู้เอาประกันภัย โดยให้รายงานความคืบหน้าต่อสำนักงาน คปภ. โดยเร็ว