เซ็นทรัล รีเทล ชูจุดยืนค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสีเขียวเจ้าแรก ดัน ซีอาร์ซี ไทวัสดุ เปิดตัว EV Truck รถบรรทุกไฟฟ้าพลังงานสะอาด เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกที่มุ่งให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม พร้อมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การสร้างมูลค่าร่วมกันระหว่างธุรกิจและสังคม
โดยบริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง และสินค้าตกแต่งบ้าน ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ภายใต้แบรนด์ ไทวัสดุ บีเอ็นบี โฮม ออโต้วัน โก! ว้าว และวีฟิกซ์ ประกาศนโยบายธุรกิจสีเขียวลดใช้พลังงานดีเซลเจ้าแรกในวงการธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง และสินค้าตกแต่งบ้าน เปิดตัวอีวีทรัค (EV Truck) รถบรรทุกไฟฟ้าพลังงานสะอาด เสริมระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชน นำร่องขนส่งสินค้าใน 21 สาขา ในเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมุ่งขานรับนโยบายการขับเคลื่อน BCG ติดแผ่นโซล่ารูฟสร้างพลังงานแบบหมุนเวียนในการผลิตไฟฟ้าให้กับร้านค้าเพื่อลดการใช้พลังงานไฟฟ้า ตั้งเป้าขยาย 23 สาขาในปี 2565 ด้วยงบลงทุนกว่า 274 ล้านบาท คาดสามารถลดต้นทุนได้มากกว่า 15 ล้านบาทต่อดือน
นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันราคาน้ำมันทั่วโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนของภาคการผลิตในหลายอุตสาหกรรมที่ต้องปรับตัว และปรับราคาสินค้าเนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ไทวัสดุเล็งเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมมุ่งมั่นยกระดับองค์กรสู่การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนเพื่อเป็นส่วนสำคัญในการลดปัญหาการใช้พลังงานสิ้นเปลือง และเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมของประเทศให้สอดรับกับนโยบายขับเคลื่อน BCG (Bio-Circular-Green Economy) ของรัฐบาลที่มีเป้าหมายเดียวกัน คือ ปกป้องสิ่งแวดล้อม ลดปัญหาโลกร้อนที่เป็นปัญหาระดับโลก ล่าสุดเพื่อลดการใช้พลังงานดีเซลในเรื่องระบบขนส่ง บริษัทฯ ได้นำรถบรรทุกไฟฟ้าพลังงานสะอาด หรือ อีวีทรัค (EV Truck) เสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบโลจิสติกส์ พร้อมลดต้นทุนค่าขนส่งอันเนื่องมาจากปัจจัยภายนอกที่อยู่เหนือการควบคุมของกระแสความผันผวนของตลาดน้ำมันโลกอีกด้วย
โดยนำร่องการใช้รถอีวีทรัคในเดือนพฤษภาคม 2565 นี้ จำนวน 6 คัน ทดลองวิ่งใน 21 สาขา ซึ่งรถจำนวน 1 คัน สามารถวิ่งได้ระยะทางถึง 400 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง คิดเป็นมูลค่า 3 บาท ต่อ 1 กิโลเมตร ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงานจากเดิมที่เป็นพลังงานดีเซลได้ถึง 50% โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าการเพิ่มรถบรรทุกพลังงานสะอาด กว่า 50% รวมจำนวน 30 คัน ในปี 2566 ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ เทียบเท่าการปลูกต้นไม่กว่า 200 ต้น ต่อปี
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เล็งเห็นถึงผลกระทบของการใช้พลังงานไฟฟ้าที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อันเนื่องมาจากปัจจัยของการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงธรรมชาติ ปรับมาใช้พลังงานแบบหมุนเวียนในการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ในช่วงเวลากลางวัน หรือระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบ off-grid ซึ่งสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้โดยไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง โดยได้เริ่มดำเนินการติดตั้ง Solar Roof ให้กับร้านไทวัสดุ ตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 7 สาขา ปี 2564 ติดตั้งจำนวน 8 สาขา และในปี 2565 ติดตั้งเพิ่มเติมจำนวน 23 สาขา ด้วยงบลงทุนกว่า 274 ล้านบาท สามารถช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าได้กว่า 15 ล้านบาท ต่อเดือน รวมถึงการประหยัดใช้พลังงานไฟฟ้า ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ถึง 2.5 ล้านต้น ต่อปี
“ซีอารซี ไทวัสดุ ไม่หยุดยั้งที่จะปรับตัวรับกับสถานการณ์และความท้าทายที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบคุณค่าเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงาน ที่ก่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง อันเป็นหัวใจของยุทธศาสตร์เศรษฐกิจสีเขียว ที่นำมาสู่การทำธุรกิจที่ยั่งยืน” นายสุทธิสาร กล่าวทิ้งท้าย