ธ.ก.ส. เดินหน้า 7 แผนงานเพิ่มพื้นที่สีเขียวและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่ป่าในประเทศ 26 ล้านไร่ พร้อมเติมทุนหนุนการสร้างอาชีพและรายได้ที่มาจากป่าไม้เพื่อสร้างความมั่งคั่งและยั่งยืนตามหลัก BCG พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมปลูกป่า เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 90 พรรษา
(วันนี้ 16 มิ.ย. 65) ณ วัดป่าธรรมวิสุทธิมงคล ตำบลเขาพระงาม อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นประธานในโครงการปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาส มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา โดยมีเกษตรกรภาคีเครือข่าย คณะผู้บริหารและพนักงานในพื้นที่ เข้าร่วมกิจกรรม
โดยประชาชนสามารถใช้ต้นไม้บนที่ดินของตนเองเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันสินเชื่อ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับที่ดิน และต่อยอดไปสู่การประกอบอาชีพ ควบคู่กับการสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันมีชุมชนเข้าร่วมโครงการธนาคารต้นไม้กับ ธ.ก.ส. กว่า 6,838 ชุมชน มีสมาชิกธนาคารต้นไม้ 123,424 คน สามารถปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นบนพื้นที่ประเทศไทย 12,369,563 ต้น พร้อมวางเป้าหมายพัฒนาไปสู่ชุมชนไม้มีค่า เพื่อสร้างรายได้จากผลผลิตและกิจกรรมจากป่าไม้ โดยมีแผนในการดำเนินงาน ดังนี้
- แผนงานสร้างมูลค่าเพิ่มชุมชนไม้มีค่า โดยสนับสนุนให้ชุมชนที่ดำเนินโครงการธนาคารต้นไม้กับ ธ.ก.ส. พัฒนาไปสู่ชุมชนไม้มีค่า จำนวน 321 ชุมชน มีการจัดทำกระบวนการเรียนรู้ร่วมกับภาคีเครือข่ายและปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อสร้างอาชีพและรายได้จากกิจกรรมและผลผลิตที่ได้จากไม้และป่าไม้ เช่น การเพาะกล้าไม้ การเผาถ่าน การทำน้ำส้มควันไม้ สมุนไพร การแปรรูปไม้เป็นเฟอร์นิเจอร์ และการรับจ้างปลูกต้นไม้ เป็นต้น คาดว่าจะเพิ่มรายได้ให้ชุมชนกว่า 90 ล้านบาท
- แผนงานสร้างผู้ประเมินมูลค่าต้นไม้ ธ.ก.ส. ร่วมกับคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) จัดทำหลักสูตรสร้างผู้ประเมินมูลค่าต้นไม้ เพื่อให้ความรู้กับเกษตรกรในการตรวจวัดและประเมินมูลค่า ส่งเสริมการใช้ต้นไม้เป็นหลักประกันทางธุรกิจ โดย ผู้ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรจะได้รับวุฒิบัตรจาก มก. จำนวน 430 ชุมชน จำแนกเป็นกรรมการและสมาชิกโครงการธนาคารต้นไม้ 976 คน พนักงาน ธ.ก.ส. 528 คน รวมผู้ผ่านการอบรมทั้งสิ้น 1,504 คน
- แผนงานสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme : LESS) และการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Offset) ธ.ก.ส. มุ่งสร้างการตระหนักรู้ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และร่วมรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วยการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างสมดุลเชิงนิเวศด้วยการสนับสนุนชุมชน จำนวน 2,721,900 บาท ให้กับธนาคารต้นไม้ที่ได้รับการรับรองปริมาณก๊าชเรือนกระจกจากองค์การบริหารจัดการก๊าชเรือนกระจก (อบก.) จำนวน 60 ชุมชน คิดเป็นปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่กักเก็บได้ 468,355 ตันคาร์บอน นอกจากนี้ยังพัฒนาชุมชนธนาคารต้นไม้บ้านท่าลี่ และธนาคารต้นไม้บ้านแดง จังหวัดขอนแก่น ให้ขึ้นทะเบียนโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program :T-VER) ซึ่งถือเป็นการเตรียมพร้อมในการพัฒนาไปสู่ระดับที่สามารถซื้อ – ขายคาร์บอนเครดิต และการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Offsetting)
- แผนงานสนับสนุนชุมชนลดมลพิษ ผลจากการทำลายสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ทำให้เกิดมลพิษ ทั้งทางอากาศ ทางน้ำและทางดิน ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตที่ดีของมนุษย์ ธ.ก.ส. ได้สนับสนุนชุมชนธนาคารต้นไม้ ในการดำเนินกิจกรรมลดมลพิษตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดโดยชุมชน เช่น กำหนดเกณฑ์จำนวนต้นไม้ ชนิดพันธุ์ไม้ พื้นที่ปลูกการดูแลรักษา โดย ธ.ก.ส. สนับสนุนงบประมาณให้ชุมชนที่เข้าร่วมกิจกรรม ชุมชนละ 4,000 บาท ซึ่งมีธนาคารต้นไม้เข้าร่วมโครงการ จำนวน 24 ชุมชน
- แผนการใช้ต้นไม้เป็นหลักประกัน ธ.ก.ส. ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในการจดทะเบียนไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจ ซึ่งผลการดำเนินงานมีเกษตรกรนำต้นไม้มาใช้เป็นหลักประกัน จำนวน 3,096,499 บาท
- แผนการจัดทำโครงการส่งเสริมการปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สนับสนุนให้ชุมชนตระหนักถึงผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเตรียมการตั้งฐานการชดเชย การปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Offsetting) ตั้งเป้าหมายในการเข้าร่วมโครงการ จำนวน 76 ชุมชนและมีชุมชนที่เข้าร่วมตั้งฐานแล้ว 9 ชุมชน
- แผนการจัดทำโครงการปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวเพื่อลดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งในปีนี้ดำเนินการปลูกป่าไปแล้วจำนวน 129,000 ต้น รวมถึงการดำเนินกิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ ในครั้งนี้ พร้อมเป้าหมายดำเนินกิจกรรมดังกล่าวในพื้นที่อื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง