กสิกรไทยผนึกเจเอ็มที ร่วมทุน 10,000 ล้านบาท จัดตั้งบริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด (JK AMC) บริษัทร่วมทุนแห่งแรกในไทย ระหว่างธนาคารพาณิชย์และบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ตามนโยบายธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์โควิด ชี้การจัดตั้งบริษัท JK AMC ขึ้นมาส่งผลดีต่อการบริหารจัดการหนี้เสียของธนาคารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มโอกาสให้ลูกหนี้ได้รับข้อเสนอการชำระหนี้ที่เหมาะสม เมื่อปรับตัวดีขึ้นก็จะสามารถเข้าถึงการขอสินเชื่อในระบบต่อไป
ด้านนายปิยะ พงษ์อัชฌา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจ มาร์ท และกรรมการ บมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส กล่าวว่า แนวโน้มหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันอยู่ที่ประมาณร้อยละ 90 ของ GDP ทั้งนี้ ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว และความเปราะบางของเศรษฐกิจในปัจจุบัน ยิ่งจะทำให้สถานการณ์หนี้ด้อยคุณภาพมีโอกาสเพิ่มขึ้น ซึ่งหนทางในการแก้ปัญหาหนึ่งในนั้นต้องขอขอบคุณธนาคารแห่งประเทศไทยที่ได้ริเริ่มนโยบายส่งเสริมการนำกลไกของ AMC มาช่วยประชาชนในช่วงวิกฤตโควิด ทำให้ KBank และ JMT ได้หารือกันเพื่อตอบสนองนโยบายดังกล่าว โดยได้บรรลุข้อตกลงเพื่อร่วมกันจัดตั้งบริษัทร่วมลงทุน JK AMC ขึ้นมาได้ โดยกลุ่ม JMT ได้ลงทุนผ่านบริษัทย่อย บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจ จำกัด (JAM) ทั้งนี้ JK AMC ถือเป็นบริษัทร่วมทุนแห่งแรกในไทยที่ได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ด้วย JMT มีความสัมพันธ์ที่ดีกับธนาคารกสิกรไทยมายาวนาน มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจนี้ รวมทั้งยังมีบริษัทในเครือที่จะช่วยให้ JK AMC ดำเนินธุรกิจได้ตามเป้าหมายและมีต้นทุนที่แข่งขันได้ นอกจากนี้การจัดตั้ง JK AMC ยังช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกหนี้ได้รับความช่วยเหลือผ่านข้อเสนอการชำระหนี้ที่เหมาะสม เมื่อปรับตัวดีขึ้นก็จะสามารถกลับมาขอสินเชื่อในระบบต่อไป
นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า JK AMC มีเงินทุนเริ่มต้นในการจัดตั้งบริษัทจำนวน 10,000 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ซื้อหนี้เสียทั้งที่มีหลักประกัน (Secure) และไม่มีหลักประกัน (Unsecure) จากธนาคารกสิกรไทย สถาบันการเงิน หรือบริษัทอื่นๆ มาบริหารจัดการ โดยตั้งเป้าหมายก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 ของธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ภายใน 3 ปีนี้
ศักยภาพทางธุรกิจของ JK ที่จะส่งเสริมให้ไปถึงเป้าหมายทางธุรกิจได้คือ 1. ความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารหนี้ของ JMT และ JMT ยังมีบริษัทในกลุ่มที่จะช่วยให้ JK AMC มีต้นทุนที่แข่งขันได้ 2. การใช้ช่องทางต่างๆ ของธนาคารช่วยประชาสัมพันธ์ทรัพย์ NPA ไปสู่ลูกค้าที่สนใจ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้ซื้อทรัพย์ NPA ทั่วประเทศ และ 3. โอกาสเพิ่มมูลค่าธุรกิจอื่นๆ ให้ครบวงจร เช่น การรับปรับปรุงบ้านให้กับผู้ซื้อทรัพย์ด้อยคุณภาพ และราคาที่สมเหตุสมผล การช่วยเหลือลูกค้าที่มีประวัติเครดิตที่ดี เป็นต้น โดยบริษัท JK AMC ได้ถูกจัดตั้งอย่างเป็นทางการ และเริ่มดำเนินธุรกิจตั้งแต่เดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป