การเคหะแห่งชาติ มีภารกิจหลักในการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้กับประชาชน โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มเปราะบาง ให้สามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น ควบคู่การเดินหน้าพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้อยู่อาศัยในชุมชนการเคหะแห่งชาติ ในทุกมิติ ทั้งมิติสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม อย่างยั่งยืนในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่สร้างผลกระทบด้านภาวะเศรษฐกิจ คนจำนวนมากตกงาน มีปัญหาในการหารายได้ โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายในการลดภาระให้ประชาชน ซึ่งเป็นที่มาของนโยบายการพัฒนาโครงการของการเคหะแห่งชาติในช่วง 3 ปีนี้ จะเน้นพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภทเช่า 100% เพื่อต้องการให้ประชาขนสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น
“เราคำนึงประชาชนเป็นหลัก เพื่อช่วยกลุ่มที่ไม่สามารถซื้อบ้าน แต่ยังพอมีกำลังเช่าบ้านให้มีความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย เพราะถ้าเป็นบ้านขาย ผู้ซื้อต้องมีผ่อนดาวน์ ต้องเข้าไฟแนนซ์ ในขณะที่ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ การขอกู้ธนาคารในช่วงนี้ก็เป็นเรื่องยาก แตกต่างจากบ้านเช่า เมื่อสร้างเสร็จก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยง่ายขึ้น” นายทวีพงษ์ กล่าว
สำหรับแนวคิดนี้ จุดเริ่มต้นเป็นการ “สร้างบ้านด้วยใจ” หลังจากนั้นต้อง “ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” เป็นเรื่องที่มีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการใช้น้ำอย่างประหยัด การใช้พลังงานอย่างมีคุณค่า การจัดการขยะ ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนที่คุ้มค่า และสุดท้ายต้อง “สร้างเพื่อทุกคน” โดยนำแนวคิดการออกแบบ “อารยสถาปัตย์” เข้ามาใช้ในการพัฒนาโครงการ เพื่อคนทุกเพศทุกวัย ทั้งคนพิการ ผู้สูงอายุ มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงที่อยู่อาศัย มีการปรับปรุงห้องน้ำที่มีความสะดวกมากขึ้นรองรับผู้สูงอายุและผู้พิการ เป็นต้น นำไปสู่เป้าหมายเพื่อสร้างสังคมที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืนในระยะยาว