มั่นใจเปิดประเทศ “สมุย” ยังเป็นจุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยว เตรียมกลับมาบินเส้นทางเมืองท่องเที่ยว คาดปลายปีกลับมาเปิดมัลดีฟส์ พร้อมเปิดไฮไลท์พันธมิตรทางการตลาดปี 65
บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส นำโดย นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ นายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสสายงานการเงินและบัญชี นายจุลิน กอเจริญ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายขาย และ รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการตลาด จัดแถลงข่าว “แผนและทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2565 ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส” โดยคาดว่าปี 2565 จะมีจำนวนผู้โดยสาร 2.6 ล้านคน เที่ยวบินกว่า 3.4 หมื่นเที่ยวบิน และรายได้ผู้โดยสารรวม 8,175 ล้านบาท พร้อมกลับมาเปิดเส้นทางบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ
ในปี 2565 คาดว่าธุรกิจการบินจะฟื้นตัวประมาณ 40% หลังจากอัตราการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดโควิด-19 ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยเส้นทางบินที่จะเปิดเพิ่มเติมในปี 2565 ได้แก่ กรุงเทพฯ-กระบี่ ซึ่งจะเปิดให้บริการในวันที่ 27 มีนาคม 2565 ส่วนในไตรมาสที่ 3 ได้แก่ เส้นทางการบินสมุย–เชียงใหม่ สมุย-ฮ่องกง กรุงเทพฯ-เสียมราฐ ขณะที่ไตรมาสที่ 4 จะเปิดเส้นทางบิน เชียงใหม่-กระบี่ (เที่ยวเดียว) เชียงใหม่-ภูเก็ต (เที่ยวเดียว) สมุย-กระบี่ กรุงเทพฯ–ดานัง กรุงเทพฯ – หลวงพระบาง กรุงเทพฯ ย่างกุ้ง และ กรุงเทพฯ– มัลดีฟส์ อย่างไรก็ตาม การกลับมาเปิดให้บริการเส้นทางบินต่าง ๆ นั้น ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการเดินทางของนักท่องเที่ยว มาตรการการเดินทางของแต่ละประเทศ และการควบคุมสถานการณ์โควิด–19 ที่อาจยังไม่คลี่คลาย”
นายพุฒิพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปัจจุบัน บริษัทฯ มีเครื่องบินจำนวน 37 ลำ โดยแผนการบริหารฝูงบินโดยภายในสิ้นปี 2565 จะมีเครื่องบินในฝูงบินทั้งสิ้น 30 ลำ โดยจะทยอยคืน Airbus A320 จำนวน 5 ลำ ซึ่งครบกำหนดสัญญาแล้ว รวมถึงจำหน่ายเครื่องบิน ATR72-500 อีกจำนวน 2 ลำ นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ยกระดับมาตรฐานด้านการซ่อมบำรุง โดยได้รับใบรับรองหน่วยซ่อม ซึ่งผ่านการตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ วิธีการและมาตรฐาน ตามข้อกำหนดใหม่ของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย โดยพัฒนาขีดความสามารถในการซ่อมบำรุงอากาศยานแบบ Airbus และ ATR ทั้งในระดับ Base Maintenance และ Line Maintenance สำหรับในปี 2565 บริษัทฯ ได้คาดการณ์ว่าจะมีจำนวนผู้โดยสาร 2.6 ล้านคน ตั้งเป้ารายได้ผู้โดยสาร 8,175 ล้านบาท รวมเที่ยวบินกว่า 3.4 หมื่นเที่ยวบิน มีอัตราการขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ 65% และราคาบัตรโดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวคาดว่าจะอยู่ที่ 3,100 บาทต่อเที่ยว
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนในการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย โดยเน้นประเด็นที่สำคัญ ได้แก่ ลดเครื่องบินเช่าดำเนินงานเมื่อหมดอายุสัญญาจำนวน 5 ลำ ในปี 2565 ปรับเส้นทางบินให้ตรงกับความต้องการในการเดินทางโดยเน้นเส้นทางบินที่เชื่อมต่อสนามบินสมุย การได้รับการปรับลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับสนามบิน การจัดการด้านบุคลากรให้เหมาะสม การรักษาสภาพคล่องทางการเงิน การรักษาประสิทธิภาพยานพาหนะเพื่อลดค่าใช้จ่าย เช่น การบำรุงรักษา ตลอดจนการได้รับมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ อาทิ ในด้านภาษี
ส่วนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสนามบิน ในปี 2564 บริษัท ครัวการบินกรุงเทพ มีรายได้อยู่ที่ 119.5 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 61 เนื่องจากมีจำนวนเที่ยวบินที่สนามบินสุวรรรณภูมิและสนามบินภูเก็ตลดลง บริษัท ภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ไลด์ไฟล์ทเซอร์วิส จำกัด มีรายได้ 1,122.1 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 18 ทั้งนี้มีการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายจึงทำให้มีกำไรอยู่ที่ 237 ล้านบาท
ขณะที่บริษัท ดับบลิวเอฟเอสพีจี คาร์โก้ จำกัด มีรายได้ในปี 2564 อยู่ที่ 2,140.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 รายได้ที่เติบโตดังกล่าวมาจากอัตราการใช้บริการคลังสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น”
อีกช่องทางหนึ่งที่มุ่งเน้นมากในปีนี้คือช่องทาง API ผ่านโครงข่าย NDC และ metasearch เป็นหลัก เพราะเป็นโครงข่ายที่ช่วยให้บริษัทฯ ขยายช่องทางการเข้าถึงลูกค้าได้ครอบคลุมทุกกลุ่มทุกที่ทุกเวลาทั่วโลก ช่องทาง API เชื่อมต่อการเข้าถึงข้อมูลของเรา ทำให้การจัดจำหน่ายผ่าน OTA เป็นเรื่องง่ายและลดต้นทุนในการจัดจำหน่าย โดยขณะนี้ OTA หลักๆ เหล่านี้ได้เชื่อมต่อกับระบบสำรองที่นั่งของสายการบินฯ เรียบร้อยแล้ว รวมถึง metasearch engine หลักทั้ง SkyScanner and Google นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงมีความตั้งใจให้ผลิตภัณฑ์และการบริการไปอยู่ในทุกๆ ที่ ที่ลูกค้าสามารถเลือกรับบริการได้ รวมถึงแอพพลิเคชั่น หรือ super APP ต่างๆ ซึ่งตอนนี้เรากำลังเชื่อมต่อกับ Robinhood รวมถึงการให้บริการจองผ่านแอพพลิเคชั่นที่ผู้บริโภคใช้ในชีวิตประจำวันให้คลอบคลุมมากยิ่งขึ้นต่อไป
ในส่วนของสื่อสารการตลาด บริษัทฯ ได้นำเสนอการสื่อสารในแคมเปญ “คิดถึง…ให้ถึง” เพื่อกระตุ้นการเดินทางของลูกค้าที่อาจจะไม่ได้มีโอกาสเดินทางในช่วงสถานการณ์ที่ผ่านมาให้กลับมาเดินทาง นอกเหนือจากนี้ เรายังจะทำกิจกรรมทางการตลาดที่ทำให้แบรนด์ของเราเป็นที่จดจำอย่างต่อเนื่องผ่านกิจกรรมต่างๆ โดยกิจกรรมหลักของปีนี้ คือจัดการแข่งขันวิ่งฮาลฟ์มาราธอน บางกอกแอร์เวย์สบูทีคซีรี่ย์ 2022 เพื่อสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนในท้องถิ่น โดยจะจัดในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ อาทิ เกาะสมุย ลำปาง ตราด พังงา และสุโขทัย”